ฝากรักเมียเด็กท่านประธาน

66.0K · จบแล้ว
ปะหนัน
40
บท
3.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

*** ศรัณย์ท่านประธานที่ต้องการเพื่อนคุยชั่วคราวเพื่อแก้เหงา*** *** มุกดา สาวน้อยนักศึกษา จากเพื่อนคุยคืนเดียวกลายมาเป็นเมียเด็กท่านประธาน *** การปิดบังตัวตนที่แท้จริงของศรัณย์ทำให้ความรักและความไว้ใจที่มุกดามีให้จบลง เธอรักเขาและไม่เคยมีความลับใดแต่เขากลับไม่เคยให้เธอรู้จักแม้กระทั่งตัวตนที่แท้จริง ************ **** ลูกในท้องไม่ใช่เครื่องพิสูจน์ความจริงใจจากใครถึงมุกดาจะอายุน้อยแต่ลูกคนเดียวเธอเลี้ยงได้....จากความเสียใจในวันนี้ขอหนีไปให้ไกลจากคนหลอกลวง ***

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันประธานรักหวานๆดราม่าโรแมนติกแต่งงานก่อนรักพาลูกกหนีฟินๆมีลูก

อยากคุยกับคนไม่รู้จัก

ตอนที่ 1

อยากคุยกับคนไม่รู้จัก

“ผู้จัดการบอกว่าคุณอยากคุยกับฉันมีอะไรหรือเปล่าคะ”

มุกดาสาวน้อยนักศึกษาปี 2 ที่มาทำงานในผับแห่งนี้เดินมาหาลูกค้าด้วยด้วยความกังวลเมื่อถูกผู้จัดการแจ้งว่าชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าต้องการพบเธอ

“ไม่มีอะไรหรอกผมแค่เห็นว่าคุณยังอายุไม่มากเลยอยากรู้ว่าทำไมถึงมาทำงานแบบนี้ก็เลยอยากจะทำความรู้จัก”

ศรัณย์นักธุรกิจหนุ่มที่วันนี้มาเที่ยวในคราบของพนักงานธรรมดาคนหนึ่งเขามักจะหาเพื่อนคุยแบบนี้ตลอดทั้งคืนที่มาเที่ยวและวันนี้เขาก็เลือกมุกดาทั้งที่ปกติแล้วเขาจะเลือกแต่ผู้ชายมานั่งคุยเพราะไม่อยากมีปัญหาเรื่องของชู้สาวแต่ไม่รู้เหมือนกันทำไมมุกดาถึงทำให้เขารู้สึกสนใจเธอถึงเพียงนี้

“ฉันต้องการหาเงินเรียนค่ะที่บ้านตอนนี้เหลือแต่แม่ก็เลยต้องช่วยกันไม่อย่างนั้นคงไม่มีเงินจ่ายค่าลงทะเบียนไหนจะค่าห้องพักอีก”

หญิงสาวในชุดพนักงานเสิร์ฟถอนหายใจตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้มดูมีความสุขมากขึ้นหลังจากที่รู้ว่าสาเหตุที่ชายหนุ่มตรงหน้าต้องการพบเธอจากตอนแรกที่เป็นกังวลว่าเธออาจจะเผลอไปทำอะไรไม่ถูกใจก็เลยโดนแขกเรียกมาตำหนิ

“นั่งคุยกับผมก่อนสิ...ผมบอกผู้จัดการคุณไว้แล้วว่าวันนี้ผมต้องการคุยกับคุณ”

ศรัณย์ยกแก้วขึ้นดื่มและไม่ได้อธิบายอะไรต่อสร้าง ความแปลกใจให้กับหญิงสาวพี่กำลังมองท่าทางของเขาเพื่อประเมินสถานการณ์

“ทำไมคุณถึง เอ่อ…”

มุกดาทำถ้ากล้าๆกลัวๆไม่กล้าจะเอ่ยถามโดยตรงว่าเพราะอะไรถึงเลือกเธอเข้ามาคุยและอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะเดาออกว่าเธอกำลังสงสัย

“ผมมาเที่ยวคนเดียวก็หาเพื่อนคุยไปเรื่อยแล้ววันนี้ผมก็เลือกคุณแต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะแต่ไม่ต้องกลัวปัญหาเรื่องงานผมจ่ายค่าชดเชยให้ผู้จัดการคุณแล้ว”

“ไม่มีปัญหาค่ะถ้าผู้จัดการรับทราบฉันก็สบายใจ”

ทั้งสองคนนั่งคุยกันจากที่นั่งมีระยะห่างก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้กันมากขึ้นเพราะเสียงเพลงที่ดังทำให้ต่างคนต่างคุยและไม่ได้ยินเสียงกันอย่างชัดเจน

“คุณมีเพื่อนเยอะไหม”

ตลอดบทสนทนาศรัณย์มักจะให้มุกดาเป็นคนเล่าเรื่องของเธอและนี่ก็เป็นคำถามแรกที่เขาถามด้วยสีหน้าที่ดูเปลี่ยนไปจากที่ดูมีความสนุกสนานเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังเฝ้ารอคำตอบ

“เพื่อนที่กรุงเทพฯมีไม่เยอะหรอกค่ะแต่ถ้าเพื่อนที่ต่างจังหวัดก็เป็นเพื่อนกันทั้งหมู่บ้านเลย”

ศรัณย์ขอให้มุกดาเล่าถึงเพื่อนๆของเธอให้ฟังจากที่ชายหนุ่มรับรู้เรื่องราวของมุกดาจากที่เขาคิดว่าหญิงสาวเป็นเพียงแค่ สาวต่างจังหวัดที่มีฐานะจนคงจะไม่ค่อยมีเพื่อนคบหาเพราะอย่างตัวเขาเองก็มีแค่เพื่อนที่หวังเข้ามาพึ่งพาจากการที่เขาเป็นประธานบริษัทและมีฐานะร่ำรวยเท่านั้นทำให้เขารู้ว่าคิดผิด

“ฉันมีเพื่อนทั้งรวยทั้งจนแต่เราก็เป็นเพื่อนกันนะคะ ทุกวันนี้เพื่อนที่กรุงเทพฯไม่มีใครสักคนเลยค่ะที่จะจนแบบฉันแต่ทุกคนก็คอยช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่อย่างที่ฉันได้ทำงานอยู่ที่ผับก็เพราะว่าเพื่อนช่วยฝากให้”

มุกดาเล่าถึงเพื่อนด้วยเสียงเจื้อยแจ้วสีหน้าของเธอแสดงออกถึงความภูมิใจที่เมีเพื่อนที่รักและหวังดีกับเธอเสมอแต่หญิงสาวไม่รู้เลยว่ามันกำลังซ้ำแผลในใจของศรัณย์เพราะในชีวิตของเขาแทบจะหาคนจริงใจได้ยาก เขาดูมีคนรอบกายมากมายแต่กลับมองไม่เห็นความบริสุทธิ์ใจในสายตาของใครสักคน

“ผมเองก็เป็นเพียงแค่พนักงานบริษัทก็ไม่ค่อยมีเพื่อนกับเขาเท่าไหร่หรอกอาจจะเป็นเพราะผมไม่ได้ร่ำรวยอะไรหรืออาจจะนิสัยไม่ดีด้วยคนก็เลยไม่ค่อยคบ”

ศรัณย์ยกแก้วดื่มอีกครั้งและยกขึ้นดื่มอีกเรื่อย ๆบรรยากาศดูเงียบลงทันที มุกดาก็ได้แต่ประเมินสถานการณ์ตรงหน้าว่าคู่สนทนาของเธอกำลังอยู่ในอารมณ์แบบไหนจากตอนแรกที่เขาดูพูดคุยกับเธอสนุกสนานตอนนี้เขาเปลี่ยนสีหน้าเป็นเหมือนคนกำลังเสียใจกับเรื่องราวอะไรบางอย่างที่เธอก็เดาไม่ถูก

“ผมดูนิสัยไม่ดีไหม”

อีกครั้งที่ศรัณย์ถามคำถามกับสาวน้อยนักศึกษาโดยที่เขาไม่แม้แต่จะหันมาสบตามุกดาเหมือนเป็นคำถามที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าต้องการคำตอบไหม