บทที่2 คนแปลกหน้า
พรึบ กรี๊ดๆๆๆๆ อือๆๆๆๆๆๆ
"เงียบครับ เงียบก่อน พวกเราไม่ได้จะมาทำร้ายคุณ" เจเนสรีบยกมือขึ้นปิดปากดารินเจ้าของบ้านทันทีเพื่อไม่ให้ส่งเสียงดังเพราะไม่เพียงแต่เขาและเจ้านายเท่านั้นที่จะไม่ปลอดภัย ดารินเจ้าของบ้านเองก็จะพลอยโดนร่างแหไปด้วยเพราะให้ที่หลบซ่อนพักพิง
"นายของเราได้รับบาดเจ็บ เราแค่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ พวกเราไม่ได้จะทำร้ายคุณ ได้โปรดเชื่อใจเรานะครับ" เจเนสค่อยๆ ปล่อยมือออกเมื่อได้รับสัญญาณจากดารินโดยการพยักหน้าว่าเข้าใจสิ่งที่เจเนสพูด ก่อนที่เจเนสจะเอื้อมมืออีกข้างไปกดปิดสวิตช์ไฟเพราะแสงสว่างจากด้านในสามารถมองเห็นจากด้านนอกชัดเจนเพราะหน้าต่างบานใหญ่ไม่ได้ดึงม่านปิด
"ขอบคุณที่กรุณาช่วยเหลือพวกเรา คุณมีอุปกรณ์ทำแผลไหมครับ นายผมเขาได้รับบาดเจ็บ" ภาษาไทยสำเนียงต่างชาติถูกเปล่งออกมาด้วยแววตาขอบคุณ คนฟังรับรู้ได้ทันทีแม้จะมองฝ่าความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาให้เห็นแค่รางๆ
"เปิดไฟก่อนนะคะ แล้วฉันจะทำแผลให้ ฉันเป็นพยาบาลค่ะ"ดารินพยายามตั้งสติ เพราะคิดว่าบุคคลตรงหน้าคงกำลังเดือดร้อนจริงๆ คงไม่ได้คิดจะจี้ปล้นฆ่าอะไรตนเพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ตนคงไม่รอดจนถึงป่านนี้
ดารินรีบดึงม่านประตูหน้าต่างปิดลงสนิททุกบาน ก่อนจะเดินไปเปิดสวิตช์ไฟ เมื่อแสงสว่างถูกเปิดขึ้นเผยให้เห็นชายต่างชาติวัยกลางคนนอนซมอยู่บนโซฟาแขนเปื้อนไปด้วยเลือด น่าจะได้รับบาดเจ็บจากอะไรสักอย่างแล้วเสียเลือดมากจึงทำให้ร่างกายอ่อนแอแบบนี้ ดารินรีบเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลอย่างเร่งรีบแล้วลงมือทำแผลให้บุคคลตรงหน้าอย่างไม่คิดจะถามหาเหตุผล
เวลาผ่านไปเกือบ20นาที
"ฉันทำแผลให้เจ้านายคุณเรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วพวกคุณก็พักที่นี่ก่อนเดี๋ยวฉันเอาหมอนกับผ้าห่มมาให้ ห้องน้ำอยู่ทางด้านโน้นเชิญคุณตามสบายค่ะ ดิฉันจะจัดยาลดไข้ไว้ให้เผื่อเจ้านายคุณมีไข้ตอนกลางคืนดิฉันขอตัวก่อนนะคะ" ดารินจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ขอตัวขึ้นนอนเพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว
"ขอบคุณคุณผู้หญิงอีกครั้งนะครับ ที่กรุณาช่วยเหลือพวกเรา" เจเนสก้มหัวเพื่อแสดงความขอบคุณจนดารินเดินขึ้นบ้านชั้นสองไป
ครืด ครืด ครืด
"แม่คะดึกแล้วทำไมแม่ยังไม่นอนอีกคะ เมื่อกี้หนูเห็นไฟด้านล่างยังเปิดอยู่เลยค่ะ"
"อ้อ..แม่จะนอนแล้วจ๊ะ พอดีแม่หิวน้ำน่ะเลยลงมาหาน้ำดื่มนี่แม่ก็กำลังจะขึ้นนอนแล้วจ๊ะ"
"โอเคค่ะแม่ หนูก็จะนอนแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวโดนพี่ฟ้าบ่นเอา"
"เรานี่นะชอบไปกวนพี่ฟ้าเขา บ้านตัวเองมีไม่รู้จักนอน"
ดารินวางสายจากลูกสาวเสร็จก็ปิดไฟเข้านอน แต่นอนยังไงก็นอนไม่หลับนึกถึงแต่ใบหน้าและสายตาชายแปลกหน้าที่นอนซมอยู่ด้านล่าง รู้สึกเป็นห่วงแปลกๆ ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จนเวลาล่วงเลยมาเกือบ3ชั่วโมงดารินก็อดทนต่อไปไม่ไหวจึงลุกขึ้นจากเตียงและตรงดิ่งลงไปยังชั้นล่างจุดหมายคือโซฟากลางบ้านที่ชายแปลกหน้านอนหลับอยู่
"คุณผู้หญิง มีอะไรหรือเปล่าครับ ตอนนี้ยังไม่ใกล้สว่างเลยนะครับ" เจเนสที่นั่งเฝ้าเจ้านายอยู่รีบลุกขึ้นและเอ่ยถามทันทีที่เห็นดารินปรากฏตัวตรงนี้เวลานี้ทั้ง ๆ ที่เวลานี้เธอควรนอนอยู่บนห้อง
"เขาเป็นยังไงบ้างคะ" ดารินเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง สายตาจดจ้องไปยังบุคคลที่นอนอยู่ตรงหน้า
"ผมพึ่งเช็ดตัวให้นายไปเมื่อสักครู่ครับ ไข้น่าจะลดลงแล้ว" เจเนสตอบกลับอย่างสุภาพเปรียบเสมือนว่าดารินคือเจ้านายอีกคน
"คุณนอนพักสักหน่อยเถอะค่ะ อีก2ชั่วโมงก็จะเช้าแล้วเดี๋ยวฉันดูเขาต่อเอง" ดารินบอกเจเนสทั้งที่สายตายังจดจ้องอยู่ที่ลาครอสชายแปลกหน้าที่นอนอยู่ตรงหน้า
"ไม่เป็นไรครับ คุณผู้หญิงขึ้นไปพักผ่อนเถอะครับ แค่นี้เราก็รบกวนมากพอแล้ว" เจเนสพยายามสื่อสารกับดารินด้วยภาษาที่พอจะพูดได้บ้างถึงจะไม่เก่งแต่ก็พอสื่อสารกันรู้เรื่อง
"ฉันนอนไม่หลับค่ะ คุณเองก็ได้รับบาดเจ็บมาพักสักหน่อยเถอะค่ะพรุ่งนี้จะได้มีแรงดูแลเจ้านายคุณต่อ" คำพูดของดารินทำให้เจเนสต้องจำยอมอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะร่างกายเขาก็บาดเจ็บไม่น้อยควรพักสักหน่อยแต่ด้วยหน้าที่จึงต้องอดทน
"ขอบคุณครับ รบกวนคุณผู้หญิงด้วยนะครับ" เจเนสโค้งหัวให้ดารินเพื่อเป็นการขอบคุณและเอนตัวลงนอนบนโซฟาอีกตัวที่ว่างอยู่และหลับไปในเวลาต่อมา
เช้าวันใหม่ชายแปลกหน้าสองคนก็หายไปเหลือเพียงกระดาษที่เขียนโน้ตไว้เป็นภาษาอังกฤษ
(Thank you very much for your help. We will definitely not forget your gratitude. Yes, please contact us when you are in trouble. We will be happy to assist you without any limitations.) ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือของคุณ เราจะไม่ลืมบุญคุณของคุณอย่างแน่นอน ได้โปรดติดต่อเราเมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือ เรายินดีที่จะช่วยเหลือคุณโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ"
พร้อมนามบัตรติดต่อ
"ลาครอส คุณชื่อลาครอสสินะ" ดารินหยิบนามบัตรขึ้นมาอ่านพร้อมนึกถึงใบหน้าชายแปลกหน้าที่พึ่งรู้จักชื่อเมื่อสักครู่ พร้อมเก็บนามบัตรใส่กล่องเก็บของบนหัวเตียงและปิดเก็บไว้ดังเดิม
แสงแดดจ้าตอนเช้าส่องผ่านหน้าต่างบานเล็กเล็ดลอดเข้ามาภายในห้องนอนของดาริน ช่วยปลุกดารินให้หลุดจากภวังค์ที่เอาแต่นึกถึงชายแปลกหน้าที่ช่วยเหลือไว้เมื่อคืน
"เฮ้อ..สายแล้วสินะ นี่เรามัวแต่นึกถึงเขาอยู่ทำไมกัน" ดารินเมื่อได้สติจึงลุกจากเตียงเดินเข้าครัวเพื่อทำอาหารเช้ารอลูกสาว