บทย่อ
เธอไม่คิดว่าการถูกจับพลัดจับผลูไปฟังเรื่องเล่าบนหินสลักเก่าแก่ที่มีอายุราวพัน ๆ ปีจะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล... แต่เอาเถอะ ไปตบคนจอมเสแสร้งเหล่านั้นก็น่าจะสนุกดีเหมือนกัน!
ตอนที่ 1 : เรื่องราวบนหินสลัก 1/1
ตอนที่
[1]
เรื่องราวบนหินสลัก
เมืองโบราณแห่งหนึ่งในประเทศจีน
ระหว่างที่สตรีใบหน้าสวยพร้อมร่างระหงที่แต่งกายด้วยชุดจัดเต็ม ที่กำลังนั่งพักเหนื่อยรอเพื่อนสาวคนสนิทที่เข้าออกร้านนั้นทีร้านนี้ทีด้วยพลังเอนเนอจี้เหลือล้นอย่างไม่สนใจว่าเพื่อนที่มาด้วยกันจะเหนื่อยมากเพียงใดอยู่นั้น ก็มีเสียงแหบพร่าเรียกจากด้านหลังดังขึ้น
“แม่หนู กำลังรอเพื่อนอยู่หรือ” เป็นสตรีวัยชราท่าทางใจดีผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น แต่น่าแปลกที่แม้ว่าไม่รู้ภาษาจีนแม้แต่น้อยแต่สตรีนามว่า “โซฟา” กลับตอบกลับไปอย่างอัตโนมัติเป็นภาษาจีนว่า “ใช่ค่ะ” จากนั้นหญิงชราจึงยิ้มและพูดขึ้น “ตรงนั้นมีเรื่องเล่าในตำนานที่น่าสนใจอยู่ รีบไปเถอะ ดีกว่ามานั่งรออยู่ตรงนี้” ว่าไม่พออีกฝ่ายยังถือวิสาสะคว้าแขนของสตรีอายุน้อยให้ลุกตามขึ้นไปอย่างรวดเร็วอีก โซฟาที่ไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกทีก็โดนลากเข้าไปในตรอกแห่งหนึ่งที่เหมือนจะหลุดออกจากเขตเมืองโบราณไปแล้ว ด้านโซฟาแม้จะพยายามเรียกให้คุณยายที่ลากแขนเธอให้หยุด แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ฟังเธอสักนิด จนในสุด...การเดินเท้าก็หยุดลง เบื้องหน้าของเธอคือ หินสลักขนาดใหญ่ ที่มีตัวอักษรโบราณมากมายอยู่บนนั้น ร่วมด้วยเถาวัลย์ที่ปกคลุมหลาย ๆ ส่วนอยู่มากมาย หินนี่...คงมีอายุมายาวนานแล้ว
“คุณยา....อ้าว” แต่เมื่อเธอจะหันไปถามคนที่พาเธอมา กลับพบว่าอีกฝ่ายหายไปแล้วและหายไปอย่างไร้ร่องรอยอีกด้วย จู่ ๆ ขนแขนเธอก็ตั้งขึ้นอย่างอัตโนมัติ
คุณยายเมื่อกี้ ใช่คนหรือเปล่านะ
“มาฟังเรื่องเล่าเหรอครับ”
“ว้ายยยยยย”
บรรยากาศที่เงียบเชียบและความรู้สึกขนลุกที่ยังไม่หายไป จู่ ๆ เมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้น เธอจึงตกใจจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้
“ขอโทษนะครับที่ทำให้คุณตกใจ พอดีว่าผมเป็นผู้ให้ข้อมูลประจำจุดหินสลักนี้ครับ คิดว่าคุณคงอยากฟังเรื่องเล่าเลยมาให้ข้อมูล ไม่คิดว่าคุณจะตกใจ ขอโทษอีกครั้งนะครับ” เบื้องหน้าของโซฟาคือบุรุษวัยกลางคนที่แสดงสีหน้ารู้สึกผิดที่ทำให้เธอตกใจ เธอไม่ได้โกรธเขา แต่กำลังคิดในใจว่า เขาใช่คนหรือเปล่า ด้วยหวาดระแวงตั้งแต่เรื่องคุณยายก่อนหน้า
“คุณเป็นคนหรือเปล่าคะ” ด้วยความสงสัยเธออดไม่ได้ที่จะถามออกไปผู้ดูแลประจำจุด แม้จะรู้สึกประหลาดใจแต่ก็พยักหน้าลง “ผมเป็นคนครับ” เมื่อตอบออกไปก็เห็นสีหน้าคลายกังวลลงเล็กน้อยของสตรีตรงหน้า “เดี๋ยวถ้าคุณอยากฟังเรื่องเล่า ไปนั่งตรงนั้นได้เลยครับ” เขาชี้ไปยังลานหินที่รูปทรงคล้ายเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกล แม้จะยังไม่ไว้ใจสิ่งใด แต่ขาของโซฟาก็ก้าวออกไปเสียแล้ว
“พร้อมนะครับ”
ผู้ดูแลหันมาถามเธออีกครั้ง เมื่อเธอพยักหน้าเขาจึงเริ่มเล่าเรื่องราวทันที
“หินสลักแผ่นนี้ได้สลักเรื่องราวโศกนาฏกรรม ของท่านหญิงเจียวลู่กับคุณชายจากตระกูลใหญ่ของวังหลวง โจววั่งซู บุตรชายของเสนาบดีโจว โจวฮ่าวหยู่ เอาไว้อย่างละเอียด....”
เริ่มตั้งแต่ที่ท่านหญิงเจียวลู่เดิมนางเป็นสตรีบุตรสาวของขุนนางธรรมดา ที่ไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โต ชื่อเดิมนามว่า สือหนิงอ้าย นางเป็นสตรีงดงามรูปร่างบอบบางและมีจิตใจที่อ่อนโยน แม้เป็นเช่นนั้นนางกลับมีสหายสนิท ที่มีจิตใจทั้งคับแคบและเจ้าอารมณ์ แม้เป็นถึงบุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่ของแคว้นอี้แต่สติปัญญาไหนเลยก็หาได้มีไม่ เช่น ซือเฟยฟา ท่านหญิงที่ยามนั้นเป็นสือหนิงอ้ายมักจะต้องคอยตามใจอีกฝ่ายและไม่มีปากเสียงเนื่องจากว่าซือเฟยฟานั้นเป็นสหายผู้เดียวที่ตนมีอยู่และไม่อยากเสียอีกฝ่ายไป วันหนึ่งท่านหญิงได้พบเจอกับคุณชายโจว โจววั่งซู เมื่อได้พบหน้ากันทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันในทันที เพราะรู้สึกราวกับคุ้นเคยกันมานานแสนนาน ทั้งคู่เริ่มคบหากัน ทุกอย่างกำลังไปด้วยดี จนกระทั่งโจววั่งซูมีความคิดที่อยากไปหมั้นหมายกับอีกฝ่าย แต่เมื่อซือเฟยฟารู้เรื่องนี้เข้า จึงได้คิดแผนการขัดขวาง เพราะตนนั้นก็มีใจให้กับโจววั่งซูเช่นเดียวกัน กอรปกับช่วงนั้นแม่ทัพซือ บิดาของซือเฟยฟาทำการศึกชนะจากสงครามจากแดนใต้ที่ยิดเยื้อมานานถึงสองปีได้สำเร็จ ฮ่องเต้จึงได้อยากจะตกรางวัลให้ จึงถามแม่ทัพซือว่าต้องการสิ่งใด แต่สิ่งที่อีกฝ่ายขอ กลับมิใช่ยศถาบรรดาศักดิ์หรือทรัพย์สินเงินทองแต่อย่างใด แต่กลับต้องการให้ฮ่องเต้มอบพระราชทานสมรสให้กับบุตรสาวของตนซือเฟยฟาและบุตรชายของเสนาบดีโจว อย่างโจววั่งซูผู้นั้นได้ลงเอยกัน ฮ่องเต้ที่ได้ยินเช่นนั้นจึงตอบตกลงโดยทันที ข่าวนี้สร้างความตกใจและความเสียใจให้กับหลายคนเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะท่านหญิงและโจววั่งซู ทั้งคู่พยายามหาทางออกแต่ไม่ว่าทำอย่างไรก็ยังไร้ซึ่งหนทาง จวบจนกระทั่งวันหนึ่งรถม้าของฮองเฮาที่เสด็จออกจากวังอย่างลับ ๆ ถูกซุ่มโจมตีจากโจรป่า ท่านหญิงเจียวลู่หรือก็คือสือหนิงอ้ายก็เข้าช่วยเหลืออย่างกล้าหาญอย่างไม่คิดสิ่งใด แม้ว่าจะต่อสู้ไม่เป็นแต่ก็สามารถพาฮองเฮาและข้ารับใช้วิ่งไปหาที่ซ่อนจนปลอดภัยจากกลุ่มโจรได้สำเร็จ ฮองเฮาจึงรู้สึกซาบซึ้งและอยากจะตอบแทนอีกฝ่าย จึงได้รับสือหนิงอ้ายเป็นบุตรสาวบุตรธรรม และให้ฮ่องเต้แต่งตั้งอีกฝ่ายให้เป็นท่านหญิงเจียวลู่ รวมถึงเมื่อได้รับรู้เรื่องราวของบุตรสาวบุญธรรมกับโจววั่งซูก็รู้สึกสงสารเป็นอย่างมาก จึงได้ไปขอร้องฮ่องเต้ ให้เปลี่ยนพระราชทานสมรสจากซือเฟยฟา เป็นบุตรสาวบุตรธรรมของตนแทน ความดีความชอบก็คือการได้เข้าช่วยเหลือมารดาของแผ่นดินไว้ เดิมทีฮองเฮาก็เป็นสตรีในดวงใจของฮ่องเต้แต่เพียงผู้เดียว แม้จะรับปากแม่ทัพซือไปแล้ว แต่ก็ตอบรับคำขอของฮองเฮาทันที ข่าวนี้ทำให้คู่ยวนยางรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ท่านหญิงเจียวลู่ก็รู้สึกผิดกับสหายอย่างซือเฟยฟาเป็นอย่างมาก ที่ตนก็ไปขัดขวางด้ายแดงของสหายเช่นกัน