ตอนที่ 3 โมเดลคือใคร 2/2
“กูว่ามันต้องมีเรื่องปกปิดพวกเราอยู่แน่เลย” เพลิงกัลป์พูดตามสัญชาตญาณตัวเอง จากที่มองด้วยตาเปล่า ฟีนิกซ์กำลังมีเรื่องที่ไม่อยากบอกพวกเขาสามคน แล้วเขาดันเป็นพวกเคารพสิทธิส่วนบุคคลด้วยสิ
“เอาไงดีพวกเรา” ฟลินต์เองก็คิดไม่ต่างจากเพื่อนอีกสองคน
“วันนี้มึงว่างไหม”
“กูว่าง”
“มึงล่ะ” เลื่อนสายตาไปที่เพลิงกัลป์
“เรื่องเสือกกูว่างอยู่แล้ว”
“ดีล วันนี้ต้องรู้ให้ได้มันแอบซ่อนใครไว้”
“เมื่อกี้ไอ้อคินเอากล่องอาหารมาให้มัน” แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเพื่อนเขามีพิรุธจริง ๆ ทั้งสามมองตามฟีนิกซ์ไป ก่อนจะหันมาสบตากันแล้วยกยิ้มมุมปาก
“มึงไม่รอดแน่ไอ้ฟีนิกซ์” มันเคยห่อข้าวมากินที่บริษัทที่ไหน อย่ามาบอกว่าพี่สะใภ้มันทำให้ ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน ยัยนั่นวัน ๆ ด่าแต่ผัวไม่ก็จับลูกแต่งตัวแปลก คงไม่ว่างมานั่งทำอะไรไร้สาระแบบนี้หรอก
“....” คนตัวโตนั่งนิ่งมองกล่องข้าวที่หญิงสาวทำมาให้ตนได้ทานเป็นมื้อเช้า พอมีคนมาทำอะไรแบบนี้ให้แล้วมันก็รู้สึกแปลกอยู่เหมือนกัน ปกติเขาไม่ค่อยทานข้าวเช้าอยู่แล้ว แค่กาแฟแก้วเดียวก็อยู่ได้ถึงเที่ยง ฟีนิกซ์เอาแต่จ้องมองอยู่แบบนั้น กระทั่งเสียงประตูดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก
“เชิญ”
“เอกสารที่ต้องเซ็นค่ะ” มือหนารับมาก่อนจะเปิดอ่าน แล้วจัดการเซ็นชื่อตัวเองเสร็จสรรพ
“ประชุมช่วงเย็นเลื่อนออกไปก่อน” เขามีธุระจำเป็นกว่านั้นต้องไปจัดการ
“รับทราบค่ะ”
“ระหว่างนี้ถ้าใครมาขอพบให้บอกว่าผมไม่ว่าง”
“ค่ะท่านประธาน”
“ไม่มีอะไรแล้วครับ” เลขารับเอกสารกลับคืนไป จากนั้นเธอก็ออกจากห้องทำงานของท่านประธานกลับไปทำงานตัวเองต่อ
“จะทำให้ตัวเองเหนื่อยทำไม” บ่นแต่มือก็จัดการแกะผ้าที่ห่อกล่องข้าวอยู่ออก ทันทีที่เห็นหน้าตาอาหารใบหน้าที่เคยเรียบนิ่งก็มีรอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นมา แล้วในขณะนั้นเอง หางตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นเล็กข้างกล่อง
ทานให้อร่อยนะคะ ฉันตั้งใจทำให้คุณเลยนะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับมือถือค่ะ^^
"หึ"
ในขณะที่เขากำลังเอื้อมมือไปหยิบช้อนมาตักข้าวกิน เขาเพิ่งนึกได้ว่าใกล้ถึงวันจ่ายค่าเทอมเธอแล้ว แต่แล้วทำไมไม่เห็นคนตัวเล็กเดินมาขอเงินจากเขาไปจ่ายค่าเทอมตัวเองล่ะ อย่าบอกนะว่าจะเอาเงินที่ได้จากงานทำงานคืนนี้ไปจ่าย แล้วมันพอเหรอวะ เขาหยิบเอามือถือขึ้นมากดเข้าแอปพลิเคชันไลน์เพื่อส่งข้อความหาคนตัวเล็กทันที
Line!
ฟีนิกซ์: เข้าเรียนยัง
"อ๊ะ" ขณะที่ยืนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังขึ้น หญิงสาวล้วงมือถือในกระเป๋ามาเปิดดูแจ้งเตือน
"คุณฟีนิกซ์.." เมื่อเช้าก่อนออกมาเรียน อคินได้นำมือถือเครื่องใหม่มาให้เธอ บอกว่าเป็นฟีนิกซ์ที่ซื้อให้เป็นของขวัญ เนื่องจากอะไรเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากขอบคุณเขามาก ๆ ฉันเลยทำอาหารไปให้พร้อมกับเขียนโน้ตขอบคุณไปด้วย
โมเดล: ยังค่ะ
ฟีนิกซ์: งานที่ไปทำเขาให้เท่าไหร่
โมเดล: 1500 ค่ะ
ฟีนิกซ์: ฉันจ้าง 20000 ไม่ต้องไป
โมเดล: ไม่ได้ค่ะ รับปากไปแล้ว
เขาบ้าไปแล้วหรือไงถึงเอาเงินมาจ้างให้เธอไปต้องไปทำงาน ที่เขาให้มามันก็เยอะแหละสองหมื่นเชียวนะ แต่เราโตแล้วไง คุยกันเรียบร้อยแล้วไม่อยากผิดคำพูดกับพี่ ๆ เขาด้วย ร้านที่เธอจะไปทำคืนนี้เป็นผับของรุ่นพี่ที่เธอรู้จัก พี่เขาคอยป้อนงานมาให้เธอทุกครั้งที่มีงานเข้ามา และรุ่นพี่คนนี้ก็ใจดีกับเธอมาก
พี่เขาเป็นผู้ชายแล้วก็มีแฟนแล้วด้วย จะบอกว่าแฟนของรุ่นพี่น่ะเอ็นดูเธอยิ่งกว่าอะไร เธออยากทำประจำนะ แต่เพราะยังมีงานที่ช่วยป้าดาช่วงเช้าอีก ทั้งตัวเธอที่ต้องดูแลน้องชายด้วย วันไหนเข้าเรียนบ่ายเธอจะไปทำงานช่วยป้าดาในช่วงเช้า แล้วถ้าวันไหนเรียนทั้งวันเธอจะไปทำงานที่ร้านของรุ่นพี่แทน สลับไปมาอยู่แบบนี้ อาศัยว่าได้เงินมาเลี้ยงปากท้องของตนกับน้องชายให้อยู่รอด และเก็บไว้เป็นค่าเทอมอีกส่วนหนึ่ง
ฟีนิกซ์: ส่งเลขบัญชีมา
โมเดล: เอาไปทำไมเหรอคะ
ฟีนิกซ์: ส่งมา
โมเดล: คุณตอบก่อนสิ
ฟีนิกซ์: ต้องให้ไปเอาถึงที่?
คำว่า 'เอาถึงที่' ของเขามันฟังดูสองแง่สองง่ามยังไงไม่รู้ ดวงตากลมโตจ้องข้อความที่เขาส่งมาล่าสุด จึงตัดสินใจส่งเลขบัญชีไปตามที่เขาขอ หรือเขาจะจ่ายเงินเดือนให้เธอ เพราะวันนี้คือวันสุดท้ายของเดือน แต่เธอกับเขาเพิ่งมาอยู่ด้วยกันได้ไม่กี่วันเองนะ
โมเดล: xxxxxxx98 บัญชีค่ะ
เงินเข้า: มีเงินโอน 200,000 บาท จาก xxx บัญชี X-XXX9 เข้าบัญชีออมทรัพย์ X-XXX1 วันที่ XX/XX/XXXX @08:47 ยอดเงินที่ใช้ได้ 202,000 บาท
"เดี๋ยวนะ!" ไม่ถึงสองนาทีก็มียอดเงินเข้ามา แต่ว่าทำไมเขาโอนมาเยอะจัง อีกอย่างเขาก็ไม่ได้บอกด้วยว่าค่าจ้างเธอเท่าไหร่ อยู่ ๆ ก็โอนมาแบบนี้เลย นึกว่าจะมีสัญญาจ้างมาให้เขียนแล้วค่อยตกลงเงินเดือน
โมเดล: คุณโอนมาทำไมเยอะจัง
ฟีนิกซ์: ค่าอาหารเช้า
โมเดล: อะไรของคุณเนี่ย ฉันขอบัญชีคุณได้ไหมคะ จะโอนไปคืน
ผ่านไปเกือบสิบนาทีได้ ฟีนิกซ์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะอ่านข้อความที่เธอส่งไป หญิงสาวรอข้อความตอบกลับจากเขาอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อเห็นว่าอีกคนเงียบไป เธอจึงเลือกกดโทรหาทันที
ตู๊ด ตู๊ด
(.....) เขารับสายแต่ไม่ยอมพูด
"ฉันขอเลข.."
(ไปจัดการค่าเทอมให้เรียบร้อย)
"คุณรู้ได้ยังไง" เขารู้ได้ยังไงว่าเธอใกล้จ่ายค่าเทอมแล้ว อย่าบอกนะว่า..
(กลับก่อนสี่ทุ่ม)
"แต่ฉันบอกคุณแล้วว่าถึงตีสองนะคะ"
(หรือจะให้ฉันเข้าไปยกเลิก)
"คุณมีเหตุผลหน่อยสิ" เขาเป็นอะไรไปเนี่ย วันแรกที่เจอกันยังดูปกติอยู่เลย พอวันถัดมากลายเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองไปเสียได้
(แล้วยังไง)
"ยังไงก็เถอะ ฉันขอโอนเงินคืนก่อน"
(ให้แล้วไม่รับคืน)
"ไม่ได้สิ.."
(แค่นี้แหละ) แล้วสายก็ถูกตัดไปทันที
"เอาแต่ใจที่สุดเลยผู้ชายคนนี้ หึย!"
"นายจะให้เธออยู่ที่นี่เหรอครับ" ผมเงยหน้ามองไอ้อคินที่มันเสนอหน้าเข้ามาในห้องตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ เดี๋ยวนี้ทำตัวเป็นป้าข้างบ้านเหมือนเจ้านายมันสินะ ไอ้ไมเนอร์พี่ชายผม
"ทำไม" มันจะอยากรู้ไปทำไม
"เปล่า~ ผมก็แค่ถามดู" แล้วดูมันลอยหน้าลอยตา สงสัยต้องเปลี่ยนเอาพี่มันมาแทน ไอ้ห่านี่มันชอบปากสว่าง
"ไปดูโรงเรียนมา" ยังมีอีกคนที่นอนอืดอยู่ห้อง
"นายจะกลับไปเรียนเหรอครับ"
"ไม่ใช่เรื่องที่มึงต้องรู้"
"นายรีบเหรอ"
"....." ผมตวัดสายตามองมันนิ่ง ๆ ถ้ามันยังไม่หยุด ผมจะเอาลูกกระสุนกรอกปากมันให้เงียบเอง
"แหะ^^ ว่าแต่เอาระดับไหนครับ"
"เด็กสี่ขวบต้องเรียนชั้นไหน"
"ชั้นไหนก็ได้ครับเขาไม่ห้าม แล้วแต่โรงเรียนนั้น ๆ ด้วยว่าจะจัดห้องไว้ชั้นหนึ่งหรือชั้นสอง ผมเองก็ให้คำตอบที่แน่ชัดไม่ได้"
"มึงกวนตีนกู"
"ไม่ครับ ๆ"
"...." มีใครเคยบอกมันไหมว่าหน้ามันอ้อนตีนมาก
"นายดูขี้บ่นจังเลยวันนี้" กูยังไม่ทันได้พูดอะไรมันบอกกูชอบบ่น ไอ้เหี้ยนี่
"....." แต่จะว่าไปช่วงนี้ผมก็ดูพูดเยอะกว่าทุกวันเหมือนที่มันว่ามานั่นแหละ
"หึ~"
"หนักแล้วเจ้านายกู"
"อะไรนะ?"
"นายหล่อมากเลยครับ^^"
"-_-"
เวลา 18:00
"มันออกมาแล้ว ๆ" เพลิงกัลป์ตะโกนพร้อมกับชี้ไปยังรถยนต์คันหรูขับออกจากบริษัทไปหมาด ๆ ฟลินต์รีบสตาร์ทรถขับตามไปทันที ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำอะไรไม่ทันใจได้เท่าวันนี้มาก่อนเลย
"มึงอย่าตามจี้มันดิเดี๋ยวแม่งก็รู้ตัวหรอก"
"-_-" หน้าฟลินต์ที่ทำหน้าที่ขับรถ เวรกรรมทั้งนั้นที่ได้มาอยู่บนรถคันนี้กับมันสองตัว
"มึงหุบปากดิไอ้เพลิง"
"เออ เงียบสิ" แผ่นดินเห็นด้วยกับฟลินต์ ก็ตั้งแต่ขึ้นมาอยู่บนรถคันนี้มันก็ยังไม่หยุดแหกปาก
"มันเลี้ยวแล้ว!"
"เลี้ยวซ้ายโว้ยซ้าย!!"
"มันเลี้ยวขวา!" ช่วยแหกตาก่อนจะตะโกนใส่หูเข้าได้ไหมไอ้เวรเอ๊ย
"ขอโทษครับ"
"เฮ้ย!"
"อย่าแหกปากข้างหูกู!"
"ได้จ้ะ"
รถก็เล็กยังต้องมาทนนั่งฟังเสียงไอ้เพลิงกัลป์แหกปากใส่หูอีก แล้วอยากถามคนที่มันเลือกรถมากว่าตอนนั้นมันคิดอะไรอยู่
"กูถามมึงหน่อยได้ไหมไอ้เพลิง"
"ว่าไงจ๊ะ"
"ไม่มีรถอื่นแล้วใช่ไหม-_-"
"รถนี้มันทำไมอะ"
"มึงเอารถเต่ามาขับตามรถสปอร์ต มึงคิดว่ามันดีจริงดิ"
"มันจะได้ไม่รู้ไงว่าเราตามมัน"
"ใช่ มันไม่รู้ และตอนนี้กูก็ตามไม่ทันด้วย" แทนที่มันจะเอารถที่ขับได้เร็วกว่านี้ แล้วแต่ละตัวในรถก็ตัวเท่าควายกันหมด แต่ละอย่างที่ให้ไปทำมันได้กลับมาดี ๆ ทั้งนั้น ขอล่ะ ต่อไปอย่าให้มันลงมือทำอะไรอีกเลย ยอมให้มันเป็นคนที่สบายสุดก็ได้อะ กูจะยอมเหนื่อยเองเพื่อน-_-