บท
ตั้งค่า

น้องสาว 1/2

ณ คฤหาสน์ตระกูลปรีดิวัฒน์

“พ่อเรียกผมมาทำไม” ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านเกิด ทันทีที่เดินมาถึงห้องนั่งเล่น ปากหยักได้รูปจึงเอ่ยถามผู้เป็นพ่อพลางหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม

“พรุ่งนี้น้องจะไปฝึกงานที่บริษัท ดูแลน้องให้ดี” ประมุขของบ้านเอ่ยกำชับลูกชายเพียงคนเดียวของตน เพราะลูกพีชเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของเขา ฉะนั้นเจ้าลูกชายต้องดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดี การที่หลานไปอยู่เมืองนอกเมืองนานาน อาจทำให้เธอไม่ค่อยคุ้นชินกับอะไรหลาย ๆ อย่าง ต้องมีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แล้วคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ลูกชายของเขาเอง

“น้องไหน” คิ้วเข้มขมวดเป็นปม เขาเป็นลูกคนเดียว แล้วพอเขากำลังพูดถึงใครอยู่

“น้องลูกพีช ลูกคุณลุงราเชน”

“เดี๋ยวนะ น้องกลับมาแล้ว?” พอได้ยินชื่อคนที่ตัวเองต้องดูแล ร่างสูงถึงกับนั่งตัวตรง เขาจำได้ว่าเธอไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่อายุ 16 ปี เมื่อยังเด็กเราทั้งคู่อาจสนิทกันมาก แต่พอโตขึ้นทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป เราทั้งสองไม่ได้สนิทกันเหมือนเมื่อก่อน แล้วก็มีอีกเรื่องที่ครอบครัวของเรา สองคนไม่เคยรู้ ซึ่งมันเป็นความลับมาตลอดระหว่างเขาและเธอ

“ใช่ แล้วหน้าที่ของแกก็คือดูแลน้องให้ดีระหว่างที่น้องฝึกงานอยู่ที่บริษัทของเรา” อย่าคิดให้ใครมาแตะต้องหลานสาวเขาได้ ครอบครัวเขาไม่เคยให้สิทธิพิเศษกับใครรวมถึงลูกพีชก็ด้วย แต่ระหว่างการทำงานลูกชายของเขาต้องดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดี ที่เขาต้องสั่งแบบนี้ก็เพราะหลานไม่เคยผ่านการฝึกงานในบริษัทมาก่อน ถึงเธอจะเป็นคนหัวกะทิหัวไว แต่อย่าลืมว่ามันคือครั้งแรก แล้วเป็นการพบปะกับผู้คนที่ค่อนข้างหลากหลาย ฉะนั้นควรดูแลเป็นอย่างดี

“พ่อก็รู้ว่าผมไม่ค่อยมีเวลา” ส่วนตัวเขาไม่ได้มีงานแค่ในบริษัท แต่ยังมีงานที่ทำกับเพื่อน ไหนจะงานที่บริษัทอีกทีอีก คงไม่มีเวลาไปนั่งสอนงานใครหรอกนะ อีกอย่างเลขาของพ่อก็อยู่ที่นั่นทำไมไม่ให้เลขาของท่านเป็นคนดูแลล่ะ แค่สอนงานแค่นี้คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง อย่าทำให้เขาต้องลำบากหรืออึดอัดใจเลย

“แกก็เอาเวลาจากตรงนั้นมาให้น้องสิ”

“ก็คือพ่อจะให้ผมมาทำให้ได้?”

“พูดกับฉันก็มีหางเสียงหน่อย”

“ผมนี่เหลือเชื่อพ่อเลย ทั้งที่รู้ว่าผมยุ่งตัวเป็นเกลียว แต่พ่อก็ยังให้ผมมาดูแลเด็กที่ไหนก็ไม่รู้”

“นั่นมันน้องสาว แล้วแกก็เคยเล่นกับน้องมาก่อน อย่าพูดแบบนี้อีก”

“นั่นมันสมัยเด็กไหมพ่อ” ผ่านมากี่ปีแล้วจะให้เขากลับไปเอ็นดูเหมือนเดิมมันก็ไม่ใช่เรื่อง จะให้เขาเอาเวลาทั้งหมดมาทิ้งไว้กับผู้หญิงคนเดียวไม่ตลกไปหน่อยหรือไง เท่ากับว่าเขาต้องสูญเสียเงินและงานอีกมากมายไปในชั่วพริบตา แบบนี้พวกท่านยังต้องการอยู่ไหม

“ทำตามที่ฉันบอกก็พอ”

“เฮ้อ~ ก็คือผมต้องทำ” มันน่าเบื่อตรงที่เราไม่สามารถค้านอีกฝ่ายได้ นอกจากทำตาม

“แล้วผู้หญิงคนนั้นเลิกยุ่งไปซะ” ในขณะที่ชายวัยกลางคนลุกขึ้นกำลังจะเดินออกไป ไม่วายที่จะหันกลับมาสั่งลูกชายเสียงเหี้ยม หากลูกของตนยังไม่เลิกยุ่งกับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนั้น ตัวเขาเองก็ขอไม่รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เพราะถือว่าที่ผ่านมาก็ใจดีมากแล้ว

“ฝันดีไม่เกี่ยว” อย่าเอาบุคคลที่สามที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอยู่ในบทสนทนา หากเมื่อไหร่ที่พ่อหรือแม่แตะต้องเธอแม้แต่ปลายเล็บ เขาก็ขอไม่รับประกันความปลอดภัยของหลานท่านเหมือนกัน ไม่ว่าพวกท่านต้องการอะไรเขาทำให้ได้หมด ขอเพียงอย่างเดียว อย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของเขาก็พอ เท่านั้นเอง..

“ถ้าไม่อยากให้ฉันแตะต้องก็ทำตามที่สั่งซะ”

“แค่นั้นใช่ไหมที่ต้องการ”

“อืม”

“ก็ได้ ผมจะทำ” ถ้าในเมื่อมันคือความต้องการของท่าน เขาก็จะทำให้ แลกกับที่ท่านไม่ไปยุ่งกับคนของเขา

“แผ่นดินลูกแม่” แล้วในขณะนั้นเอง...หญิงวัยกลางคนเดินยิ้มเข้ามาสวมกอดชายหนุ่มด้วยท่าทีดีใจ

หมับ

“แม่ไปไหนมาครับ” อย่าบอกนะว่าแอบไปทำสวนอีกแล้ว ดูสิเนื้อตัวมอมแมมไปหมด

“แม่จะไปไหนได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่ไปปลูกดอกไม้” ท่านชอบดอกมะลิมาก แล้วหลังบ้านก็เต็มไปด้วยดงดอกมะลิ ในยามที่มันผลิดอก กลิ่นของมันส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณบ้าน ซึ่งเป็นกลิ่นที่ได้ดมแล้วรู้สึกเบาสมอง ทำให้ผ่อนคลายเป็นที่สุด แล้วไม่ใช่แค่ตัวเธอที่ชอบ แต่เหล่าแม่บ้านรวมถึงคนอื่น ๆ ต่างก็ชื่นชอบในกลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้เช่นกัน

“วันนี้ไม่ช็อปปิงเหรอครับ”

“ไม่รู้จะไปซื้ออะไร” เพราะเมื่อวานเพิ่งไปช็อปปิงมาหมดไปเกือบ 10 ล้าน ชีวิตในแต่ละวันของเธอ ไม่ปลูกต้นไม้ก็ทำอาหาร หรือไม่ก็ไปช็อปปิงทำสวยเท่านั้น

“วันนี้ผมไม่ได้ค้างนะ” เขาชิงตอบก่อนที่แม่จะถาม

“แล้วเมื่อไหร่ลูกจะมานอนกับแม่บ้าง”

แผ่นดิน ชายหนุ่มวัย 33 ปี ลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลมหาเศรษฐี ครอบครัวของเขาร่ำรวยอันดับต้น ๆ ทว่าเขากลับทำตัวเหมือนคนหาเช้ากินค่ำไปวัน ๆ แผ่นดินเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคมสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เขาจะไปสิงตัวอยู่ที่บริษัทเพื่อนมากกว่า งานตัวเองก็มีทำบ้างหลังจากเสร็จจากงานก็จะเข้าไปหาเพื่อนทันที เขารู้สึกเบื่อ ๆ ไม่รู้จะไปที่ไหนนอกจากที่นั่น เรื่องนิสัยส่วนตัว แผ่นดินเป็นคนค่อนข้างเดาความคิดได้ยาก ดูเข้าถึงง่ายแต่ไม่ง่าย ดูเหมือนจะอบอุ่นแต่ก็ไม่กับทุกคน หลายอย่างในตัวเขาที่หลายคนไม่ค่อยรู้ อะไรที่อยากให้รู้ก็จะได้รู้ และอะไรที่เขาไม่อยากให้รู้ก็จะไม่มีใครรู้ การเป็นเขามันไม่ได้ง่ายเสมอไป ยิ่งเราอยู่สูงมากเท่าไหร่ ความกดดันมันก็สูงมากเท่านั้น อย่างเช่นที่เขากำลังเจออยู่ในตอนนี้ บางเรื่องที่เขาไม่อยากทำแต่เขาก็ต้องจำใจทำ เพราะมันคือสิ่งที่พ่อและแม่ต้องการ

“ไว้ให้ผมว่างก่อน”

“ตลอดแหละเราน่ะ”

“แม่ก็รู้ว่าช่วงนี้ผมยุ่ง”

“ก็ได้ ๆ แต่อย่าลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับแม่นะ”

“ผมไม่ลืมหรอกครับ”

“น่ารักที่สุดลูกชายแม่”

“งั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า”

“ทำไมรีบจังล่ะ” เธอเพิ่งจะได้กอดเองนะ ยังไม่ได้ทันถามอะไรลูกชายก็จะรีบหนีซะแล้ว น่าน้อยใจจริง ๆ มีหน้าที่แค่คลอดออกมาเท่านั้นสินะ คิดแล้วก็ได้แต่น้อยใจกับตัวเอง

“ผมมีประชุมต่อครับ” ความจริงไม่มีประชุมอะไรทั้งนั้นแหละ เขาแค่รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เลยอยากไปหาที่ปลดปล่อยสักหน่อย ปลดปล่อยในที่นี้ไม่ใช่ไปนอนกับผู้หญิง แต่คือการไปหาที่ดื่มเพื่อคลายเครียดเท่านั้น เรื่องผู้หญิงแน่นอนว่าผู้ชายต้องมีบ้าง แต่สำหรับเขาแล้วมันอาจไม่บ่อยขนาดนั้น ถ้าไม่ถูกใจหรือตรงสเปกเขาจะไม่มีทางเรียกมาเด็ดขาด และน้อยครั้งที่เขาจะเรียกผู้หญิงมาใช้บริการ

“ก็ได้ค่ะ สู้ ๆ นะลูก”

“ผมรักแม่นะครับ”

“แม่ก็รักลูก”

หลังจากที่ร่ำลากันเสร็จ ร่างสูงก็เดินออกจากบ้านไป มีเพียงสายตาของผู้เป็นแม่ที่มองตามลูกชายตาละห้อย ตั้งแต่ลูกชายเข้าไปทำงานในบริษัทอย่างเต็มตัว ลูกชายเธอก็แทบไม่มีเวลาว่างกลับมาทานข้าวกับพ่อกับแม่ที่บ้าน เอาแต่บอกว่างานยุ่ง ถามว่าน้อยใจไหมก็มีแหละ เรามีลูกชายแค่คนเดียวนี่ ถ้าไม่ให้คิดถึงลูกชายตัวเองแล้วจะให้ไปคิดถึงใครล่ะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel