บท
ตั้งค่า

สุขที่สะปัน(1)

ตอนที่3

สุขนี้ที่สะปัน...

“ข้าวต้มร้อน ๆ กับยำไข่เค็มรีบลุกมากินนะเดี๋ยวถ้าเย็นจะไม่อร่อย”

ขนมผิงค่อยๆ โผล่หน้ามาจากเต็นท์เมื่อได้กลิ่นของอาหารลอยเข้าไปแตะจมูกเธอและไม่ใช่ฝีมือของใครอื่นแต่คือพ่อครัวคนใหม่ภาคินนั่นเอง

“อายจังค่ะแผนที่ผิงจะเป็นคนทำให้คุณแต่กลับต้องให้ผู้ชายทำกับข้าวรอ”

หญิงสาวถึงแม้จะยังคงอายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแต่ในเมื่ออีกฝ่ายทำหน้าเหมือนทุกอย่างปกติหญิงสาวก็ค่อยๆรู้สึก ผ่อนคลายลง

“ผมลองไปค้นในลังโฟมเห็นอะไรพอหยิบจับมาทำได้ก็เลยลองทำเตรียมอาหารไว้ให้คุณตอนเช้า กินข้าวเสร็จเดี๋ยวเรารีบเก็บของและเดินทางกันต่อเวลาของเรามีแค่ 1 สัปดาห์ผมอยากเที่ยวให้ทั่วจังหวัดน่านเพราะไม่รู้ว่ามาครั้งนี้แล้วจะได้มาอีกเมื่อไหร่”

ข้าวต้มหมูที่แสนธรรมดาในมื้อนี้แต่สำหรับขนมผิงมันคือข้าวต้มที่อร่อยที่สุดเพราะคนที่ทำให้เธอกินคือผู้ชายคนแรกของเธอตลอดเวลาที่นั่งรถมาหญิงสาวคิดว่าชีวิตนี้คงไม่สามารถรักใครได้อีกนอกจากอดีตคนรักแต่เพียงข้ามคืนเธอก็ได้รู้หัวใจตัวเองว่าความรักมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ถ้าเราเจอคนที่สามารถทำให้เรามีความสุขได้มากกว่า

“ลงจากนี่เราจะไปไหนกันต่อคะ”

หญิงสาวถามเพราะเธอแทบจะไม่รู้จักจังหวัดน่านเลยก่อนการเดินทางก็รีบจนไม่มีเวลาได้หาข้อมูล

“เราจะไปบ่อเกลือค้างที่นั่นสักคืนและอีกวันค่อยไปนอนที่สะปันแต่ที่นั่นเราคงไม่ได้นอนเต็นท์เพราะผมโทรไปจองที่พักไว้ตั้งแต่ก่อนออกเดินทางแล้ว”

ขนมผิงทำตาลุกวาวเพราะถึงเธอจะไม่ค่อยรู้จักจังหวัดน่านแต่เธอก็ได้ยินคำเล่าเรื่องความสวยงามของสะปัน

“เพื่อนที่ทำงานเคยไปเที่ยวที่นั่นถ่ายรูปสวย ๆ มาอวด ผิงเองเคยตั้งใจว่าคงต้องหาโอกาสไปสักครั้งไม่คิดเลยว่าจะส้มหล่นมีคนใจดีพาไป”

ทั้งคู่ช่วยกันเก็บเต็นท์และล้างจานชามทำความสะอาด ทุกอย่างเก็บของเข้าที่เพื่อเตรียมเดินทางต่อกว่าจะลงจากดอยมาถึงในส่วนของพื้นราบก็เป็นเวลาของอาหารกลางวันและอาหารพื้นเมืองแถวนั้นก็ถูกเลือกเป็นที่ฝากท้องก่อนที่ทั้งคู่จะเดินทางต่อไปยังอำเภอบ่อเกลือซึ่งกว่าจะถึงก็ได้เวลาพระอาทิตย์ตกดินแล้ว

“เต็นท์กระโจมไม่คิดเลยนะคะว่าจะมีโอกาสได้มานอน ผิงเคยไปม่อนแจ่มแต่ไปคนเดียวและราคาค่าที่พักเต็นท์กระโจมก็แพงมากเลยตัดสินใจขับรถลงมานอนด้านล่างในที่สุดวันนี้ก็ได้นอนกับเขาสักที”

หญิงสาวยังไม่ทันจะขนของลงจากรถก็รีบโถมตัวใส่ที่นอนทำท่าเตรียมพร้อมให้ตากล้องที่ทำหน้าที่ขับรถพาเธอมาเที่ยวถ่ายภาพของเธอในมุมต่าง ๆ ซึ่งภาคินเองก็เป็นคนที่ชอบถ่ายภาพอยู่แล้วและขนมผิงก็เป็นนางแบบที่แสนน่ารักเขาจึงเต็มใจที่จะเก็บภาพของเธอไว้เป็นที่ระลึก

ค่ำคืนนี้บรรยากาศแตกต่างจากเมื่อคืนจากอุทยานแห่งชาติที่มีความเงียบสงบเปลี่ยนเป็นบรรยากาศแห่งความครื้นเครง รีสอร์ตที่อยู่ตรงข้ามกับที่ทั้งคู่พักมีนักดนตรีคอยร้องเพลงขับกล่อมผู้คนที่มากินอาหารเย็นแต่เมื่อถึงเวลาสี่ทุ่มบรรยากาศก็เริ่มเข้าสู่ความเงียบเสียงสายน้ำที่ไหลผ่านเต็นท์กระโจมสร้างความชุ่มฉ่ำใจให้กับคนทั้งคู่

ลมหนาวที่พัดโชยโบกอยู่รอบเต็นท์เหมือนกับหัวใจของทั้งคู่ที่ตามหาความสุขจากกันเหมือนดังข้าวใหม่ปลามันที่แทบจะไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว

ลำธารเล็กที่ไหลผ่านรีสอร์ตเสียงน้ำกระทบกับซอกหินฟังดูเป็นจังหวะคล้ายกับทั้งคู่ที่กำลังทำกิจกรรมรักกันด้วยความชุ่มฉ่ำใจเวลานี้ขนมผิงลืมความถูกต้องทุกอย่างทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอ รักนวลสงวนตัวไม่แม้แต่จะให้คนรักล่วงเกินใดๆแต่ในเมื่อสิ่งที่เธอทำเขากลับไม่เห็นค่าวันนี้เธอขอกอบโกยสิ่งที่ทำให้หัวใจเธอมีความสุขบ้าง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel