บท
ตั้งค่า

2

“ขอฉลองให้กับรองแชมป์ของเราว่ะ มิสเตอร์เครื่องบิน โอ๊ย!”

คนพูด พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็โดนคนข้างๆ สะกิด (ตบ) เข้าเบาๆ ตรงศีรษะ เล่นเอาหัวแทบคะมำ จนต้องหันมามองคนทำ แล้วแกล้งทำหน้าซื่อปนเศร้า พลางคลำหัวป้อยๆ

“เจ็บนะโว้ย ไอ้สัณฑ์ ตบมาได้มือหนักเป็นบ้า นี่ถ้าติงต๊องขึ้นมาใครรับผิดชอบวะ พวกพนักงานที่รีสอร์ตของฉันมีหวังต้องตกงานแน่ๆ ถ้าผู้บริหารหนุ่มสุดหล่อดันปัญญาอ่อนไปแบบนี้”

“บอกกี่หนแล้วไม่ให้เรียกแบบนี้ไอ้ธาม”

มือตบทำตาดุๆ ธรรมธาดาอมยิ้มอย่างทะเล้น ขณะที่เพื่อนรักอีกสองคนหัวเราะอย่างอดไม่อยู่ จิณณวัตร ยื่นแก้วเหล้าให้กับเศรษฐสัณฑ์ พร้อมกับเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ

“ใจเย็นๆ สิโว้ย เดี๋ยวก็หน้าแก่หรอก เอ้าๆ ดื่มเหล้าแก้โมโหสักนิดนะ เครื่องบิน หึๆ”

“ไอ้เจมส์”

หนนี้เขาหันไปมองเพื่อนสนิทอีกคนด้วยสายตาขมึงถึงไม่แพ้กัน แต่อีกฝ่ายก็ทำหน้าระรื่น แถมยังยิ้มยั่วให้เสียอีก ก็หมดแรงจะหาเรื่อง เพราะรู้ว่าหาเรื่องไป ไอ้สามหน่อนี่มันก็คงจะไม่เลิกเรียกเขาด้วยชื่อฉายาบ้าๆ นี่ แถมยังจะล้อให้หนักข้อขึ้นไปเสียอีกด้วย ไอ้ฉายาประหลาดนี่เป็นเรื่องติดตัวมาตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาล เพราะน้าของเขาแท้ๆ ที่หลอกว่ามีมนุษย์ต่างดาวอยู่บนเครื่องบิน จะมาจับตัวคนไปทดลอง แถมเขายังไปดูหนังไซไฟมนุษย์ต่างดาวบุกโลกเข้าไปอีก พอเห็นเครื่องบิน บินผ่านบนท้องฟ้าเลยเกิดอาการหลอน และกลัว จนต้องร้องไห้งอแงแอบซ่อนเสียทุกที จนเพื่อนๆ ล้อเลียนกันว่าไอ้เครื่องบิน เพราะเขากลัวเครื่องบินนั่นเอง กว่าจะมาหายกลัว ก็ปาเข้าไปเกือบประถมสามแล้ว แต่มันก็เป็นฉายาที่เพื่อนๆ เรียกกันติดปาก ห้ามก็ไม่เลิก จนติดตัวมาจนโตนี่แหละ

เมื่อมันห้ามไม่ได้ แถมห้ามก็คงจะลามปาม เศรษฐ์สัณฑ์เลยถอนหายใจ แล้วรับแก้วเหล้ามาจากจิณณวัตร มากระดกดื่มเข้าเสียเลย เมื่อเห็นเพื่อนรักไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วย ลามือไปเสียดื้อๆ หนุ่มจอมยั่วแหย่อย่างธรรมธาดาก็เริ่มหยอดยั่วอีกหน

“ตอนนายไปรับอาจารย์เคน นายไปทางเรือ หรือว่าไปทางเครื่องบินวะ ไอ้สัณฑ์ ไม่กลัวมนุษย์ต่างดาวมาจับไปแล้วหรือวะ”

“คนบ้าอะไรไปญี่ปุ่นทางเรือวะ”

หนนี้จิณณวัตรทำเสียงดุๆ ใส่ธรรมธาดาเหมือนกับจะเข้าข้าง เศรษฐ์สัณฑ์

“ไอ้สัณฑ์มันขึ้นเครื่องบินไปน่ะแหละ แต่ว่าก่อนไปมันให้ลูกน้องสแกนดูก่อนว่ามีมนุษย์ต่างดาวปลอมตัวมาหรือเปล่า อ้อ...เห็นว่าจ้างการ์ดส่วนตัวไปด้วยตั้งหลายคน เอาไว้กันเผื่อโดนมนุษย์ต่างดาวจับตัว ฮี่ๆ”

“ไอ้พวกนี้ เดี๋ยวพ่อก็เตะคนล่ะทีหรอก”

เหลืออดแล้วคนที่โดนล้อซ้ำๆ กับฉายาของตนเองลุกพรวดขึ้นทันที ก่อนจะเริ่มมหกรรมไล่เตะสองเพื่อนรักไปรอบๆ สนามโดยมีนันทนะ ที่ไม่ได้ร่วมวงล้อเลียนอะไรด้วย มองภาพนั้นด้วยสายตากลุ้มๆ กับอาการวัยกลับของเพื่อนรักทั้งสามคน ที่กำลังไล่เตะ ไล่ล้อ ไล่ด่ากันด้วยฉายาของตัวเองจนเสียงดังลั่น

“ไอ้เครื่องบิน”

“ไอ้หัววุ้น”

“ไอ้หัวเกรียน”

เสียงตะโกนว่ากันไปมาดังลั่น นันทนะได้แต่ส่ายหน้า นั่งนิ่งกินเหล้าต่อหน้าตาเฉย จนเมื่อเห็นว่านันทนะไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย ปล่อยให้พวกเขาไล่กันด่ากันเสียเหนื่อย จิณณวัตรจึงตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

“ไอ้แห้ว”

“เฮ้ย! เกี่ยวอะไรด้วยวะ”

หนนี้คนนิ่งหันขวับเลยทันที ฝ่ายที่ตะโกนล้อฉายา ถึงกับยิ้มกริ่มแล้วหัวเราะลั่น

“เห็นนั่งเต๊ะอยู่ เลยหมั่นไส้โว้ย!”

“อ้อ...”

นันทนะวางแก้ว ก่อนจะถลกแขนเสื้อ แล้วลุกขึ้นยืนบ้าง

“จะเอาใช่ไหม ไอ้หัวเกรียน ไม่โดนเตะมานานแล้วนะ วันนี้ขอไล่เตะเจ้าพ่ออ่างสักทีเหอะวะ”

“มาให้ทันนะโว้ย! ฮ่าๆ”

เสียงหัวเราะ เสียงสบถด่า ดังลั่นเมื่อสี่หนุ่มไล่แกล้งกันไปรอบๆ พื้นที่อันแสนกว้างขวางของสนามแข่งรถ มันก็ทำให้หนุ่มๆ แม้จะบ้าพลังกันขนาดไหน สุดท้ายก็เหนื่อยจนล้มนอนแผ่เอาง่ายๆ กับบนพื้นสนามแข่งเสียเลยทั้งสี่คน พวกเขานอนมองไปยังท้องฟ้าแห่งรัตติกาล ที่วันนี้มีพระจันทร์เต็มดวง ทอแสงนวลอย่างงดงาม

“วันนี้พระจันทร์สวยดีนะ”

นันทนะเอ่ยขึ้นก่อน พลางมองบนฟ้าด้วยสายตาเคลิ้มฝัน เล่นเอาธรรมธาดาคนปากไวช่างแหย่ที่นอนแผ่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นมาลอยๆ อย่างกวนๆ

“ถ้าเกิดว่าฉันเป็นผู้หญิง นายชวนชมจันทร์แบบนี้ คงจะคิดเคลิ้มแน่ๆ เลยว่ะ นี่ขนาดเป็นผู้ชาย เผลอมองฟ้าดูจันทร์ตามนาย ยังชักจะเคลิ้มเลย”

“ไอ้บ้า เกย์แตกหรือยังไงกันวะ”

จิณณวัตรที่นอนถัดไปหันมาว้าก แล้วหัวเราะคนเดียวหึๆ เมื่อนึกสภาพสองเพื่อนรักเปลี่ยนสถานะกลายไปเป็นรักเพื่อน

“ดูไม่จืดเลยนะโว้ย ถ้าเกิดว่านายกับไอ้มาร์ค เฮ้อ...จะอ้วกว่ะ”

“พอๆ ไอ้เจมส์”

คนโวยขึ้นมาอีกทีคือเศรษฐ์สัณฑ์ที่เผลอคิดภาพตามเข้าอีกคน

“ไม่ไหวนะโว้ย ถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นจริงๆ งานแต่งพวกนายอย่ามาชวนนะ”

“โอ๊ย!”

ธรรมธาดาถึงกับผุดลุกขึ้นนั่ง มองสองหนุ่มที่นอนถัดไปจากเขาอย่างเคืองๆ ก่อนจะ ทำท่าเก๊กหล่ออย่างสุดชีวิต

“หน้าตาแบบนี้ หล่อไฮโซ มีชาติตระกูล ระดับนายธรรมธาดา ไม่กินเพื่อนหรอกว่ะ ยิ่งอย่างไอ้มาร์คยิ่งไม่ไหว”

“ทำไม ฉันเป็นยังไงว่ะ”

นันทนะหันมามองตาขวางๆ เล่นเอาอีกฝ่ายหนึ่งอมยิ้ม ก่อนจะทำหน้าทะเล้น

“แค่นายเป็นเพศเดียวกัน มันก็ไม่ไหวแล้วล่ะว่ะ เอ...มาทำตาขวางใส่ขนาดนี้ หรือว่านายแอบคิดอะไรกับฉันวะ ไม่เอานะโว้ย บรื๋อ”

“เดี๋ยวได้โดนเตะรอบสองหรอก”

นันทนะขู่ฟ่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้าอีกหน เลิกมองหน้ากวนประสาทของเพื่อจอมกวนของตนเองเสีย เพราะขืนไปต่อปากต่อคำด้วย คนอย่างธรรมธาดาก็ไม่มีทางหยุดแหย่ง่ายๆ

“จะว่าไปเราก็ยังโสดกันหมดเลยนะนี่”

เศรษฐ์สัณฑ์เปรยๆ ขึ้นมาเมื่อเงียบกันไปสักครู่ สี่หนุ่มโฟว์เดวิลมีนิสัยเหมือนๆ กันอีกอย่างหนึ่งคือรักความโสด แต่ก็ไม่ได้หวงเนื้อหวงตัวกันสักเท่าไหร่นัก สี่หนุ่มต่างคนก็มีวีรกรรมส่วนตัวสุดแสบกันทั้งนั้น

“ว่าจะโสดให้สาวเพ้อไปอีกสักสี่ห้าปีว่ะ”

คนชอบแหย่เอ่ยสวนขึ้นมาทันที พร้อมกับทำหน้ายิ้มๆ กวนๆ ตามแบบของตนเอง

“ยังไม่อยากมีใครว่ะ กลัวน้องๆ ที่เป็นเด็กในสังกัดจะร้องไห้เสียดายกัน หึๆ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel