[ตอนที่ 5 นี่เหรอพ่อคน]
ดนัยณัฐโมโหมากที่ยี่หวาทำเหมือนไม่สนใจเขา จึงรีบเดินตามขึ้นไปแล้วกระชากแขนของยี่หวาอย่างแรง แต่เพราะยี่หวายังไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซถลาถอยหลัง บวกกับขาที่อยู่บนบันไดจึงทำให้ทรงตัวไม่อยู่เลยตกลงไปข้างล่าง
ส่วนดนัยณัฐปล่อยแขนยี่หวาก่อนที่เธอจะตก ทำให้เขารอด…
ดังนั้นยี่หวาที่ตกลงมาทำให้หัวได้ไปกระแทกกับขอบบันไดอย่างแรง เลือดสีแดงค่อยๆ ไหลลงมาเปื้อนชุดนักเรียนของเธอไม่หยุด
“แกคงไม่ได้คิดว่าฉันจะฆ่าแกใช่ไหม”
น้ำเสียงเย็นชาออกมาจากปากดนัยณัฐ รวมถึงสีหน้าไร้ความรู้สึก ทำให้ยี่หวาที่ตอนแรกคิดว่าพ่อคงไม่ได้ตั้งใจ กลับต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ทันที
“ถ้าพ่อไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ช่วยพาหนูไปโรงพยาบาลหน่อยได้ไหม”
โชคดีที่ยี่หวายังพอมีสติอยู่บ้าง เพราะถ้าเธอสลบไปมีหวังเธออาจจะได้นอนตายอยู่ข้างล่างตรงนี้ เนื่องจากเธอรู้ว่าคนในบ้านหลังนี้คงไม่มีใครอยากจะพาเธอไปหาหมอหรอก
“ดูด้วยตอนนี้มันกี่โมงแล้ว ถ้าอยากไปมากก็หารถไปเอง” แล้วความคิดของเธอก็ไม่เคยผิดจริงๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่คนเป็นพ่อพูดออกมา
“งั้นหนูขอเงินหน่อยได้ไหม”
“ฉันไม่ให้ แกก็เอาเงินที่ไปนอนกับผู้ชายวันนี้มาใช้สิ” ว่าจบดนัยณัฐก็เดินหันหลังขึ้นห้องไปเลย ปล่อยให้ยี่หวายืนเลือดไหลอยู่ข้างล่างคนเดียว
นี่เหรอพ่อคน?
พ่อคิดว่าวันนี้เธอไปขายตัวมาจริงๆ สินะ แล้วเธอจะทำยังไงดี เงินเก็บเธอก่อนหน้านี้ก็เอาไปซื้อเสื้อกับข้าวต้ม แล้วก็ยาให้ผู้ชายคนนั้นหมดแล้ว
เนื่องจากยี่หวาจะได้เงินไปโรงเรียนแค่วันละยี่สิบบาทจากแม่นม อันที่จริงเธอจะต้องได้ไปโรงเรียนวันละพันแต่แม่เลี้ยงก็เก็บไปหมดไม่ให้เธอเลยสักบาท ดังนั้นทุกครั้งเธอจะคอยเก็บเงินที่ได้ไว้ซื้อยาทำแผลตัวเอง ส่วนข้าวเธอก็จะกินกับแม่นมในครัวตอนเช้าก่อนที่ทุกคนจะตื่น เลยใช้เงินในส่วนนี้ซื้อแค่น้ำตอนเที่ยง ซึ่งเธอจะได้กินข้าวแค่วันละมื้อ แต่เธอก็อยู่ได้เพราะชินแล้ว
ยี่หวาเดินออกมาจากบ้านทั้งสภาพแบบนั้น อย่างน้อยๆ อุปกรณ์ทำแผลของเธอก็อยู่ที่ฐานลับ แล้วก็ยังมียาฆ่าเชื้อกับยาแก้ปวดที่ซื้อให้ผู้ชายคนนั้นก่อนหน้านี้ อาจจะพอช่วยบรรเทาอาการเจ็บนี้ได้ ส่วนพรุ่งนี้ค่อยไปทำแผลที่ห้องพยาบาลของโรงเรียนแล้วกัน
ภายในรถยนต์สีดำคันหนึ่ง กำลังจอดอยู่หน้าประตูบ้านจิรภิญญากุล เนื่องจากวายุเป็นห่วงหญิงสาวคนนั้นที่ช่วยชีวิตเขาไว้ แต่เพราะเธอปฏิเสธที่จะให้เขาไปส่ง ทำให้เขาต้องขับรถตามหลังโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว อย่างน้อยเขาก็จะต้องได้เห็นว่าเธอถึงบ้านอย่างปลอดภัยเสียก่อน
ธาราธรไม่เข้าใจว่าพี่ชายเขาเป็นอะไร เพราะโดนยิงทำให้สมองกระทบกระเทือน หรือว่าโดนวางยากันแน่ ถึงได้ให้เขาขับรถตามผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆ ที่พี่เขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลย จนที่บ้านคิดว่าเขาเบี่ยงเบนทางเพศแล้ว
แต่ธาราธรจะรู้สึกยินดีกว่านี้ ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ยี่หวา…
“ผมขับรถกลับได้ยังครับ” ธาราธรพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ถ้าพี่เขาจะโกรธก็ตามใจ เพราะเขาไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ผู้หญิงที่เอาแต่ทำร้ายคนอื่นแบบนั้น
“มีปัญหาอะไร” วายุถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นและสีหน้าเย็นชา
ธาราธรที่รับรู้ได้ถึงความโกรธของพี่ชายก็รีบอธิบายทันที “ผู้หญิงคนนั้นเคยคิดจะฆ่าเพื่อนตัวเอง แถมยังคอยทำร้ายคนอื่นตลอด”
“เหตุผล” น้ำเสียงเรียบเฉยออกมาจากปากวายุ แสดงให้เห็นว่าเขาไม่เชื่อในสิ่งที่ธาราธรพูด
“เพราะเธออิจฉาที่คนพวกนั้นรวยกว่า”
“เหรอ” วายุกดเสียงต่ำ สายตามองไปยังบ้านที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้งว่า “แล้วบ้านใคร”
มันแปลว่าเธออยู่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้จะจนได้ไง...
นั้นเป็นสิ่งที่ธาราธรสงสัยเหมือนกัน เพราะที่โรงเรียนทุกคนต่างก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นจนมาก แม้แต่เงินข้าวเที่ยงก็ไม่มีกิน ทำให้อิจฉาพวกคนที่รวยกว่าจนต้องคอยทำร้ายคนพวกนั้นอยู่ตลอด
“เธออาจจะเป็นคนใช้”
วายุไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะเชื่อ เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายสูงส่งจากตัวหญิงสาวคนนั้น บวกกับกิริยาท่าทาง ดูยังไงก็รู้ว่าถูกสอนมาดี
วายุไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ธาราธรคิดแบบนั้น คนที่ตัดสินใจช่วยชีวิตคนอื่นโดยไม่มีความลังเลทั้งที่รู้ว่าเสี่ยง จะไปฆ่าคนอื่นได้ไง
แล้วก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้วายุรู้สึกว่าเธออาจจะไม่ปลอดภัยก็เลยตามมา แต่ในเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเข้าบ้านไปได้สักพักแล้ว วายุก็หายห่วง “กลับเลย”