ตอนที่ 6 ตาฉันไม่ได้บอด! แค่สายตาสั้นเฉย!
เสียงบีบแตรดังลั่นถนน ชินะหลับตาปี๋ ยืนนิ่งตัวสั่น สองเท้าสั่นเทา ไม่รู้ว่าจะก้าวหน้ารึถอยหลังดี
ในขณะที่สมองหมุนวนทำอะไรไม่ถูกนั้น จู่ๆก็มีมือแข็งๆคว้าหมับเข้าที่ข้อมือบางพร้อมทั้งถือวิสาสะลากร่างบางเข้ามาให้พ้นทางของรถที่วิ่งกันขวักไขว่
"ทำอะไรของคุณน่ะ เดินทะเลอทะล่าออกไปแบบนั้นได้ยังไง! อยากตายก็อย่าทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนสิ!"
น้ำเสียงเข้มดุดันแฝงด้วยความหงุดหงิดดังขึ้นอยู่ข้างตัว
"คือฉัน...ฉันมองไม่เห็น..."
ชินะเอ่ยเสียงแผ่ว น้ำเสียงยังคงสั่น
"ตาบอดแล้วทำไมเดินออกมาคนเดียว ไม่มีคนดูแล ไม้นำทางรึสุนัขนำทางก็ไม่มี อันตรายมากนะรู้มั้ย!"
เสียงเข้มนั้นยังคงดังค่อนข้างเกรี้ยวกราดเมื่อเธอบอกว่าเธอมองไม่เห็น
"เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้ตาบอด ฉันสายตาสั้น คอนแทคเลนส์ฉันหลุด"
ชินะบอกเสียงอ้อมแอ้ม พยายามเพ่งตามองชายร่างสูงตรงหน้าที่หงุดหงิดใส่เธอ
"ไม่มีแว่นสำรองไว้เหรอ"
เสียงทุ้มยังคงมีแววหงุดหงิด
"ไม่มีค่ะ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยแบบนี้นี่"
ชินะเริ่มตอบโต้เสียงแข็ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหงุดหงิดใส่เธอ แถมยังว่าเธอว่าจะฆ่าตัวตายอีก ชิ!!
"แล้วนี่จะไปไหน?"
น้ำเสียงทุ้มยังคงแฝงไว้ซึ่งความหงุดหงิด
เคนชินอดที่จะถามไม่ได้ พยายามสะกดกลั้นอารมณ์หงุดหงิดที่เมื่อครู่แสดงออกมา ตอนแรกเขาเห็นเธอ หญิงสาวในสวนสาธารณะเมื่อครู่ที่เขาพึ่งจะเดินจากมา
หลังจากที่ได้ยื่นขวดน้ำเพื่อให้เธอได้ล้างหน้าล้างตาจากฝุ่นละอองที่เกิดจากพายุหมุนลูกย่อมนั้น
และในขณะที่เขาหยุดยืนรอที่จะข้ามทางม้าลายเพื่อจะข้ามไปยังเพนท์เฮาส์ในตึกยูทากะกรุ๊ปที่ไทจิได้จัดไว้ให้เขาเมื่อเวลาที่เขามาเยือนญี่ปุ่น
แต่กลับมาเจอหล่อนกำลังยืนหันรีหันขวางและร่างเล็กบางนั้นก็พุ่งพรวดออกไปในขณะที่รถราแล่นกันขวักไขว่โดยที่เขาเองก็คาดไม่ถึง
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของประชาชนที่เดินไปมา เคนชินพุ่งตัวไปคว้าข้อมือบางไว้ได้ทันก่อนที่รถยนต์ที่แล่นมาด้วยความเร็วจะปะทะกับร่างบางนั้น
"เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ...ทำไมเขารู้สึกคุ้นหน้าหล่อนจัง เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน"
เคนชินนึกเมื่อเห็นใบหน้านวลนั้นใกล้ๆ แต่กลับนึกไม่ออกว่าเคยเห็นใบหน้าหวานนี่ที่ไหน
"ว่าไง กำลังจะไปไหน?"
เคนชินถามย้ำหญิงสาวที่ยังคงนั่งแมะอยู่กับพื้นด้วยน้ำเสียงอ่อนลงกว่าเดิมเล็กน้อย
"กลับบ้านนะสิคุณ ถามได้"
ชินะตอบด้วยน้ำเสียงสะบัดเล็กน้อย พยายามพยุงตัวลุกขึ้น แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อมือแกร่งถูกยื่นมาตรงหน้า
"จับมือผมไว้ แล้วบอกทางมาว่าบ้านอยู่ตรงไหน จะพาไปส่ง"
เสียงห้าวทุ้มดังขึ้นห้วนๆ
ชินะเขม็งตามองใบหน้าที่เธอเห็นอยู่เลือนลางนั้นสลับกับมือที่ยื่นส่งมาให้ ก่อนที่จะตัดสินใจยื่นมือไปจับกับมือแกร่งนั้นอย่างเสียมิได้
"เอาว่ะ ดีกว่าเป็นคนตาบอดคลำทางอยู่แบบนี้ว่าแต่อีตาคนนี้นี่ไว้ใจได้หรือเปล่านะ"
ชินะพยายามเพ่งมองพร้อมชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ แต่เห็นเพียงแผ่นหลังกว้างและมืออุ่นหนาที่จับจูงมือบางไว้ดึงให้ก้าวเดินตามแผ่นหลังกว้างนั้นไปอย่างช้าๆแต่มั่นคง คงจะดีไม่น้อยถ้าได้เดินจูงมือกับผู้ชายที่เป็นที่รักแบบนี้
"ผู้ชายคนนี้ตัวสูงจัง"
ชินะคิดในใจเห็นได้จากส่วนที่ต่างจากเธอค่อนข้างมากเกือบฟุตได้เลยทีเดียว
ปึ๊ก!
"อุ๊ย!"
ร่างบางมัวแต่คิดอะไรเพลินๆก็ต้องร้องอุทานออกมาเสียงหลงเมื่อใบหน้างามชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างนั้นอย่างจัง
เมื่อจู่ๆร่างสูงตรงหน้าก็หยุดกระทันหันใกล้จนชินะได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายผสมกับกลิ่นบุหรี่อ่อนๆจากแผ่นหลังกว้างนั้น
ตึกตัก! ตึกตัก!
หัวใจชินะเต้นแรง กลิ่นกายของเขาทำให้ร่างกายของเธอร้อนฉ่า ใจเต้นตึกตักอย่างแปลกประหลาด
"ว่าไงคุณ ที่พักคุณอยู่ตรงไหน"
เคนชินเอ่ยถามเสียงทุ้ม
น้ำเสียงทุ้มฟังดูมีเสน่ห์ถึงแม้จะกระด้างไปบ้างดังขึ้นนั้นทำให้ชินะตื่นจากภวังค์ความคิดที่แล่นปราดเข้ามาโดยไม่รู้ตัว
"ตอนนี้เราอยู่ตรงไหนแล้วคะ?"
ชินะเอ่ยถามน้ำเสียงแปร่ง ก่อนจะสลัดความรู้สึกชั่ววูบนั้น พลางพยายามเพ่งมองภาพท้องถนนและสภาพแวดล้อมตรงหน้า
"เราพึ่งข้ามทางม้าลายมา ตอนนี้เราอยู่ตรงเกาะกลางถนนเพื่อจะข้ามทางม้าลายอีกที"
"อ๋อ...เราต้องข้ามทางม้าลายไปฝั่งตรงข้ามค่ะ แล้วก็เดินเลียบขวาไปอีกประมาณ 10นาที"
ชินะบอกทางกับเคนชินไปเบาๆ
"คุณปล่อยมือฉันก็ได้นะคะ ฉันเดินตามคุณเอาก็ได้ค่ะ เผื่อเจอคนรู้จักคุณจะเดือดร้อนเอาได้"
ชินะบอกอย่างเกรงใจ
"ทำไม? กลัวแฟนมาเห็นแล้วจะเข้าใจคุณผิดยังงั้นเหรอ"
เคนชินเอ่ยถามเสียงเรียบ
"เปล่านะ! ฉันกลัวคนของคุณนั้นแหล่ะ! ไม่ใช่เดินอยู่ดีๆโดนลากไปตบกลางสี่แยกทำไง"
คำตอบของร่างบางทำให้เคนชินหลุดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้ แต่มือแกร่งก็ยังคงกอบกุมมือบางไม่ยอมปล่อย
"คนของผม? ไม่มีหรอก กลัวคนของคุณมากว่า ไม่ใช่ผมพาคุณไปส่งที่ห้องแล้ว พอเปิดประตูออกมาหวังว่าเขาคงไม่ต่อยผมนะ"
"บ้า! ไม่มีย่ะ! ฉันอยู่คนเดียว!"
ชินะตวัดเสียงอย่างขุ่นเคือง
"หลังไหนที่พักของคุณน่ะ เราเดินมา 10 นาทีได้แล้ว มีอะไรเป็นจุดสังเกตุได้บ้าง"
เคนชินถาม พลางกวาดสายตามองไปเบื้องหน้าและสองข้างทางเผื่อเห็นอพาทเมนต์หรือแมนชั่นที่คิดว่าน่าจะใช่ที่พักของหล่อน
"คุณเห็นป้ายร้านบาร์แคนดี้มั้ย ข้างๆร้านจะมีตรอกเล็กๆอยู่ เดินเข้าตรอกเล็กๆนั้นไป ก็ถึงที่พักฉันแล้ว"
ชินะบอก พลางเดินตามแรงจูงของร่างสูงตรงหน้าไปอย่างว่าง่าย ลัดเลี้ยวเข้าไปยังตรอกเล็กที่อยู่ไม่ไกลนัก
แต่ทว่าทางเดินค่อนข้างเปลี่ยว เหมือนหลุดออกมายังอีกโลกที่ไกลจากแสงสีและความโกลาหลวุ่นวาย
"เข้าไปอีกไกลมั้ย หวังว่าคุณคงไม่ใช่มิจฉาชีพหลอกผมมาปล้นทรัพย์หรอกนะ"
น้ำเสียงของร่างสูงเริ่มหวาดระแวง เมื่อทางเดินที่เข้ามาทั้งเล็กและค่อนข้างแคบสำหรับคนตัวโตแบบเขา
"บ้าเหรอคุณ! เดินไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว บ้านหลังเล็กสุดทางนั้นแหล่ะบ้านฉัน"
ชินะตอบเสียงสะบัดๆแอบค้อนในความคิดของคนร่างสูงที่เดินนำหน้า
"คุณ! มาหาใครเหรอ? ดึกดื่นป่านนี้แล้ว?"
เสียงทักจากหญิงชราที่นั่งรับลมอยู่ริมหน้าต่างบ้านหลังเล็กที่อยู่ติดๆกันดังขึ้นทำให้ร่างสูงหยุดชะงักเล็กน้อย
"ป้าอายะ หนูเองค่ะ ชินะ"
ร่างบางชะโงกหน้าออกมาจากแผ่นหลังกว้างที่บังหล่อนซะมิดนั้นพลางทักทายตอบหญิงเพื่อนบ้านสูงวัย
"อ้าว! ชินนะจังเองเหรอ แล้วนั้นใคร? แฟนเราเหรอ? แล้วนี่มีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมป้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย แล้วนี่ยังไงพากันมาซะดึกดื่น เป็นผู้หญิงพาผู้ชายเข้าบ้านดึกๆดื่นๆแบบนี้มันจะดีเหรอ เฮ้ย..เด็กผู้หญิงสมัยนี้นี่มันไวไฟกันดีเหลือเกิน คบกันไม่เท่าไหร่ก็พากันมามีอะไรกันซะแล้ว...บลา บลา...ๆ"
จากเสียงทักทายธรรมดา กลับกลายเป็นเสียงบ่นพึมพำ ชินะรุนหลังกว้างนั้นให้ก้าวเดินต่อไปอย่างรีบร้อน
"เดินเร็วๆสิคุณ มัวรออะไรอยู่ล่ะ ไม่น่าเล้ย!!! ดึกดื่นค่อนคืนออกมารับลมอะไรตอนนี้!"
ชินะบ่นอย่างหงุดหงิด ด้วยรู้ถึงฝีปากของป้าอายะ ป้าข้างบ้านเป็นอย่างดี ป้าอายะ 5 จี คือสมญานามที่คนแถวนี้ตั้งให้
ด้วยความที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องของชาวบ้านและชอบใส่สีตีไข่เรื่องราวข่าวสารที่ได้ยินมาอีกที จนชาวบ้านแถบนี้เขาพากันเอือมระอาในนิสัยสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านของแก
ชินะรีบเอามือล้วงหากุญแจบ้านอย่างรีบเร่ง ก่อนจะยื่นส่งให้ร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู
เคนชินรับมาเปิดให้หญิงสาวอย่างเสียมิได้ ก่อนจะส่งกุญแจคืนให้แก่หญิงสาว
"คุณกลับไปได้แล้ว ขอบคุณมากที่กรุณาช่วยเหลือและพามาส่ง"
ชินะกล่าวขอบคุณร่างสูง
"แค่นี้น่ะเหรอ?"
ร่างสูงเลิกคิ้วถามอย่างต้องการที่จะกวนมากกว่าต้องการคำตอบ
"อ้าว แล้วคุณต้องการอะไรจากฉันอีก ถ้าต้องการให้ตอบแทนก็ทิ้งเบอร์คุณไว้ พรุ่งนี้ฉันโทรหา"
ชินะตอบน้ำเสียงเริ่มขุ่นเคือง ด้วยไม่อยากจะให้ป้าข้างบ้านที่ชะเง้อคอมองมายังบ้านของเธอตอนนี้เอาเรื่องของเธอไปเล่าเสียๆหายๆ ถ้าแม่ของเธอรู้เข้า แค่คิดชินะก็หงุดหงิดแล้ว
"บอกเบอร์ของคุณมา"
เคนชินกลับสั่งน้ำเสียงราบเรียบ พลางล้วงมือควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงเตรียมกดเบอร์
ชินะอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะบอกเบอร์ของหล่อนไป
"ชื่อชินะสินะ"
เคนชินเอ่ย
"ยามาดะ ชินะ"
หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงขุ่นที่จู่ๆมีผู้ชายที่ไม่รู้จักมาเรียกชื่อกันแบบสนิทสนม
เคนชินกดบันทึก ก่อนจะก้าวเท้าประชิดกับร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าโดยที่ชินะไม่ทันได้ระวังตัวและด้วยความพล่าเลือนของสายตาจึงไม่ทันทำให้ร่างบางได้ระวังตัว
รู้สึกตัวอีกทีเมื่อใบหน้าคมนั้นยื่นเข้ามาใกล้จนชินะเห็นดวงตาสีสนิมและขนตางอนงาม
ที่อยู่ใต้คิ้วเข้มดกดำในระยะประชิดจนได้กลิ่นกายบุรุษเพศลอบแตะจมูก ใจดวงน้อยเต้นแรง เลือดในการสูบฉีดขึ้นมาอย่างประหลาด
"อ้อ..ผมขอเตือนคุณไว้หน่อยนะ อย่าเที่ยวไปบอกคนแปลกหน้าว่าอยู่คนเดียวอีก มันจะทำให้คุณเกิดอันตรายได้ ไว้ผมจะโทรหานะ ชินะจัง บาย!"
เคนชินยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย จมูกโด่งเฉียดแก้มนวลเบาๆก่อนจะผละจากร่างบางหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้ชินะยืนตกตะลึงในการกระทำระยะประชิดตัวนั้นพลางกระพริบตาอย่างงุนงง
ก่อนจะยกมือแตะใบหน้าข้างที่โดนจมูกโด่งนั้นสัมผัส ลมหายใจร้อนๆและสัมผัสแผ่วๆยังคงตราตรึง เลือดในกายสาวร้อนรุ่ม
กลางกายสาวปวดหนึบ นี่มันอะไรกัน ความรู้สึกร้อนรุ่มจนอยากกระฉากเสื้อผ้าที่สวมใส่ออก อาาาา
อย่าบอกนะว่า อารมณ์ทางเพศของเธอกลับมาแล้ว!!! ชินะกระพริบตา มือน้อยๆยกทาบหน้าอกรับรู้ถึงหัวใจที่เต้นอยู่ตึกตัก เขาเป็นใครกัน เธอดันลืมถามชื่อเขาไปเสียนิ บ้าจริง!!!!!
.................................................................................