บทที่4 จุดเริ่มต้น#2
20:00น.ณ ผับ MeGa
"พี่ภัทรสวัสดีค่ะ" อิงฟ้าและอิงดาวกล่าวทักทายภัทรเมื่อเจอเข้ากับภัทรที่ประตูทางเข้า
"หวัดดีครับ นายให้มารอพาน้องอิงดาวขึ้นไปบนห้องทำงานครับ" ภัทรบอกออกไปพร้อมเดินนำอิงดาวขึ้นไปชั้นบน
"เดี๋ยวอิงขึ้นไปทำงานก่อนนะคะ ไว้เจอกันตอนเลิกงานค่ะ" อิงดาวโบกมือลาพี่สาวก่อนจะเดินตามภัทรลูกน้องคนสนิทของเมกะขึ้นไปด้านบน
ระหว่างทางขึ้นไปห้องเมกะ
"สองห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวของนาย เวลาเพื่อนนายมาสังสรรค์จะใช้ห้องนี้ ส่วนอีกห้องเป็นห้องนอนของนายเวลานายทำงานดึกแล้วค้างที่นี่ทุกห้องจะมีประตูเชื่อมถึงกันหมด อิงอยู่ที่นี่ก็ห้ามเดินเล่นเพ่นพ่านจะเป็นอันตรายเอาเรายังเด็ก อีกอย่างลูกน้องทุกคนที่นี่ยังไม่รู้จักว่าอิงเป็นพนักงานที่นี่เข้าใจไหมครับ" ภัทรแนะนำโซนต่างพร้อมกำชับเด็กสาวตรงหน้าเพื่อความปลอดภัยของเธอเองเพราะเขาและเจ้านายไม่มีเวลามาเฝ้าตลอด24ชั่วโมงเพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือต้องบอกให้เธอรู้ว่าพื้นที่ตรงไหนไปได้พื้นที่ตรงไหนเป็นพื้นที่ต้องห้าม
"รับทราบค่ะพี่ภัทรสุดหล่อ" อิงดาวรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ
"เดี๋ยวนายจะเข้ามาอีกประมาณ20นาที อิงนั่งรอไปก่อนพี่จะไปเช็กความเรียบร้อยด้านล่าง ทีวีเปิดดูรอก่อนได้แต่ของอย่างอื่นห้ามแตะจะดีที่สุดครับ" ภัทรพูดจบก็เดินออกไปทันทีเหลือเพียงชายแปลกหน้าสองคนที่น่าจะเป็นลูกน้องของเมกะยืนเฝ้าหน้าห้องราวหุ่นยนต์
อิงดาวถือวิสาสะเดินดูรอบๆ ห้องด้วยนิสัยอยู่นิ่งไม่เป็นหยิบโน่นจับนี่ จนไปเจอกับรูปๆ หนึ่งเข้าถึงกับต้องหยุดมอง เป็นรูปที่เมกะถ่ายคู่กับเพื่อนอีก3คนอิงดาวยืนมองรูปนั้นอยู่นานผู้ชายที่อยู่ในรูปแววตาดูอบอุ่นแต่น่าเกรงขาม ทันใดนั้นเสียงเปิดประตูเข้ามาช่วยเรียกสติอิงดาวให้หลุดออกจากภวังค์
"มานานหรือยังอิง" เมกะใช้คำพูดที่เป็นกันเองกับอิงดาวเพราะรู้สึกว่ารักเหมือนน้องสาว
"ไม่นานค่ะ อิงก็พึ่งมาถึงเลยถือวิสาสะเดินสำรวจรอบห้องเลยค่ะ" อิงดาวพูดออกไปแก้เขินพร้อมรอยยิ้มแก้มปริที่ใครเห็นเป็นอันต้องหลงรัก
"หึ อย่าซนมากนะเราของในห้องเฮียแพงมากนะบอกก่อน"เมกะแกล้งขู่ออกไปอยากเห็นหน้าเด็กซนว่าจะทำหน้ายังไง
"อิงจะไม่ดื้อไม่ซนอีกแล้วค่ะ ถ้าเกิดอิงทำอะไรพังต้องทำงานกี่ปีถึงจะชดใช้หมดไม่ค่ะไม่ซนเด็ดขาด" อิงดาวโบกไม้โบกมือทำท่าหวาดกลัวตาโตเท่าไข่ห่านเมื่อนึกถึงว่าต้องทำงานใช้หนี้งกๆๆ
"หึ..เฮียล้อเล่น ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นพังก็แค่ซื้อใหม่ เอาเก้าอี้มานั่งข้างๆ เฮียมาเฮียจะสอนงานว่าต้องทำอะไรบ้าง" เมกะโยกหัวอิงดาวเบาอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินไปที่โต๊ะทำงาน
"เมื่อกี้คุณเมกะแทนตัวเองว่ายังไงนะคะ" อิงดาวเมื่อได้สติจึงเอ่ยถามขึ้นพร้อมลากเก้าอี้ตัวใหญ่จากโต๊ะทำงานข้างๆ มาอย่างทุลักทุเล
"เฮียไง ต่อไปเรียกเฮียว่าเฮียแทนตัวเองว่าอิงเข้าใจไหม" เมกะตอบกลับหน้าตาเฉยระหว่างเปิดแฟ้มบัญชีรายรับรายจ่ายของร้านเดือนนี้ไปด้วย
"เข้าใจค่ะเฮีย แล้ววันนี้อิงต้องทำอะไรบ้างคะ" อิงดาวยิ้มแป้นอย่างดีใจราวกับว่าพบเจอพี่ชายที่พลัดพรากจากกันตั้งแต่เด็ก
"ยิ้มอะไรขนาดนั้นแก้มปริแล้วนั่น" เมกะเอ่ยแซวเมื่อเงยหน้าขึ้นมองเด็กน้อยตรงหน้าที่เอาแต่นั่งยิ้มไม่ยอมหุบ
"ก็อิงดีใจนิคะ" อิงดาวยังไม่หยุดยิ้มมิหนำซ้ำยังนั่งจ้องหน้าเมกะไม่ละสายตา
"จ้องหน้าเฮียทำไม" คนโดนจ้องถึงกลับรู้สึกประหม่า จนเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
"เวลาเฮียยิ้มรู้ไหมคะว่าเฮียดูเป็นคนอบอุ่นมากยิ้มบ่อยๆ สิคะอย่าเอาแต่ทำหน้าดุทั้งวัน" อิงดาวบอกออกไปตามความรู้สึกของตัวเอง
"ขืนเฮียยิ้มทั้งวันมีหวังลูกน้องหาว่าเฮียบ้านะสิ เอาเป็นว่าเฮียจะยิ้มให้เราบ่อยๆ แล้วกัน มาทำงานได้แล้วเดี๋ยวเฮียหักตังค์ซะเลยนิ" เมกะแทบไปต่อไม่เป็นเมื่อโดนเด็กชมต่อหน้าเกิดมาไม่เคยมีใครเคยชมเขาว่าน่ารักอบอุ่นแบบนี้เลย
"รับทราบค่ะบอส" อิงดาวยกมือขึ้นตะเบ๊ะเรียกรอยยิ้มจากเมกะได้อีกรอบ
เมกะสอนงานอิงดางอยู่ราวชั่วโมงเศษๆ อิงดาวก็เข้าใจและสามารถทำงานต่อได้เอง เมกะจึงหันมาเคลียร์งานตัวเองต่อเพราะวันนี้มีนัดสังสรรค์กับแกงค์เพื่อนตอน3ทุ่ม
เวลา20:58น.
"นายครับข้างล่างแจ้งว่าคุณเฟมโต คุณเซนติมาถึงแล้วครับกำลังจอดรถอยู่ ให้ใช้ห้องเดิมใช่ไหมครับ" ภัทรรายงานคนเป็นนายก่อนจะยืนรอเพื่อรอคำสั่ง
"อือ...ใช้ห้องเดิมเข้าประตูหน้านะอย่าให้พวกมันเข้ามาห้องนี้ปิดม่านด้วย" เมกะสั่งภัทรก่อนจะรีบเซ็นเอกสารตรงหน้าอีกสี่ห้าแฟ้มให้แล้วเสร็จเพราะคืนนี้คงไม่ได้กลับมาเคลียร์งานอีกแน่นอน
"ครับนาย" ภัทรรีบเดินออกจากห้องไปเพื่อไปต้อนรับเพื่อนของเจ้านายที่กำลังจะขึ้นมา
"คุณเฟมโต คุณเซนติสวัสดีครับ เชิญที่ห้องเดิมเลยครับนายขอเคลียร์งานสัก10นาที เดี๋ยวมาครับ" ภัทรโค้งหัวให้เพื่อนเจ้านายเพื่อทำความเคารพ ก่อนจะเดินนำทั้งสองหนุ่มขึ้นมายังชั้นบนที่เป็นห้องส่วนตัวที่เมกะทำไว้สังสรรค์กับเพื่อนโดยเฉพาะ
"ภัทร ปิดม่านทำไมปกติไม่เห็นปิดเลยนี่" เซนติเอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะปกติห้องนี้ไม่เคยปิดม่านเพราะเป็นกระจกที่สามารถมองเห็นแค่ด้านเดียว คือคนด้านนอกไม่สามารถมองเห็นคนด้านในได้แต่คนที่อยู่ด้านในสามารถมองเห็นคนด้านนอกได้และห้องนี้ถูกออกแบบมาอย่างดีสามารถมองเห็นด้านล่างได้อย่างชัดเจน
"นายสั่งให้ปิดครับ" ภัทรตอบออกไปแค่นั้น
"กูว่านะ...มันต้องซ่อนใครไว้ในห้องแน่ๆ ถึงไม่อยากให้เราเห็น" เซนติพูดขึ้นพร้อมมองไปยังทิศทางห้องที่เมกะทำงานอยู่ ในส่วนห้องทำงานของเมกะสามารถเปิดเชื่อมมายังห้องที่เฟมโตและเซนตินั่งอยู่ได้แต่อีกฝั่งไม่สามารถเปิดเข้ามาได้เพราะต้องใช้รหัสซึ่งมีเพียงเมกะและภัทรเท่านั้นที่รู้รหัส
ครืด..เสียงประตูถูกเปิดออกพร้อมปิดลงทันทีทุกสายตาหันขวับมาทางเมกะที่ยืนงงอยู่
"มองกูทำเชี่ยอะไร" เมกะด่าออกไปก่อนจะเดินไปหย่อนสะโพกลงบนโซฟาขายาวตวัดขึ้นไขว่ห้างอย่างเคยชิน
"มึงซ่อนใครไว้ในห้อง" เซนติยิงคำถามทันทีที่เมกะนั่งลงยังไม่ถึงโซฟาดีด้วยซ้ำ
"ขี้เสือกเนาะมึง เรื่องส่วนตัวของกู" เมกะด่าสวนกลับไปพร้อมยกแก้วเหล้าตรงหน้าเฟมโตขึ้นดื่มจนหมดแก้ว
"มารยาท ภัทรเปลี่ยนแก้วใหม่ให้กูด้วย" เฟมโตด่าเมกะออกไปพร้อมหันไปสั่งภัทรที่ทำหน้าที่ชงเหล้าในวันนี้
"ไอ้ลีออน..ไม่มา?" เมกะถามขึ้นพร้อมกับมองหน้าเฟมโตและเซนติ
"มา..แต่ไม่รู้เมื่อไหร่" เซนติตอบออกไปพร้อมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมดแก้วราวกับกระหายมานาน