ตอนที่ 3
“นั่นใคร?”
ชายหนุ่มตะโกนถามอีกครั้ง พยายามยกหลังมือขึ้นขยี้ตา เพ่งพินิจไปยังละอองหมอกจางๆ ก่อนที่ไอละอองสีขาวซึ่งกำลังฟุ้งกระจายจะปรากฏเป็นรูปร่างของหญิงสาว แต่งกายด้วยชุดสใบกับผ้านุ่งโจงสีตองอ่อนเหมือนที่เชนทร์เคยฝันเห็นบ่อยๆ ทรวดทรงองค์เอวและหน้าตาของหล่อนสะสวยจนเชนทร์ตะลึง
“คุณเป็นใคร?”
เชนทร์ถามหญิงสาวปริศนา หล่อนปรากฏภายขึ้นหลังจากหมอกควันได้จางลงแล้ว
“ฉันมาขอบคุณที่คุณช่วยปลดปล่อยฉัน”
เสียงของหล่อนฟังดูยะเยือกเย็น หากห็หวานจับใจเสียจนชวนให้ขนหัวลุก
“ช่วย... ผมช่วยอะไรคุณรึ?”
เชนทร์ย้อนถามด้วยความสงสัย
หล่อนไม่ตอบ แต่ชี้นิ้วไปยังโคนต้นกล้วยซึ่งเชนทร์ได้ลงมือขุดย้ายหน่อของมันเมื่อตอนเย็น เอาไปปลูกไว้อีกฟากของกระท่อม “ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดี... ว่าคุณขอบคุณผมเรื่องอะไร?”
เชนทร์มองไปยังกอกล้วย แล้วหันกลับมาที่หญิงสาว
“ขอบคุณที่ช่วยปลดปล่อยฉัน... ฉันอยู่ตรงนั้นมานานแล้ว... นานมาก”
หญิงสาวปริศนาเกือบจะโพล่งออกมาว่า ‘ฉันอยู่ตรงนั้นมานานกว่าร้อยปี’ หากก็ระงับคำพูดเอาไว้ได้ทัน เมื่อฉุกคิดขึ้นว่าสิ่งที่บอกนั้นจะทำให้ชายหนุ่มตกใจเสียเปล่าๆ
เชนทร์ไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘ปลดปล่อย’ เขาย้อนระลึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นด้วยสีหน้างุนงง ก็แค่ขุดหน่อกล้วยแล้วบังเอิญไปเจอหม้อดินเผาเก่าคร่ำใบหนึ่งซึ่งปลายจอบกระแทกมันเข้าโดยบังเอิญจนแตกละเอียด
เชนทร์ไม่ได้ใส่ใจหรือให้ความสำคัญกับหม้อใบนั้นมากไปกว่าหม้อดินเผาเก่าๆ ธรรมดาใบหนึ่งที่พบเห็นเศษซากของมันได้ทั่วไป ในหมู่บ้านซึ่งผู้คนเคยมีอาชีพทำเครื่องปั้นดินเผามาก่อนเมื่อในอดีต
“ทำไมคุณแต่งตัวประหลาดจัง... เพิ่งกลับจากประกวดเทพีหรือไปเล่นลิเกที่ไหนมายังงั้นหรือ”
เชนทร์ยังไม่สิ้นสงสัย จึงเอ่ยแซวออกมา
“ฉันก็แต่งอย่างนี้มานานแล้ว”
หญิงสาวตอบสั้นๆ
“แล้วทำไมมายืนอยู่มืดๆ ค่ำๆ... บ้านคุณอยู่ไหน?”
สิ้นเสียงถามของชายหนุ่ม หล่อนชี้เข้าไปในป่ากล้วยหนาทึบ เชนทร์ทำหน้างงๆ หล่อนไม่พูดอะไร แต่ส่งยิ้มหวานให้เขา
“คุณชื่ออะไร?”
เชนทร์ถาม
“ชื่อนีค่ะ”
หญิงสาวตอบเสียงหวานจับจิต
“ชื่อเก๋ซะด้วย นี... นีน่าใช่ไหม”
เชนทร์ทวนคำ
“นีเฉยๆ ค่ะ”
หล่อนตอบ
ชายหนุ่มขยับลุกขึ้นจากแคร่ไม้ ควานหาไฟฉายซึ่งจำได้ว่าวางเอาไว้ใกล้ตัว
ครั้นเมื่อเชนทร์เงยหน้าขึ้นมองก็ปรากฏว่าร่างสะโอดสะองของหญิงสาวปริศนาในชุดโบราณแปลกตาได้อันตรธานหายไปแล้ว
“อ้าว... ทำไมหายไปเร็วนัก... นี เธออยู่แถวนี้หรือเปล่า... นี... นีน่า”
เชนทร์อุทานด้วยความสงสัย เขาเรียกชื่อหล่อนเบาๆ เมื่อเห็นว่าร่างอวบอิ่มในชุดแต่งกายแปลกตาด้วยการห่มสไบและนุ่งโจงสีตองอ่อนได้หายไปแล้ว
“นี... คุณอยู่ไหน?”
ไฟฉายที่ถืออยู่ในมือฉายกราดเข้าไปในดงกล้วย เพราะคิดว่าหญิงสาวน่าจะหายเข้าไปในนั้น ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่เชนทร์คิด เมื่อสายตาของเขาสังเกตเห็นชายสไบสีเขียววูบไหวอยู่เบื้องหลังกอกล้วย
“แล้วจะรีบไปไหนล่ะ... ออกมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ... นี”
เชนทร์เรียก
หญิงสาวชะโงกใบหน้าสะสวยออกมาจากเบื้องหลังตนกล้วย ส่งสายตาเชิญชวนอย่างมีนัยสำคัญซ่อนอยู่หลังแววตาวาวประกายคู่นั้น
“นีอยากขอบคุณ... อยากตอบแทนบุญคุณที่คุณช่วยเหลือนี ตามมาสิคะเชนทร์ ขอให้นีได้ตอบแทนคุณนะคะ”
หญิงสาวไม่เพียงแค่เรียก หากยังส่งยิ้มหวานยั่วยวนให้เขาก้าวตามเข้าไปในป่ากล้วย
ชายหนุ่มประหลาดใจที่รู้ว่าหญิงสาวปริศนาคนนี้สามารถรู้ชื่อของเขา ทั้งที่ก็ยังไม่ได้แนะนำตัวออกไปเลยด้วยซ้ำ
เชนทร์นึกในใจว่าเธอคงอยู่แถวนี้มานานจริงๆ หรือไม่ก็คงเป็นลูกสาวชาวบ้านในละแวกนี้ที่จู่ๆ ก็เกิดนึกสนุกด้วยการลุกขึ้นมาแต่งกายพิสดารออกมาหาเรื่องตื่นเต้นทำแก้เบื่อ
“นี... รอผมด้วย”
เชนทร์สืบเท้าตามเข้าไปในดงกล้วย ท่าทางของเขาดูรีบร้อนราวกับต้องมนต์สะกด
จมูกของเขายังกรุ่นไปด้วยกลิ่นหอมของน้ำอบโบราณซึ่งเชนทร์รู้ว่ามาจากเนื้อตัวขาวผ่องของหล่อน เป็นกลิ่นหอมซึ่งน่าหลงใหล หอมระรื่นอยู่ในรอยต่อระหว่างความจริงและความฝัน ทำให้เชนทร์นึกสงสัยว่าขณะนั้นตัวเองตื่นหรือกำลังหลับฝัน?
“คุณนีครับ... นีน่าจ๋า ออกมาคุยกันก่อนนะครับ นั่นคุณจะไปไหน?”