ตายคาดุ้น
“ ผมสัญญา สัญญาว่าจะทะนุถนอมขวัญอย่างที่สุด ผมจะทำให้ขวัญมีความสุข เป็นของผมนะคะคนดี ”
ก็รู้ว่าตัวเองใช้เงินซื้อเขามา รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายขายตัวแลกเงิน แต่ ณ เวลานั้น คำพูดและสัมผัสอันแสนหวานมัน ทำให้เธอคล้อยตามไปหมดสิ้น รู้สึกเหมือนเขาเป็นคนรักของเธอจริง ๆ ที่เธอกำลังจะเสียซิงให้เขาในวันแต่งงาน
ขวัญเอยสบตาเขาด้วยความรักล้นหัวใจ สองเรียวขาถูกเขาดันให้อ้ากว้าง กลีบพูรูร่องอ้าออกเพื่อรอรับการรุกรานของท่อนลำยิ่งใหญ่อันรุ่มร้อน
“ ค่ะ ขวัญจะเป็นของคิม ”
เธอตอบรับเขาด้วยคำพูดจากใจ เขาก้มลงมาประกบปากแล้วโลมเลียลูบไล้ด้วยลิ้นและริมฝีปากอันรุ่มร้อน จรดจ่อลำลึงค์ใหญ่เข้าที่ปากรูน้อยอันฉ่ำแฉะแล้วดันมันเข้าไปช้า ๆ
ก็ว่าทำใจไว้ดีแล้ว แต่เมื่อโดนของใหญ่รุกรานแม้เพียงส่วนหัว ความเจ็บแปลบแน่นตึงก็เล่นงาน ขวัญเอยเกร็งตัว พยายามสะบัดหน้าหนีจูบแต่เขาไม่ยอม ยังคงมอบจุมพิตรุ่มร้อนให้ด้วยหมายจะให้เธอเคลิบเคลิ้มและคลายเครียดเกร็ง
มีคำกล่าวไว้ว่าแม้ผู้ที่เชี่ยวชาญบางสิ่งบางอย่างมากที่สุดก็มีวันผิดพลาดได้ และดูเหมือนวันนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านเซ็กส์อย่างคิมหันต์ก็คะเนเหตุการณ์พลาดเช่นกัน
ยิ่งจูบ เธอยิ่งต่อต้าน ความกลัวทำให้เธอยิ่งใจเต้นแรงและลนลาน ลมหายใจเริ่มติดขัด สองมือจิกลงไปในแผ่นหลังเขารุนแรงก่อนที่มันจะคลายออก พร้อมกับเธอที่ค่อยหมดเรี่ยวแรงแล้วแน่นิ่งไป
เมื่อรู้สึกได้ว่าเธอไร้ปฏิกิริยาใด ๆ ทั้งสิ้นทำให้เขาผละออกมาด้วยความสงสัย ก่อนก้มลงมองเธอแล้วก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอแน่นิ่งไปพร้อมกับที่ส่วนหัวอันเบ่งบานของเขาที่ยังคาอยู่ที่ปากทางรัก !
“ ฉิบหายแล้ว อย่ามาตายคาดุ้นผมแบบนี้นะ คุณ ฟื้นสิโว้ย คุ้ณณณณ ! ”
***
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
ในบ้านทาวเฮาส์แถบชานเมืองแห่งหนึ่ง
ขวัญเอย สาวสวยวัยยี่สิบเจ็ดในชุดเสื้อเชิ้ตสีม่วงอ่อนให้เข้ากับวันเสาร์ เสื้อทับในกระโปรงสอบสีกรมท่า เข็มขัดเส้นเล็ก ผมดกดำยาวสลวยถูกรวบถักเป็นเปียเดี่ยวเรียบร้อย เธอกำลังหมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจกเพื่อสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองเป็นรอบที่สิบได้กระมัง
ดวงตากลมโตภายใต้คิ้วโก่งได้รูปตามธรรมชาติมีแววกังวล ก็จะไม่ให้กังวลได้อย่างไรเล่า วันนี้เธอจะไปทำหน้าที่อาจารย์พิเศษรับเชิญให้กับวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งที่เพื่อนรักอย่างปานใจ หรือยัยปาน ทำงานเป็นอาจารย์อยู่ที่นั่น
ที่วิทยาลัยมีโครงการชี้แนะอาชีพให้กับนักศึกษา ดังนั้น ปานใจจึงเชิญขวัญเอยไปบรรยายเกี่ยวกับอาชีพขายประกันอันเป็นอาชีพหลักที่เธอทำหาเลี้ยงชีพมาตลอด โดยการบรรยายนั้นเธอจะได้รับค่าตอบแทนครั้งละหนึ่งพันห้าร้อยบาทต่อหนึ่งชั่วโมงครึ่งสำหรับชั้น ปวช. เป็นจำนวนสองสัปดาห์เฉพาะวันเสาร์ เท่านั้นก็ได้เงินมาตั้งสามพันบาทแล้ว
นอกเหนือจากงานขายประกัน อะไรที่เป็นเงินเป็นทองขวัญเอยทำหมด ทั้งเป็นตัวแทนขายครีม ขนม น้ำหอม เสื้อผ้า สารพัดจิปาถะขายทางออนไลน์ ถามว่าทำไมต้องทำงานหนักขนาดนั้น คำตอบคือเพราะเธอมีพ่อบังเกิดเกล้าที่คอยถลุงเงินให้ละลายหายไปอยู่เสมอน่ะสิ
คิดได้ถึงตรงนี้ก็น้ำตาเอ่อคลอ หัวใจรวดร้าว หลายครั้งหลายหนที่ชีวิตของเธอเพพังก็เพราะคนที่ได้ชื่อว่าพ่อนั่นแหละ
รวมถึงตอนนี้ที่เธอมีตำแหน่ง เมียน้อย ก็เพราะพ่อเช่นกัน..
ขวัญเอยอยู่กับชัชวาลผู้เป็นพ่อ แม่เสียไปตั้งแต่เด็ก พ่อมีอาชีพนายหน้าค้าที่ดิน ก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง แต่พ่อติดการพนันชนิดเข้าเส้น เลิกไม่เคยได้ มันเป็นแบบนั้นมาตลอดชีวิต ได้เงินก้อนมาจากค่านายหน้าก็เอามาถลุงลงบ่อน หมดก็หาใหม่ วนลูปไปแบบนี้
จนกระทั่งเดือนที่แล้ว เรื่องมันก็เกิด..
พ่อไปเข้าบ่อนใหญ่แห่งหนึ่งที่เพื่อนชักชวน สองสาม วันแรกได้เงินมาก้อนใหญ่ ทำให้ความโลภเข้าครอบงำ จนเล่นมือเติบขึ้นและเริ่มเสีย ทางบ่อนก็ใจดีให้เครดิตเยอะเหลือเกิน และเมื่อยิ่งเสียพ่อก็ยิ่งลงหนักหมายจะเอาคืน แต่กลายเป็นว่าคืนนั้นเสียไปเป็นล้าน
พ่อเกือบจะถูกตัดมือเพราะไม่มีเงินจ่าย แต่มีท่านผู้ใหญ่ที่เป็นนักธุรกิจและนักการเมืองท้องถิ่นวัยห้าสิบห้าคนหนึ่ง เข้าไปยื่นมือช่วย ชื่อว่าท่านเมธี เขาเป็นเพื่อนกับเจ้าของบ่อน จึงช่วยเจรจาผัดผ่อนให้ก่อน และเขาเองก็ใจดีให้คนขับรถพาพ่อมาส่งที่บ้านโดยตัวท่านก็นั่งมาด้วย
ที่นั่น เมธีก็ได้พบลูกสาวแสนสวยของชัชวาล เธอสวยน่ารักกิริยามารยาทก็ดี จนทำให้เขาอยากได้เอาไว้เป็นบ้านน้อย