4) ชอบคนอื่น
ชอบคนอื่น
...
“แล้วอีกอย่าง กูมีคนที่ชอบอยู่แล้ว จะให้สนใจมึงคงไม่ได้” คำพูดของน้ำเหนือทำให้เธอทั้งโกรธและเสียหน้า
“น้ำเหนือ!...” แม้จะเรียกแต่พอเขาพูดจบก็เดินหนีเข้าห้องนอนตรงเข้าห้องน้ำล็อกประตูไว้จนเธอตามไปไม่ได้ ต้องนั่งอึดอัดอยู่คนเดียวเพื่อรอเขาอยู่ที่เตียงนอนแบบนี้
แต่มีคนที่ชอบอยู่แล้วอย่างนั้นหรอ เขากล้ายอมรับออกมาตรงๆ ต่อหน้าเธอเลยสินะว่าชอบน้องรหัสของเขา คนที่เธอรู้เห็นมาตลอดว่าสนิทกับเขาที่สุด แม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะนอนกับผู้หญิงไปทั่วแทบไม่ซ้ำหน้า แต่คนที่เธอเห็นว่าพิเศษและต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่สุดก็คือนับดาว น้องรหัสหน้าซื่อใจคดของเขานั่นเอง
สิบกว่านาทีผ่านไปประตูห้องน้ำถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงสมส่วนเด่นชัดด้วยรอยสักเดินออกมา
“นายรู้ไหมว่าน้องรหัสคนดีของนายไม่ได้ใสซื่ออย่างที่นายคิด” มิ้งรีบลุกตรงเข้าไปหาเหนือทันที ไม่รอช้าเข้าประเด็นอย่างที่มีโอกาสเหมือนอดีตไม่สามารถทำได้
ก็เมื่อก่อนเป็นแค่เพื่อน ทั้งยังอยู่ต่างคณะ บังเอิญเจอกันก็แทบนับครั้งได้ เธอจะมีสิทธิ์พูดอะไรออกมาแม้จะไม่ชอบผู้หญิงคนไหนข้างกายของเขา
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เธอเป็นคู่หมั้นของเขา อยู่กับเขา มีสิทธิ์จะกันผู้หญิงออกจากตัวและบอกนิสัยของคนเหล่านั้นออกมา
“มันก็เหมือนกับที่คนอื่นรู้ว่ามึงไม่น่าคบสักนิด” น้ำเหนือหันกลับมามองเธอแล้วย้อนใส่
“น้ำเหนือ!”
“อย่ามาทำนิสัยว่าร้ายใครลับหลังแบบนี้” เขาเตือนขึ้นเสียงเข้ม “แล้วต่อให้นับหรือใครจะเป็นยังไง กูตัดสินและเลือกเอง ไม่จำเป็นต้องให้มึงมายุ่ง”
“ฉันมีสิทธิ์จะทำแบบนี้ในเมื่อตอนนี้ฉันเป็นคู่หมั้นของนาย แล้วถ้านายยังไม่เลิกยุ่งกับผู้หญิงคนอื่น ฉันจะก็จัดการเอง”
“เหมือนตอนนั้น?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นถาม “ก็ลองดู”
และไม่ลืมเตือนกลับอย่างข่มขู่กับนิสัยเสียๆ ที่เธอเคยทำตั้งแต่อดีตให้เขายิ่งไม่ชอบ พูดจบก็สวมเสื้อยืดสีดำแบรนด์หรูพร้อมกับหยิบกางเกงยีนส์สีเดียวกันออกมาอีก เป็นชุดที่ดูก็รู้ว่าไม่ได้จะอยู่ห้อง
“นายจะไปไหนอีก” เธอถามเขาอย่างไม่พอใจ พึ่งกลับมาก็จะออกไปอีกแล้ว
“เรื่องของกู” น้ำเหนือตอบกลับปัดๆ ไม่ได้สนใจอะไร
“ฉันไม่ให้ไป วันนี้นายต้องอยู่กับฉัน” มิ้งเข้าไปกระชากกางเกงของเขาออกจากมือแล้วพูดขึ้นอย่างดื้อรั้นเอาแต่ใจ
“น่ารำคาญว่ะมิ้ง” น้ำเหนือพูดอย่างเบื่อหน่าย
“ฉันพึ่งมาที่นี่เป็นวันแรก นายจะทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวจริงๆ หรอ” เธอถามเขาเสียงอ่อนดูน่าสงสารขึ้นมาไม่น้อย
“ก็อยากมาอยู่เอง” เขากลับตอกใส่หน้าเธออย่างไม่แยแส
หมับ! แล้วเธอก็ก้าวเข้าไปกอดร่างแกร่งของเขาไว้อย่างออดอ้อน
“วันนี้ไม่ไปไหนนะ อยู่กินข้าวเย็นด้วยกัน แล้วก็อยู่เป็นเพื่อนกันนะ” จะให้เธออ้อนก็ทำได้ ให้เธอเป็นฝ่ายลงก็ทำเป็น แม้จะไม่ได้เห็นบ่อยหรือทำง่าย แต่หากอีกฝ่ายไม่ปั่นอารมณ์เธอให้คุกรุ่นเธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นได้ทั้งแมวและเสือในร่างเดียว
“มึงหวังอะไร” น้ำเหนือแกะมือเรียวออกหันไปมองหน้าเธอแล้วถามกลับราวกับรู้ทัน
“หมายถึงอะไร?” มิ้งถามกลับอย่างไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่ายังไงกันแน่ “ก็หวังให้นายอยู่เป็นเพื่อนฉันไง”
ก็บอกไปแล้วไงว่าเธอต้องการอะไร แล้วทำไมเขาถามแบบนั้น
“ผู้หญิงอย่างมึงน่ะมิ้ง” น้ำเหนือว่าขึ้นติดไปทางดูถูกราวกับรู้จักเธอไม่น้อย
แต่ก็ใช่ว่าที่ผ่านมาไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นอะไรเกี่ยวกับเธอนี่ แม้จะไม่อยากยุ่งหรือสนใจ แต่ก็มีบางเรื่องเข้าหูผ่านตามาบ้าง
แล้วไอ้เรื่องพวกนี้ก็มีส่วนที่ทำให้เขายิ่งไม่อยากยุ่งกับเธอด้วยเช่นกัน
“อะไรคือผู้หญิงอย่างฉัน?” มิ้งถามกลับในคำพูดและน้ำเสียงที่ดูถูกจากเขา
“ไอ้ที่ทำอยู่นี่ หวังจะให้กูเอามึงไม่ใช่หรอ” น้ำเหนือเห็นท่าทางสับสนเสแสร้งของเธอก็ว่าขึ้น
“...!” มิ้งถึงกับเบิกตากว้างอ้าปากเหวอกับสิ่งที่น้ำเหนือพูดออกมา
เธอสาบานอย่างบริสุทธิ์ใจเลยว่าตั้งแต่รู้ว่าต้องหมั้นกับเขาจนถึงตอนนี้ เธอยังไม่เคยคิดถึงเรื่องให้เขาเอาเธอเลยสักครั้ง
ไม่ใช่ไร้เดียงสาจนเขินอายที่จะคิดหรือพูด แต่มันมีเพียงความดีใจจนมาถึงความหงุดหงิดใจแบบวันนี้เลยไม่ทันได้นึกคิดอะไรพวกนั้น กระทั่งเขาพูดขึ้นนี่แหละ
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร น้ำเหนือก็พูดออกมาอีกครั้ง
“ต่อให้แก้ผ้าต่อหน้า กูก็ไม่เอามึงหรอก”