บทที่1 ธุรกิจสีเทา
ตึก ตึก ตึก เสียงรองเท้าหนัง กระทบกับพื้นพรมทางเดิน ยามที่ร่างสูงเดินหุ่นนายแบบสาวเท้ายาวเดินตรงไปยังโต๊ะ VIP ของผับชื่อดังใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดัง ดวงตาเฉี่ยวคมฉบับลูกครึ่งไทย-อังกฤษ-จีน จ้องมองผ่านแสงไฟสลัวภายในผับเมื่อเห็นเจ้าของผับนั่งไขว่ห้างมองมาที่เขาเช่นกัน
"ไงมึง"
เมกะเจ้าของผับเอ่ยทักทายเสียงเรียบด้วยถ้อยคำสนิทสนม ทำให้ผู้มาใหม่ซึ่งกำลังตั้งท่าจะเดินหนี เป็นอันต้องจำใจยอมไปกระแทกตัวนั่งลงโซฟาฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยที่ดันเจอเข้ากับสิ่งที่ไม่ได้อยากเจอในค่ำคืนนี้
"งานการไม่ทำหรือไง แสนรู้ว่ากูจะมา" คำพูดราบเรียบแต่คนฟังถึงกับจุกถูกส่งไปลอย ๆ แต่เป้าหมายชัดเจนคือชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามนั่นเอง
"เอ้า เอ้า..นั่นปากเหรอที่พูด นี่ผับกู..เป็นบุญตามึงแค่ไหนแล้วที่เห็นกูอยู่นี่" เมกะว่าให้ ก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มกับลูกน้องนานนับนาทีกว่าจะกลับมาสนทนากับลีออน
"หายหน้าหายตาเลยนะมึงกูนึกว่าหนีกลับไปซบอกพ่อที่อังกฤษซะแล้ว"
"ไร้สาระ"
หนุ่มหล่อใบหน้าคมปรายตามองเพื่อนชาวเอเชียเพียงนิด ก่อนละสายตาหนีจนสะดุดกับลูกค้าซึ่งเป็นชายสูงวัยที่นัดคุยงานวันนี้ ร่างสูงของลีออนผลุนผลันลุกออกจากโต๊ะในทันทีท่ามกลางเสียงร้องเรียกตามหลังของเมกะ
"เฮ้ เฮ้ ลีออน ไอ้ลีออนนี่มึงจะไปไม่คิดจะบอกกูสักคำ"
ลีออนปรับใบหน้าให้เคร่งขรึมทันทีเมื่อเข้าโหมดจริงจัง ในการทำงานของเขาต้องเต็มไปด้วยความเรียบร้อยและสมบูรณ์แบบที่สุดเพราะไม่ใช่คนเรื่องมากแต่ทุก ๆ การต่อรองธุรกิจสีเทาต้องเป็นไปตามกฎที่เขาวางไว้ เป็นที่ยอมรับว่ากฎหมายจากภายนอกไม่สามารถเอาผิดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ นั่นทำให้นักธุรกิจรุ่นใหญ่อยากเข้ามาร่วมทำธุรกิจกับเขา อย่างน้อยก็มั่นใจในระดับหนึ่งว่าการลงทุนนั้นปลอดภัยจากสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยปราบปรามอาชญากรข้ามชาติ
"ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ ที่ไออุตส่าห์บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อเจรจากับยู" หนุ่มใหญ่ชาวฮ่องกงสำเนียงภาษาอังกฤษผิดเพี้ยนจนแทบฟังไม่ออก แต่ดีที่ลีออนสามารถสื่อสารภาษาจีนได้ภาษาจึงไม่เป็นอุปสรรคในการเจรจาจึงสามารถตกลงธุรกิจกันได้โดยง่าย นักธุรกิจชาวฮ่องกงกระตุกยิ้มอย่างพอใจกับข้อตกลงที่มาเฟียหนุ่มรุ่นลูกสามารถมอบความน่าเชื่อถือให้กับเขาได้
"หวังว่างานหน้าเราคงได้ร่วมธุรกิจกันอีก"
"ยินดีครับ" ลีออนยิ้มกลับเพียงนิดตามมารยาท
"พี่ฟ้าคะ อิงอยากหางานพิเศษทำ อยากเก็บเงินระหว่างรอมหาวิทยาลัยเปิดเทอมนะคะ พี่ฟ้ามีงานอะไรที่อิงพอจะทำได้ไหมคะ" หญิงสาววัยแรกแย้มพูดขึ้นด้วยสีหน้าออดอ้อนตามสไตล์เด็กน้อยอ้อนพี่สาว อิงดาวและอิงฟ้าเป็นเพื่อนบ้านกันและโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก อิงฟ้าอายุมากกว่าอิงดาว2ปีและอิงฟ้าเองก็เป็นเด็กขยันทำงานส่งตัวเองเรียนตั้งแต่เรียนมัธยมฯ
"แต่งานที่พี่ทำมันไม่เหมาะกับอิงหรอก งานในผับอันตรายเกินไปสำหรับอิง พี่ว่าลองหางานตามคาเฟ่ดีกว่าไหมน่าจะเหมาะกับอิงมากกว่า" ถึงอิงดาวจะอายุครบ18ปีบริบูรณ์แล้ว แต่อิงดาวเป็นเด็กเรียบร้อยไม่ค่อยทันสังคมกลางคืนถ้าไปทำงานในสถานที่แบบนั้นมีหวังโดนรังแกเป็นแน่
"อิงลองหาดูหมดแล้ว แถวนี้เขารับคนเต็มหมดแล้วนะๆ พี่ฟ้า งานล้างจานเด็กเสิร์ฟอะไรก็ได้อิงแค่อยากทำงานเก็บเงินเยอะๆ ตอนเปิดเทอมจะได้ไม่รบกวนเงินจากแม่นะคะ น๊า..พี่ฟ้าคนสวย" เด็กสาวออดอ้อนพี่สาวสุดฤทธิ์เพื่อหวังให้คนเป็นพี่ใจอ่อน เพราะเมื่อไหร่ที่อิงฟ้าเจอลูกอ้อนของอิงดาวเข้าไปเป็นอันต้องใจอ่อนทุกที
"อือๆ เดี๋ยวพี่จะลองคุยกับผู้จัดการดูแล้วกันว่าเขารับคนเพิ่มไหม แต่พี่ไม่รับปากนะว่าจะได้หรือเปล่า" อิงฟ้าจำใจต้องใจอ่อนกับน้องสาวคนนี้ทุกที หลงตกปากรับคำไปแล้วยังไงก็ต้องทำตามที่รับปากคนเป็นน้องไว้เพราะเอาเข้าจริงๆ ตอนนี้ผับที่เธอทำงานอยู่ก็ต้องการเด็กเสิร์ฟอยู่พอดี แต่ปัญหามันอยู่ที่อิงดาวอายุยังไม่ถึง20ปี อย่าว่าแม้แต่จะทำงานในผับเลยถ้าปกติที่อื่นเขายังไม่ให้เดินเข้าผับด้วยซ้ำ แต่ผับ MeGa ค่อนข้างที่จะมีอิทธิพล สามารถเข้าออกได้ทุกกลุ่มทุกวัยแต่เพียงแค่มาดื่มเหล้าหรือเต้นสนุกเพื่อคลายเครียดแค่นั้น ไม่มีเรื่องผู้หญิง ยา หรือแม้แต่อบายมุขอื่นๆ ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน
ปัง ปัง ปัง เสียงปืนดังสนั่น ราวกับคนลั่นไกไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง บ้านหลังเล็กท้ายซอยซึ่งเป็นบ้านที่อิงดาวอาศัยอยู่กับมารดาตั้งแต่เด็กหลังจากที่ผู้เป็นพ่อเสียไปจากอุบัติเหตุเมื่อหลายสิบปีก่อนตั้งแต่อิงดาวยังจำความไม่ได้
"นายครับ นายเป็นยังไงบ้างครับ ผมว่าเราเข้าไปหลบในบ้านหลังนั้นก่อนไหมครับ ตอนนี้คนของเราที่ติดตามมาด้วยน่าจะโดนเก็บหมดแล้ว เดี๋ยวผมจะรีบติดต่อคุณลีออนครับ" เสียงลูกน้องคนสนิทของลาครอสอดีตมาเฟียฝั่งยุโรปที่พึ่งวางมือทุกอย่างให้ลูกชายดูแล
"ฉันไม่อยากทำให้คนอื่นเดือดร้อน แค่เราบุกรุกพื้นที่บ้านเขาอยู่ตอนนี้ก็มากเกินพอแล้ว" ลาครอสตอบกลับลูกน้องไปแบบนั้น ทั้งๆ ที่ตอนนี้ตัวเองได้รับบาดเจ็บและต้องรีบทำแผลให้เร็วที่สุด
"แต่นายครับ แผลนายเลือดไหลออกค่อนข้างเยอะ เราต้องรีบทำแผลโดยด่วนนะครับนาย" เจเนสลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงคนเป็นนาย พร้อมกับลุกขึ้นและจัดการอะไรบางอย่างที่ประตูหน้าบ้านหลังเล็ก สักพักประตูที่ถูกล็อกอย่างแน่นหนาก็ถูกเปิดออกโดยง่ายด้วยฝีมือของเจเนส
"เจเนส อย่าทำให้เขาตื่นกลัว" ลาครอสเมื่อไม่สามารถห้ามปรามลูกน้องได้ ได้แต่ถอนหายใจและกำชับว่าอย่าทำอะไรรุนแรงเจ้าของบ้านให้เขาตื่นกลัวเป็นอันขาด
"นายนั่งรออยู่โซฟาก่อนนะครับ ผมจะไปหาอุปกรณ์มาทำแผลให้ นายระวังตัวด้วยนะครับ" เจเนสเริ่มส่องไฟฉายอันเล็กหาของสำคัญที่คาดว่าน่าจะถูกเก็บไว้บนตู้เล็กๆ แถวนี้สักที่นึง
ดาริน ที่นอนอยู่บนห้องด้านบนได้ยินเสียงแว่วเหมือนคนคุยกัน คิดว่าอิงดาวลูกสาวที่วันนี้บอกผู้เป็นแม่ว่าจะไปค้างกับพี่สาวบ้านข้างๆ สงสัยโดนไล่กลับมาอีกตามเคย
"อิงลูก กลับมาแล้วทำไมไม่เปิดไฟละลูก "ดารินเอ่ยถามลูกเบาๆ เมื่อมองเห็นเป็นเงาราง ๆ ว่ามีคนนั่งอยู่บนโซฟา