เยลลี่สีเขียว
"กรี๊ดดดด!!!''
ฟึบๆๆๆๆๆ
กรร!!! ฮาาาส!!!
เสียงที่คุ้นเคยได้ดั่งลั่นทั่วหอพักที่ผมอาศัยอยู่ และมันพอดีกับสัญญาณในช่องทีวีที่กำลังถ่ายทอดสดขาดหายไป หงส์สะดุ้งขึ้นอีกครั้งและเธอกำลังจะกรี๊ดออกมาด้วยความกลัว ผมจึงไม่รอช้าที่จะยื่นมือไปปิดปากเธอ
"กรี๊ดดดด!!ช่วยด้วย!!!'' เสียงนั้นไม่ได้ไกลจากชั้นของพวกเรามาก และมันน่าจะอยู่ที่บันไดลงไปยังชั้น 3 โดยที่ห้องของเราสองพี่น้องอยู่ที่ชั้น 4 เสียงร้องนั้นยังคงดังอยู่นานแต่แล้วมันก็ได้เงียบสงบไป
“พี่…เรา…”
“ควรออกไปดู…ไหม?” หงส์กำลังถามผมด้วยความกลัว ถึงแม้เธอจะกล่าวออกมาเช่นนี้ แต่ตัวของเธอนั้นสั่นไปหมด
‘คนที่ได้รับเชื้อคงกลับมาที่หอพักกันแล้วสินะ…ลามมาที่หน้ามหาลัยเร็วเหมือนกันนี่’ ผมคิดในใจ เพราะในอดีตตอนที่เกิดเรื่องผมและหงส์ตัดสินใจกลับไปอยู่กับครอบครัว แต่ในครั้งนี้ผมตัดสินใจจะปักหลักเคลียร์ดันเจี้ยนที่นี่ซะก่อน เพื่อไม่ให้มันบานปลายไปมากกว่านี้
ก็อกๆๆๆๆ
"เปิดประตูหน่อย!!!'' เสียงชายคนหนึ่งตะโกนดังลั่นหลังจากที่วิ่งหนีมายังหน้าห้องของผม
ตุบๆๆๆ
“เปิด!!!” เขาตะโกนออกมาอีกครั้งด้วยความรีบร้อน
กรรรซซ
“อ๊ากกกก!ช่วย-” แต่สุดท้ายแล้วเสียงของเขาก็หายไปก่อนที่จะมีเสียงอันน่าสยดสยองอยู่หน้าห้องของเรา
แคว่กกก แจ่บๆๆ
มันเป็นเสียงการกัดกระชากและการกินเนื้ออย่างเอร็ดอร่อย ผมไม่ต้องเปิดประตูออกไปดูก็สามารถจินตนาการภาพที่เกิดขึ้นหน้าห้องของผมได้ทันที
กึกๆๆๆๆๆ
ผมได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่งภายในอ้อมกอดของผม มันคือเสียงกัดฟันรัวๆของหงส์ ในตอนนี้เธอคงจะกลัวอย่างสุดขีด เพราะสิ่งที่ผมพูดมันเป็นความจริง เป็นเรื่องจริง สิ่งที่เธอกลัวที่สุดในชีวิตคือซอมบี้ เธอเคยดูหนังซอมบี้ครั้งนึงกับผม เมื่อหนังจบผมได้หันไปจะพูดคุยกับเธอ แต่เธอก็ได้หลับ? หรือสลบไม่แน่ใจ ในสภาพที่กอดแขนของผมเอาไว้แน่น
“หงส์”
“ฟังสิ่งที่พี่จะพูดให้ดีๆ” ผมผลักเธอออกจากร่างของผมช้าๆและกำไหล่ทั้งสองของเธอเอาไว้แน่น พร้อมกับก้มลงไปจ้องตาเธอ และเมื่อเธอจ้องตาผมกลับ ผมก็เริ่มกล่าวสิ่งที่ปิดบังเธอมาตั้งแต่ผมเปลี่ยนไป
“ถ้าพี่บอกว่าพี่ย้อนเวลากลับมา”
"หงส์จะเชื่อพี่ไหม?'' ผมกล่าวถามออกไปตรงๆด้วยสีหน้าจริงจัง
“หงส์…ฟังพี่พูดอีกรอบ”
“แล้วตอบพี่มา” ผมกล่าวอีกครั้งเมื่อร่างบางพยายามหลบตาผม
“พี่ย้อนเวลากลับมา”
“เชื่อพี่ได้ไหม?” ผมเปลี่ยนจากคำถามเป็นคำขอร้อง ในตอนนี้แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากในการรับหลายๆเรื่องเข้ามาในหัวพร้อมกัน
หงึกๆ ฟึบ
หงส์ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาแต่พยักหน้าตอบรับผม ซึ่งเธอก็ได้พุ่งเข้ามาสวมกอดผมในทันทีอีกครั้ง ผมกอดปลอบเธอได้สักพักเมื่อการหายใจของหงส์เริ่มเบาลงรวมถึงอาการสั่นกลัว
ผมจึงผละออกมาและเดินไปหยิบอาวุธที่อยู่หลังตู้เย็น มันคือขวานขนาด 16 นิ้ว และมีดเดินป่าราว 12 นิ้ว มันคือสิ่งที่ผมสามารถหาได้ด้วยกำลังของผมในตอนนี้ แต่ถ้าหากโลกาวินาศเกิดขึ้นแล้ว แน่นอนว่าผมสามารถหาอาวุธได้ดีกว่านี้อย่างแน่นอน และผมยังคงมีถุงมือไว้ป้องกันเวลาถูกตัวพวกซอมบี้อีกด้วย
ฟึบๆๆ
และผมก็ไม่รอช้าที่จะสวมเกราะเหล็กในทันที และแน่นอนว่ามันไม่ใช่เหล็กจริง แต่มันก็พอแล้วสำหรับป้องกันฟันของพวกซอมบี้ โดยที่ผมสวมไว้ที่เอว แขนทั้งสองข้างและคอตามที่สั่งมาจากเว็บในเน็ต
"พี่มังกร?'' เมื่อหงส์ที่จ้องมองผมมานานเห็นถึงท่าทางแปลกๆของผม เธอจึงเรียกชื่อผม มันราวกับว่าผมกำลังจะไปออกรบ มือข้างขวาถือขวาน ส่วนมือข้างซ้ายถือมีดเดินป่าและกำลังเดินไปที่ประตูห้อง
"พี่อย่าเปิด!'' หงส์จะตะโกนแต่ก็หุบเสียงเอาไว้ทันเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพวกซอมบี้มันไวต่อเสียง ทำให้ผมหยุดชะงักและสูดหายใจเข้าลึกๆ
“โลกนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว”
“ผู้ที่เข้มแข็งและผู้ที่ปรับตัวได้ไวจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งเร็วกว่าใคร” ผมกล่าวออกไปก่อนจะเดินกลับไปจับมือของหงส์และดึงขึ้นมาเบาๆ ทำให้ร่างของเธอต้องถูกพยุงขึ้นมาเช่นกัน โดยที่ผมได้เก็บมีดเดินป่าไว้ที่เหน็บหน้าขา ซึ่งชุดของผมในตอนนี้คล้ายกับชุดทหาร ที่สามารถซ่อนอาวุธมากมายไว้ในชุดได้
ฟึบ
“ถือไว้” ผมกล่าวเสียงแข็ง ในตอนนี้ผมไม่สามารถอ่อนโยนกับหงส์ได้อีกต่อไปแล้ว เธอต้องยอมรับความจริงให้ได้เร็วที่สุดเพื่อที่เราจะได้ช่วยกันเอาชีวิตรอดไปหาพ่อและแม่ ซึ่งแน่นอนว่าผมได้หลอกทั้งครอบครัวไว้ว่าจะไปพักผ่อนที่บ้านในป่ากัน ทำให้พ่อและแม่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นมาวันนึงแล้ว
โดยที่ผมเป็นคนปลดกับดักลงและเปิดใช้งานมันอีกครั้ง ทั้งผมยังได้สอนพ่อและแม่ในการปลดกับดักและบอกเกี่ยวกับกับดักที่ผมสร้างเอาไว้ทั้งหมดรอบบริเวณบ้าน ซึ่งผมอ้างว่าเป็นการป้องกันสัตว์ดุร้ายจากที่เจ้าของบ้านกำชับมา
"พี่'' หงส์กล่าวเมื่อท่าทางของผมแตกต่างออกจากเดิม
"หงส์จำได้ใช่ไหม?''
“ซอมบี้น่ะ…มันไม่ใช่คนอีกต่อไปแล้ว”
“มันเป็นศพที่เดินได้เท่านั้น” ผมกล่าวก่อนที่จะจูงมือเธอไปที่หน้าประตูอีกครั้ง ซึ่งเธอก็พยายามขัดขืนเพราะรู้ว่าข้างหน้าห้องมีอะไรอยู่ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีที่ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม ทำให้นักศึกษาส่วนใหญ่พากันกลับบ้านกันซะหมด
"เพราะฉะนั้น'' ผมกล่าวก่อนที่จะยื่นมือไปจับลูกบิดประตู
แคล็ก ฟืบ
เมื่อผมหมุนลูกบิดประตูและดึงประตูเข้ามาในห้อง ปรากฏภาพตรงหน้าที่มีผู้ชายคนนึงนอนจมกองเลือดอยู่โดยที่มีแผลบริเวณคอไปถึงแก้ม กำลังชักดิ้นไปมา เส้นเลือดสีม่วงเริ่มปูดขึ้นมาบนร่างกาย ผิวของเขาเริ่มซีดลงเรื่อยๆ
“เขาไม่ได้บาดเจ็บเพราะเสียเลือดเยอะ”
“แต่เขากำลังกลายเป็นซอมบี้” ผมกล่าวก่อนที่จะสัมผัสได้ว่าทางซ้ายของผมมีสิ่งหนึ่งกำลังขยับไปขยับมา ซึ่งมันก็คือศพเดินได้ที่กำลังเดินเซไปมาอย่างไร้จุดหมาย
“พี่จะไปจัดการอีกตัวนึง”
“ฆ่าเขาซะ…เพื่อไม่ให้เขากลายเป็นซอมบี้อย่างเต็มตัว” ผมกล่าวก่อนที่จะย่องไปข้างหลังซอมบี้ตนนั้นและยกขวานขึ้นสูง
ฉับ!!!! แผละ
ทันทีที่ผมลงมือฆ่ามันโดยเล็งไปที่สมอง ทำให้กะโหลกของซอมบี้ถูกผ่าพร้อมกับสมองของมันที่ไหลและกระเด็นลงสู่พื้น เยลลี่สีเขียวได้โผล่ออกมาจากสมองของมัน ซึ่งหลังจากที่ผมชำนาญเรื่องการฆ่าซอมบี้แล้ว ผมก็พยายามที่จะผ่าหัวของซอมบี้เพียงครั้งเดียวเพื่อให้เห็นเยลลี่ จากที่ต้องเล็งอย่างชัดเจน ในตอนนี้ผมเชี่ยวชาญมากๆ
ฮาาสสส!!
เสียงร้องของซอมบี้ได้ดังขึ้นผมจึงหันกลับไปมอง ปรากฏว่าหงส์ยังไม่ได้ฆ่ามัน เธอได้แต่ถือหอกและจ่อปลายแหลมไว้ที่คอของซอมบี้ ซึ่งหอกนี้ผมสร้างขึ้นมาเองจากการประกอบจากไม้รวมกับใบมีดที่แหลมคม
“จุดอ่อนของมันอยู่ที่หัว”
“ในหัวของมันมีเยลลี่สีเขียว"
“มันคือสิ่งจำเป็นในการพัฒนาพวกเราให้แข็งแกร่งขึ้น” ผมกล่าวพร้อมกับยื่นเยลลี่สีเขียวที่เพิ่งจะก้มเก็บมาจากศพที่ผมฆ่าไปเมื่อครู่
"อะ..อึก'' เธอถึงกับพูดไม่ออกที่จะต้องมาทำอะไรเช่นนี้ เดิมทีเธอเป็นหมอที่มีเป้าหมายในการช่วยชีวิตคน แต่ในตอนนี้เธอกลับต้องเอามีดอันแหลมคมจี้ไปที่คอของมนุษย์
“หงส์…”
“มันไม่ใช่คน” ผมกล่าวย้ำอีกครั้งก่อนที่ซอมบี้ตัวแรกที่ทำให้ตัวที่ผมฆ่าไปกลายเป็นซอมบี้มันเดินลงมาจากชั้นห้าโดยไม่กลัวจะตกแขนขาหักอะไรทั้งสิ้น ซึ่งมันก็หกล้มกลิ้งลงมาจนข้อมือของมันหักแต่มันก็ยังคงเดินมาหาผม
‘ซอมบี้ระดับเริ่มต้น’
‘เป็นอะไรที่ง่ายดายมาก…’ ผมคิดในใจเมื่อนึกถึงซอมบี้เลเวล 100 ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ราวกับเป็นมนุษย์ ทั้งยังปีนป่ายอะไรได้อีกด้วย มันน่ากลัวกว่าตอนนี้มากๆ
“ฆ่ามันซะหงส์!” ผมขึ้นเสียงกับหงส์เป็นครั้งแรกเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เธอต้องทำก่อนที่ผมจะพุ่งไปหาซอมบี้ตรงหน้าและใช้มีดเดินป่าของผมแทงตรงไปที่บริเวณจมูกของมันและยกขึ้นเฉียงไปทางซ้ายเพื่อผ่าสมองของมัน
ซึ่งก็เหมือนเดิม กะโหลกของซอมบี้ถูกเปิดพร้อมกับสมองที่ไหลออกมา และเยลลี่สีเขียวยังคงติดอยู่กับสมองซีกขวา ก่อนที่ร่างของมันจะค่อยๆล้มลงผมได้ใช้ความเร็วในการหยิบเยลลี่สีเขียวนั้นออกมาพร้อมกับเก็บไว้ในถุงผ้าขนาดเล็กที่มีหูรูด
กรรร ฉึก!
และในทันทีที่มีเสียงขู่ของซอมบี้ ผมก็ได้ยินเสียงในการแทงทะลุเกิดขึ้น ผมเดินกลับไปที่หน้าห้องของผมโดยที่หงส์ยังคงจับด้ามหอกด้วยท่าทางสั่นกลัวไปทั้งตัว และเหลือเชื่อที่ตนเองได้ทำอะไรแบบนี้ลงไป แต่ด้วยความเป็นหมอของเธอ ทำให้เธอพอจะคุ้นชินกับเลือดและอวัยวะมนุษย์อยู่บ้าง
แกร้ง
“เก่งมาก” ผมกล่าวก่อนจะเดินไปหยิบหอกยาวและโยนมันไปทางซ้ายพร้อมกับสวมกอดน้องสาวของผม เพื่อเป็นการให้กำลังใจเธอที่เพิ่งจะผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากมาได้
“ดราก้อน…ดราก้อน” เสียงเล็กดังออกมาจากห้องของหงส์มันทำให้หงส์ถึงกับสะดุ้งก่อนที่จะนึกอะไรขึ้นได้
“ไปพาดราก้อนมาห้องพี่แปปนึงนะ” ร่างบางกล่าวด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าเธอจะดูเหมือนเข้าใจสถานการณ์อย่างดีแล้ว แต่มันไม่ใช่เลย ผมสัมผัสได้ถึงความสับสนและความกลัวจากนัยตาของเธอ
ซึ่งดราก้อนหรือเจ้าเสียงเล็กที่ร้องออกมาจากห้องของหงส์เมื่อครู่ มันคือสัตว์เลี้ยงของหงส์ ที่มีชื่อว่าดราก้อน หรือเจ้านกแก้วอัจฉริยะนั่นเอง
“ดราก้อนกลัว” เสียงเล็กกล่าวเมื่อหงส์พามันออกมาจากห้องของเธอ โดยที่มันกำลังเกาะอยู่บนแขนข้างซ้ายของหงส์
"เราจะทำอะไรกันต่อไป?'' หงส์กล่าวถามผมด้วยนัยตาที่สั่นเทา
‘ถึงแม้เธอจะกลัว…แต่ก็ยังคงทำตามคำกล่าวของฉัน…’ ผมคิดในใจก่อนที่จะเดินไปหยิบหอกที่ผมมอบให้กับหงส์ขึ้นมาจากพื้น และยื่นไปตรงหน้า
“ช่วยด้วย!!” เสียงกรีดร้องดังลั่นทั้งหอ ถ้าหากให้ผมลองเดาดูแล้ว เสียงนั้นน่าจะมาจากชั้นที่ 2 และมีเสียงวิ่งขึ้นมาชั้นที่ 3
“มันมาแล้ว!มันมาแล้ว!กรี๊ดดด!!'' หญิงสาวร่างอวบวิ่งขึ้นมาจากชั้นที่ 3 เธอไม่ลังเลเมื่อได้เห็นมนุษย์ เธอวิ่งมาหาพวกผมทันทีเพื่อต้องการความช่วยเหลือจากพวกผม
ฮาาสส!
เสียงร้องของซอมบี้ดังเข้ามาเรื่อยๆจนหัวของมันปรากฏตรงขอบบันไดขึ้นมายังชั้นที่ 4 ส่วนหญิงสาวผู้นั้นเธอได้วิ่งมาหลบหลังของผม ท่าทางของเธอบ่งบอกได้ว่าเธอเพิ่งจะเจอเรื่องเลวร้ายมา หรือบางทีเธออาจจะเห็นซอมบี้ตัวนั้นกินเพื่อนของเธอก็เป็นได้…
"ห้องของคุณอยู่ไหน?'' ผมกล่าวถามพร้อมกับที่ซอมบี้ตัวนั้นขึ้นมายังชั้น 4 ได้สำเร็จ
"303'' เธอกล่าวออกมาด้วยความกลัวทั้งยังจับแขนของผมด้วยมือที่สั่นไม่หยุด
“เดี๋ยวผมจะพากลับไปที่ห้อง”
“คุณต้องพยายามหลบซ่อนอยู่ในห้อง” ผมกล่าวก่อนที่จะเดินนำไปข้างหน้าโดยไม่สนใจว่าเบื้องหน้านั้นมีซอมบี้ที่จ้องจะเข้ามากัดกระชากเนื้อของผมอยู่
ฉับ! ฟึบ
"!?'' การโจมตีของผมโดยที่ร่างของผมและร่างของซอมบี้ได้เดินสวนทางกันเพียงครู่เดียวหัวของซอมบี้ก็ถูกผ่า พร้อมกับผมที่ใช้ความเร็วหยิบเยลลี่สีเขียวกลับมาใส่ถุงผ้าขนาดเล็กของผม
แผละๆ ฟุบ
“เร็ว!” ผมกล่าวเมื่อสองสาวยังคงยืนนิ่งค้าง และเมื่อผมกล่าว มันทำให้ทั้งสองต้องพยายามก้าวขาออกมาเดินตามผม
ซึ่งเมื่อลงมาถึงชั้นที่ 3 หรือเป็นห้องพักของสาวอวบคน เธอก็ได้ไขกุญแจประตูห้องและเข้าไป แต่ก่อนที่จะประตูจะปิดลง เธอก็ได้กล่าวคำว่าขอบคุณและปิดประตูห้องลงทันที ทั้งยังล็อคห้องด้วยความเร่งรีบอีกด้วย
"ทำไมพี่มังกรไม่พาเธอมาด้วย?'' หงส์กล่าวด้วยความสงสัย เพราะถึงยังไง ในตอนนี้อยู่กับคนที่แข็งแกร่งและปกป้องคนอื่นได้ จะมีโอกาสรอดชีวิตสูง
“เธอถูกกัดที่ข้อเท้า” ผมกล่าวออกไปก่อนที่จะหันหลังและเดินไปต่อเพื่อลงไปยังชั้นต่อๆไปในทันที ซึ่งการที่ถูกซอมบี้ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อไวรัสกัด เลือด น้ำลาย ของมันจะเข้าไปสู่ร่างกายของผู้ที่ถูกกระทำและคนคนนั้นจะกลายเป็นซอมบี้ไปในที่สุด ซึ่งการที่ผมไม่จัดการกับเธอในช่วงที่เธอยังเป็นมนุษย์ เพราะว่ามันจะดูใจร้ายเกินไปถ้าหากหงส์ได้เห็นภาพนั้น
“และอีกสิ่งหนึ่งที่หงส์ควรจะจำเอาไว้” ในทันทีที่ผมกล่าว มันทำให้หงส์ตั้งใจฟังผมอย่างมาก ผมเชื่อว่าเธอมีคำถามอีกมากมายที่ต้องการจะถามผม แต่ก็คงต้องเก็บเงียบไว้เสียก่อน เพราะการเอาชีวิตรอดในตอนนี้สำคัญที่สุด!
“การเห็นอกเห็นใจหรือการมีน้ำใจให้กับผู้อื่น”
“มันจะทำให้เราอ่อนแอ”
“และมันอาจจะส่งผลไปถึงชีวิตเราได้" ผมกล่าวออกไป ซึ่งมันเป็นกฏเหล็กใจการเอาชีวิตรอดในโลกเวรนี่!
“เอาล่ะ…ตามมา” ผมกล่าวก่อนที่จะเดินนำลงไปยังชั้นล่าง หรือก็คือชั้นที่ 2
"เห็นซอมบี้ที่ยืนชิดมุมกำแพงตรงบันไดไหม?'' ผมกระซิบกล่าวกับน้องสาวของผม ซึ่งเราทั้งคู่กำลังหลบอยู่ตรงทางเดินลงไปยังบันไดชั้นที่ 2 และซอมบี้ตัวที่ผมกล่าวมันอยู่บนบันไดทางขึ้นชั้นที่สอง
ตุบๆๆ กรรร!!
เสียงเคาะประตูดังมาจากชั้นที่ 1 เดาว่าทางเข้าหอพักคงจะถูกปิด เพราะมันเป็นประตูเลื่อนที่ต้องใช้นิ้วของผู้พักอาศัยสัมผัสในการเปิดประตู ผมไม่แน่ใจว่าที่ชั้น 1 จะมีซอมบี้อีกหรือไม่ แต่คงต้องเคลียร์ไปทีละชั้นโดยที่จะเริ่มจากในชั้นที่ 2 ซะก่อน
“คอยดูมันไว้…เอาปลายแหลมของหอกจ่อที่บริเวณปากของมัน” ผมกล่าวออกไป และถึงแม้ว่ามันจะหันหลังให้เราอยู่ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นปากมันได้ เธอก็ได้ใช้ปลายหอกจ่อไปที่บริเวณที่ผมกล่าวอย่างแม่นยำด้วยความที่เธอคุ้นเคยกับร่างกายมนุษย์ ถึงแม้เธอจะเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 แต่เธอก็เคยมีประสบการณ์ในการผ่าตัดมาแล้ว ทั้งยังมีความรู้ในอวัยวะทุกส่วนของมนุษย์เป็นอย่างดี
“ตามลงมาช้าๆ” ในเมื่อเธอไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เอาแต่พยักหน้ารับรู้ ผมจึงออกคำสั่งเธออย่างต่อเนื่อง
‘ฉันไม่สามารถประมาทได้แม้แต่นิดเดียว’
‘แน่นอนว่าถ้าหากมีเพียงฉัน…’
‘ฉันมั่นใจว่าสามารถเอาชีวิตรอดจากซอมบี้ได้’ ผมคิดในใจ แต่เพราะในตอนนี้ชีวิตของน้องสาวหรือสมบัติที่ผมหวงแหนมาทั้งชีวิตมาอยู่ในการดูแลของผม
“ชิดฝาผนังไว้…ถ้ามันมีท่าทีแปลกๆ”
“ก็ฆ่ามันได้ในทันที” ผมกระซิบข้างหูเธอก่อนที่ตัวผมจะเดินเข้าไปในซอกของชั้นที่ 2 เพื่อดูว่ามีซอมบี้หลงเหลือในชั้นทางเดินหรือไม่ และที่ผมให้หงส์แนบชิดกับฝาหนังเอาไว้ เพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากข้างหลัง หรือก็คือให้ระยะสายตาโดยรอบของเธอสามารถเห็นได้ทั้งทางซ้ายที่ผมเดินไป ทางขวาที่เป็นบันไดมาจากชั้นบน และเบื้องหน้าที่มีซอมบี้หันหน้าเข้าชนกับแพงอยู่
‘3 ตัว?’ ผมคิดในใจเมื่อได้เห็นซอมบี้ทั้งสามตัวกำลังรุมกินเนื้อของคนที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น
'โอเค…ปล่อยมันไว้-' ในขณะที่ผมกำลังคิดในใจ
เคร้งงง
เสียงเหล็กกระทบเหล็กที่ราวบันไดชั้นบนสุดก็ได้ดังขึ้น และมันคงพอที่จะทำให้เหล่าซอมบี้ในตึกได้ยินเสียงนี้ ซึ่งพวกมันก็จะกรูกันไปหาเสียงนั้นในทันที แน่นอนว่ามันเป็นไปตามที่ผมคิด ซอมบี้ทั้งสามตัวที่กำลังเคี้ยวอวัยวะของมนุษย์อย่างเพลิดเพลินได้หันหน้ามาทางผม
'แบบนี้ก็ไม่มีทางเลือกแล้ว!'
"หงส์!”
“ฆ่ามันแล้ววิ่งมาหาพี่!” ผมตะโกนกล่าวกับหงส์ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปปะทะกับซอมบี้ทั้งสามตัวซะก่อน และมันก็คงไม่ใช่เรื่องยากในการฆ่าพวกมัน เพราะพวกมันกำลังนั่งและคุกเข่ารวมถึงหมอบชิดกับร่างที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น