6 อย่าเพิ่งจ้ะ 1
หมาตัวใหญ่สีดำยืนจังก้าท่าทางดุร้าย มันเตรียมกระโจนเข้าใส่ ชายคว้าเสื้อผ้าใส่อย่างลนลาน
“ไอ้หมาระยำ หยุดเห่าได้แล้ว ไป๊” เขาไล่หมาเสียงดังจนมันวิ่งหนีด้วยความตกใจ
“พี่กลับบ้านเถอะ ฉันกลัวว่าจะมีคนตามเสียงหมาเห่าแล้วเห็นเรา”
แรมจันทร์กลัวว่าจะมีคนเห็นว่าเธอกับคนรักอยู่ในที่ลับตาและคิดไปในทางเสียหาย แล้วเอาไปพูดจนทุกคนมองเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี ชายถอนใจเสียงดังแล้วพยักหน้า
“ไปเถอะ วันหน้าเราค่อยมาใหม่ พี่จะเอาเสื่อมาปูจะได้ไม่เจ็บก้น”
หญิงสาวก้มหน้าด้วยความอาย ไม่กล้าสบตา แล้วเดินตามเขาออกมาจากดงหญ้าด้วยใจเต้นแรงเพราะกลัวจะมีคนเห็น
“แรมจันทร์ก็เลยไม่ได้ขึ้นสวรรค์”
“บ้า พี่พูดอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้”
“ไม่ต้องอายหรอก เมื่อครู่พี่ได้ยินเสียงใครไม่รู้ครางด้วย”
“พี่ชาย พูดอย่างนี้อีกแล้ว ไม่นะ”
หญิงสาวบิดแขนคนรักเต็มแรงจนเขาร้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเดินเร็วๆ ไปบ้านด้วยใจที่เต้นแรง ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ยังอยู่ในความรู้สึก น้องชายของเขาใหญ่จนน่ากลัว เมื่อสัมผัสถูกน้องสาวของเธอถึงกับเสียววาบ
“พี่ส่งแรมจันทร์แค่นี้นะ”
“จ้ะ ฉันจะไปทำกับข้าวไว้ให้พ่อแม่”
เธอพูดเพียงเท่านั้น วิ่งเข้าบ้านไปด้วยความอาย ชายมองตามแล้วยิ้มด้วยความรัก เขาจำเรือนร่างงดงามของเธอได้ดี อยากที่จะให้ถึงช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นอีกครั้ง ความคิดสะดุดตรงหมาตัวใหญ่สีดำที่ทำให้สวรรค์ล่ม
“ไอ้หมาระยำ”
เขาเผลอด่าหมาซึ่งเป็นมารแห่งความสุข เขาบอกกับตัวเองว่าถ้าเจอมันอีกจะเล่นงานให้หนัก ไม่เช่นนั้นป่านนี้เขากับแรมจันทร์คงเป็นผัวเมียกันไปแล้ว
แรมใจถึงกับอารมณ์เสียเมื่อเห็นเถ้าแก่เล้งยืนข้างรถกระบะป้ายแดง โดยสูบบุหรี่ต่างประเทศราคาแพง พ่นควันสีเทาเป็นทางยาว เมื่อเขาเห็นเธอส่งยิ้มให้พร้อมกับยกมืออีกข้างคลำสร้อยคอทองคำเส้นใหญ่สีเหลืองอร่ามเป็นการอวดถึงความร่ำรวย
“สวัสดีน้องแรมจันทร์”
หญิงสาวสะดุ้งกับคำที่ชายวัยเดียวกับพ่อเรียกว่าน้องต่อมากลายเป็นเกลียดกับรูปร่างหน้าตาที่ไม่ชวนมอง
“เถ้าแก่จะไปไหนจ๊ะ พ่อกับแม่ยังไม่กลับจากตลาดเลย”
“พี่ไม่ได้มาหาพ่อแม่น้องแรมจันทร์หรอกจ้ะ พี่มาหาน้องนั่นแหละ”
“อุ๊ย! มาหาฉัน”
แรมจันทร์สะดุ้ง ถอยห่างออกมา มองไปรอบๆ ตัวหาทางหนีทีไล่เพราะกลัวเถ้าแก่จอมลามกลวนลามเพราะทุกครั้งที่เขามาก็จะหาทางที่จะจับต้องเนื้อตัว ตอดเล็กตอดน้อยจนเธอไม่กล้าเข้าใกล้และระวังตัวตลอด
“ใช่ พี่คิดถึง วันนี้ผ่านไปในเมืองเจอเสื้อสวยมากก็เลยซื้อมาฝากน้องแรมจันทร์ รับไปสิจ๊ะ”
“เอ่อ ไม่เป็นไรจ้ะ”
“รับไปเถอะ พี่ตั้งใจซื้อมาให้น้องใส่ นะ นะ”
เถ้าแก่เล้งยัดถุงเสื้อใส่มือหญิงสาวแล้วถือโอกาสจับมือนิ่มจนแน่น เธอใจสั่นด้วยความกลัวแล้วดึงมือออก
“เถ้าแก่ ปล่อยมือฉันเถอะนะ”
“ทำไมละ พี่ซื้อเสื้อให้ ตัวนี้สามร้อยกว่าบาทเลยนะ ให้พี่ชื่นใจสักนิดก็ไม่ได้”
“ถ้าอย่างนั้นเถ้าแก่เอาเสื้อคืนไปเถอะจ้ะ ฉันไม่เอา”
“น้องแรมจันทร์อย่าเรื่องมากนักเลยน่า พี่ให้ด้วยความเสน่หาจริงๆ แล้วอย่าทำท่าทางรังเกียจพี่อย่างนี้”
“แต่มันไม่เหมาะที่เถ้าแก่จะทำอย่างนี้ อีกอย่างฉันก็มีคนรักแล้ว”
แรมจันทร์บอกเรื่องคนรักให้เถ้าแก่เล้งผู้มักมากให้รู้ เขาสะดุ้งพร้อมกับปล่อยมือเธอแล้วมองอย่างไม่ชอบใจ
“มันเป็นใคร”
“เถ้าแก่อย่ารู้เลย ฉันคงรักผู้ชายคนไหนไม่ได้อีก”
“หึ พี่ก็อยากรู้นักว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันจะวิเศษไปกว่าพี่สักแค่ไหน เงินมีมากไหม”
“เขาไม่มีเงิน แต่เขารักฉัน มีแต่ความปรารถนาดี”
“สาวๆ ก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้นบูชาความรัก ทำตามใจตัวเอง โดยไม่สนใจว่าผู้ชายคนนั้นมันมีหลักประกันให้ไหม ความรักมันกินไม่ได้หรอกนะ เงินเท่านั้นที่จะทำให้น้องแรมจันทร์อยู่ดี กินอิ่ม”
เถ้าแก่เล้งยังคงพูดถึงหลักความจริงเกี่ยวกับชีวิต พยายามโน้มน้าวหญิงสาวให้หันมาสนใจตนเอง แต่เธอส่ายหน้าไปมา
“ฉันยอมอดถ้าได้อยู่กับคนที่รัก”
“เฮอะ! ถือดีนักนะ ถ้าไม่รับไมตรีจากพี่ก็บอกให้พ่อหาเงินมาใช้หนี้พี่ได้แล้ว ภายในสองเดือนพ่อเธอจะต้องหาเงินห้าหมื่นบาทมาให้ได้”
“เถ้าแก่บีบฉัน ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย”
“ช่วยไม่ได้ อยากจองหองกับพี่ทำไม หรือไม่ก็ให้แฟนน้องเอาเงินมาใช้หนี้แทน พี่ก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะมีปัญญาไหม”
“เถ้าแก่ กลับไปเถอะ”
หญิงสาวไล่เถ้าแก่เล้งด้วยความโกรธ แล้วโยนถุงผ้าขึ้นท้ายรถกระบะ ชายผู้มักมากโกรธจนหน้าแดงก่ำ
“บอกพ่อน้องแรมจันทร์ด้วย ต้องหาเงินมาใช้หนี้ภายในสองเดือนไม่อย่างนั้นพี่จะยึดไร่”
“คนใจร้าย ชอบบีบบังคับคนอื่น”
“ถ้าน้องแรมจันทร์ทำตามข้อเสนอของพี่ น้องก็จะมีความสุข พ่อแม่ก็สบายไปด้วย คิดดูให้ดีก็แล้วกัน อีกสามวันพี่จะมาเอาคำตอบ”
เถ้าแก่เล้งพูดจบขึ้นรถแล้วขับออกไปด้วยความเร็ว แรมจันทร์ร้องไห้ด้วยความเสียใจ เงินห้าหมื่นบาท พ่อกับเธอจะต้องหาให้ได้ภายในสองเดือน เธอจะเอามาจากที่ไหนเพราะทุกวันนี้มองไปทางไหนมีแต่ความยากจน
เธอเสียใจที่เป็นต้นเหตุทำให้พ่อแม่เดือดร้อน