5 ลาสิกขา
"พี่คุณใช่ไหมคะ" เสียงหวานเอ่ยทักทาย พลางเอียงหน้ามองชายหนุ่มอย่างมีจริตจะก้าน
ละอองรักไม่แน่ใจว่าตัวเองคิดผิดหรือเปล่า ที่แกล้งเดินมาทักเขาก่อนนังนรีวรรณจะเดินมาถึง เพราะสายตาที่เขากะพริบถี่ๆ มองเธออย่างคนออกจะตกใจ แปลกใจ หรืออะไรสักอย่าง เธอก็ไม่แน่ใจ ก่อนเขาจะปรับสีหน้าให้เรียบเฉย
"อ๋อ ครับ เอ่อ..." คำตอบของเขาพร้อมกับสายตาที่มองเธอตั้งแต่หัวจรดฝ่าเท้า ดวงหน้าที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ยังดีที่วันนี้เธอไม่ได้แต่งหน้าเข้ม ไม่งั้นเขาคงจำเธอไม่ได้แน่ ชุดเดรสสีดำพอดีตัวสั้นเหนือเข่ากับรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วสีเดียวกัน ก่อนสายตาเขาจะมองหน้าเธออีกครั้ง
"ฝุ่นไงคะ ที่วันนี้เราทานข้าวด้วยกันตอนเที่ยง" เธอเอ่ยทบทวนความจำให้เขา
"เอ่อ..ครับ ลาสิกขาแล้วหรือครับ"
นอกจากเธอจะอึ้งกับคำถามของเขา ผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ข้างเขาก็ดูจะมีสีหน้าไม่ต่างจากเธอนัก
'คิดถูกหรือคิดผิดวะ ที่เข้ามาทัก'
แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะแก้ไขไม่ทันเสียแล้ว ละอองรักจำต้องปั้นสีหน้าเอ่ยตอบ
"ฝุ่นแค่ไปทำบุญค่ะ ไม่ได้ไปถือศีล แล้วก็ไม่ได้เป็นแม่ชีด้วยค่ะ" เธอพยายามตอบเขาอย่างใจเย็น
"พี่คุณรอนานไหมคะ" เสียงใสเอ่ยทักมาจากด้านหลัง ละอองรักนึกรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร เสียงที่เธอจำได้อีกทั้งเมื่อครู่เธอก็เห็นนรีวรรณกำลังเดินเข้ามา
"อ้าว ตายจริง ฝุ่น เธอเองหรือ ไม่ได้เจอตั้งนานสบายดีนะ"
พอเธอหันหน้าไปมองเสียงทักนั้น นรีวรรณก็หันมาทักเธอด้วยท่าทางแปลกใจ
"รู้จักกันหรือ" เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างแปลกใจ พลางเอ่ยถาม
"ค่ะ ฝุ่นเป็นเพื่อนนรี ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วน่ะค่ะ แต่พักหลังเห็นว่าไปบวชชีเลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร นี่เธอสึกออกมาแล้วหรือ" ในท้ายประโยคนรีวรรณหันมาถาม แล้วหล่อนก็นั่งเก้าอี้ตัวสูงข้างไตรคุณ กลายเป็นเธอที่ยังยืนเด๋อด๋าไปทางไหนไม่ถูก
เธอเห็นเขาพยักหน้ารับ แล้วก็หันไปสั่งเครื่องดื่มให้นรีวรรณ
"นั่งด้วยกันสิฝุ่น มาคนเดียวหรือ ดื่มอะไรดี ดื่มแอลกอฮอล์ได้ไหม"
"อ้าว นรีหรอกหรือ ฉันมองตั้งนานนึกว่าใคร ก็ว่าอยู่ว่าไม่ใช่คุณวชิระ คิดว่าไม่ใช่เธอเสียอีก"
ดูเหมือนอันดาจะมาทันเวลาพอดี ในเวลาที่ละอองรักไม่รู้จะไปทางไหนต่อ เพราะคิดแค่จะมาทักทายไตรคุณให้นังนรีวรรณเห็นเผื่อมันจะเจ็บจี๊ดๆ ขึ้นมาบ้าง แต่เปล่าเลยกลายเป็นเธอที่แทบจะวางสีหน้าไม่ถูก ตั้งแต่ถูกเขาทักเรื่องลาสิกขา
"แหม นึกว่าใคร อันดานี่เอง มาทานข้าวกันสองคนหรือ" ยายนั่นนอกจากจะไม่เอ่ยถึงไอ้วอก ยังเปลี่ยนเรื่องเสียอีกด้วย อันดายิ้มหยันให้ก่อนจะเอ่ย
"จ้ะ มาทานข้าวกัน เมื่อวันก่อนฉันไปธนาคารยังเจอคุณวชิระเลย ไม่ได้มาด้วยกันหรือ" คราวนี้นรีวรรณออกจะหน้าตึงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะปรับรอยยิ้มหวานให้เพื่อนสองคนอย่างไม่ยินดีนัก
"ไปนั่งโต๊ะกันดีกว่าไหม เพื่อนยืนนานแล้ว จะได้นั่งคุยกันด้วย" ผู้ชายที่นั่งเงียบๆ มองคนนั้นทีคนนี้ทีอยู่ข้างๆ ไตรคุณเอ่ยบอก พลางเชิญสองสาวที่ยืนอยู่ให้ไปนั่งที่โซฟาชุดใหญ่ด้านริม ยังไม่ทันได้มีใครตอบรับ ยังมองกันไปมา แต่เจ้าตัวกลับหันไปสั่งเครื่องดื่มชุดใหญ่เสียแล้ว
"ดีเลยค่ะ ไม่ได้เจอนรีตั้งนาน มีเรื่องเล่าเยอะแยะเลย" อันดาเอ่ยบอกเพื่อนของไตรคุณอย่างสดใส ก่อนจะหันสายตาอาฆาตไปมองที่นรีวรรณ เห็นเจ้าหล่อนทำสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไรนัก แล้วก็หันไปคล้องแขนละอองรักเพราะยายเพื่อนตัวดีที่อยู่ๆ ก็ลุกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่พอถูกนังนรีวรรณแซะเข้าหน่อยก็แทบจะไปไม่เป็น จนอันดาต้องออกโรงรีบเข้ามาช่วยเพื่อน
"จะดีหรือ" ละอองรักหันไปกระซิบกระซาบกับอันดา อย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
"กล้าเดินมาขนาดนี้ กลัวอะไรวะ ยายนั่นสิต้องกลัว" เธอไม่ได้กลัวนังนรีวรรณ แต่เห็นสีหน้าเขาตอนที่เอ่ยถามเรื่องแม่ชี แล้วก็ชวนให้เสียความมั่นใจไปซะอย่างนั้น
นรีวรรณคล้องแขนไตรคุณเดินมาที่โซฟาตัวยาว ละอองรักกับอันดาจึงต้องไปนั่งโซฟาตัวยาวอีกด้าน ทิ้งให้ชายหนุ่มอีกคนนั่งอยู่ที่โซฟาเดี่ยวอีกตัว เขาหันมองซ้ายทีขวาที หวังให้ใครสักคนจะได้แนะนำให้รู้จัก
"ฝุ่น กับอันดา เพื่อนสมัยเรียนของนรีเองค่ะ ส่วนนี่พี่เมฆ แล้วก็พี่ไตรคุณ" นรีวรรณจึงเป็นคนเอ่ยแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน
"แล้วเมื่อกี้เห็นเธอกำลังคุยกับพี่คุณอยู่ รู้จักกันมาก่อนหรือคะ" นรีวรรณหันไปถามชายหนุ่มข้างๆ ที่ตัวเองยังคล้องแขนเขาไว้ไม่ยอมห่าง
"เพิ่งรู้จักกันวันนี้ครับ เจอกันที่วัดน่ะ"
"อ๋อ ฝุ่นเขาชอบเข้าวัด ไปบวชชีอยู่บ่อยๆ น่ะค่ะ"
"แต่เหมือนพี่คุ้นหน้าน้องฝุ่นจังเลย แต่นึกไม่ออก" เมฆเอ่ยบอก พลางทำหน้าครุ่นคิด
"ยังเล่นอีกหรือมึง มุกนี้" ไตรคุณมองเพื่อนพลางทำสายตารู้ทัน
"กูไม่ได้เล่นมุก กูคุ้นจริงๆ" เมฆยังพยายามคิดอยู่
"พี่รู้จัก La Long ไหมล่ะคะ ถ้ารู้จักก็คงจะคุ้นจริงๆ" กลายเป็นอันดาที่เอ่ยไขข้อข้องใจให้เมฆ
"เออ ใช่ นึกออกแล้ว ตอนแฟชั่นฤดูหนาวที่แล้ว กูยังไปดูอยู่เลย" เมฆทำเสียงดีใจที่นึกออก หันไปบอกไตรคุณ
"หน้าอย่างมึงนะหรือไปดูแฟชั่น"
"เออ กูจะดูอะไรก็ช่างกูเถอะ ถึงว่าพี่คุ้นๆ เรา"
ละอองรักยิ้มให้อย่างนึกดีใจ ที่มีคนจำแฟชั่นของเธอได้ ถึงเขาจะไปดูนางแบบก็เถอะ
"งั้นซัมเมอร์นี้ พี่เมฆห้ามพลาดนะคะ เดี๋ยวฝุ่นให้บัตร VIP เลย" เธอหันไปหลิ่วตาให้พี่เมฆ จนลืมนึกว่ายังมีอีกคนอยู่ร่วมโต๊ะ และเหมือนเขาจะสังเกตเธออยู่ไม่น้อย
"พี่ขอบัตรเข้าหลังเวทีได้ไหม"
"จัดไปค่ะ" เธอกะพริบตาข้างหนึ่งให้เขาอย่างคนรู้ทัน เมฆก็ยิ้มแก้มแทบแตก ส่วนอีกคนได้แต่ขมวดคิ้วมอง
"แล้วจัดที่ไหนคราวนี้ ถ้ายังไม่มีสถานที่ พี่ขอแนะนำโรงแรม B.Rak Hotel & Resort ของเพื่อนพี่เอง" พี่เมฆผายมือไปทางไตรคุณ
"น่าสนใจนะคะ" เธอตอบพี่เมฆแต่ชายตาไปทางผู้ชายอีกคนและเหมือนเขาจะหันมาพอดี ทีแรกคิดจะลองใช้สายตายั่วเขาสักหน่อย แต่พอสายตาคมมองมาที่เธอ กลับทำเธอประหม่าเสียอย่างนั้น จนท้ายที่สุดต้องรีบหันสายตากลับมาสนใจเรื่องราวที่พี่เมฆเอ่ยต่อจากนั้น
อันดายังเอ่ยแซะนรีวรรณอยู่เป็นระยะๆ และดูเหมือนนังนรีนั่นจะเล่นบทผู้ถูกกระทำ ไม่ตอบโต้ บางครั้งก็ทำสีหน้าราวกับนางเอกถูกนางร้ายสองคนรุมด่าอย่างนั้นแหละ
กลับเป็นละอองรักที่ไม่รู้จะเอ่ยด่านังนั่นอย่างไรหรือพูดจาถากถางอย่างไร เพราะกลัวตัวเองจะห้ามใจลุกขึ้นไปตบมันไม่ได้ ได้แต่นั่งฟังอันดาออกโรงให้อย่างเงียบๆ และก็มีพี่เมฆที่ชวนคุยอยู่เรื่อยๆ ส่วนเขาได้แต่นั่งฟังจะคุยก็แค่ตอนที่นังนรีวรรณออดอ้อนถามอะไรเขาถึงจะก้มหน้ามาคุยกระซิบอยู่กับมันแค่นั้น
แต่เธอก็ยังแอบเห็นสายตาสำรวจของเขามองมาที่แก้วเหล้าตรงหน้าเธอด้วย แล้วเหมือนพนักงานจะเติมให้เธอหลายรอบแล้วด้วย