ตอน 1
“เช็กอินบ้านพักที่จองเอาไว้ค่ะ” หญิงสาวในชุดเดรสยาวพลิ้วไหวลายดอก สายเดี่ยว สีฟ้ายาวกรอมเท้า ลากกระเป๋าลงจากรถบริการของสนามบินด้วยท่าทีสง่างาม ถอดแว่นกันแดดแต่ไม่ถอดหมวกสานบนศีรษะออกได้ย่างก้าวไปหยุดตรงหน้าเคาน์เตอร์ แล้วแจ้งแก่ประชาสัมพันธ์สาวประจำเคาน์เตอร์บริการลูกค้า
“ชื่ออะไรคะ” พนักงานสวมยูนิฟอร์มเสื้อลายดอกลีลาวดีพื้นสีฟ้า เอ่ยถามแขกสาวสวยผู้มาเยือนด้วยถ้อยคำสุภาพแสนหวาน อีกทั้งยังส่งรอยยิ้มพริ้มเพรา ต้อนรับลูกค้าด้วยไมตรีจิต อันเป็นหัวใจของงานบริการดีเยี่ยม
“สุภัสสรค่ะ” แขกคนสวยแจ้งชื่อตัวเองแก่พนักงาน
“อ๋อ...คุณสุเหรอคะ” ตามรายชื่อแขกที่จองบ้านพักไว้ มีชื่อสุภัสสรปรากฏในหน้าจอคอมพิวเตอร์ของระบบจองบ้านพักและห้องพักของทาวิลล่า แฟนตาซี รีสอร์ทแสดงอย่างเด่นชัด
“ใช่ค่ะ” สาวสวยหุ่นบางร่างน้อย ผิวขาวเนียนสะอาดแบบสาวเมืองกรุง ผู้อยู่กับความเรืองวิไลตอบรับ
“นี่ค่ะกุญแจ” ประชาสัมพันธ์สาวหยิบกุญแจบ้านพัก ที่ได้จองเอาไว้ล่วงหน้าก่อนหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาวางลงตรงเคาน์เตอร์ แล้วเลื่อนไปตรงหน้าหญิงสาวคนสวยที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาพักผ่อนยังรีสอร์ทสวยหรูโรแมนติกแห่งนี้ ประชาสัมพันธ์สาวกวักมือเรียกเด็กยกกระเป๋าเพื่อมาบริการ “เรามีพนักงานยกกระเป๋าไว้คอยบริการค่ะ” พนักงานสาวกล่าว พลางปรายตาไปทางเด็กหนุ่มผู้ทำหน้าที่ยกกระเป๋าไปส่งแขกตามห้อง
“ก็ดีนะคะ” สุภัสสรหอบกระเป๋ามาทั้งหมดห้าใบ ราวกับจะมาอยู่อย่างถาวร ก็ทำไงได้ เธอชอบแต่งตัวและมีของที่จำเป็นต้องใช้เยอะแยะไปหมด ถ้าจะไม่เอาของพวกนี้มาคงไม่ได้ ทั้งเครื่องสำอางประทินโฉม เสื้อผ้าที่เหมาะกับโอกาสต่างๆ ไม่ว่าลงเล่นน้ำ เดินชายหาด อยู่ห้องพักเฉยๆ เดินตลาด รองเท้ากระเป๋าต้องเข้ากันครบชุด
แล้วโดยเฉพาะเครื่องสำอาง ห้ามพลาดหรือขาดเลยสักชิ้น ถ้าเกินไม่ว่า แต่ห้ามขาดครีมกันแดดขาดไม่ได้ แค่กระเป๋าเครื่องสำอางประทินโฉมและผิวพรรณก็ปาไปหนึ่งกระเป๋าย่อม แล้วเสื้อผ้า รองเท้าอื่นๆ อีกสี่กระเป๋า มีกระเป๋าสะพายอีกหนึ่งใบ แล้วนั้นยังมีทุกอย่างที่เกินคำว่าจะมีไว้ซะอีกด้วย การแต่งหน้าทำผมครบ ราวกับมาเดินแฟชั่น เพื่อนของเธออย่างกันติยา เป็นคนง่ายๆ ไปไหนไม่ต้องเตรียมมากมาย เพียงแค่คว้าเสื้อยืดกางเกงไม่กี่ตัวก็ออกจากบ้านไปเที่ยวได้ แต่เธอไม่ ไม่มีวันจะออกจากบ้านถ้าไม่ครบองค์ประกอบ
“ช่วยขนกระเป๋าฉันอย่างถนอมที่สุดนะคะ เพราะทุกใบฉันรักมาก” สุภัสสรจีบปากจีบคอ พร้อมทั้งกรีดนิ้วบอกพนักงานและเด็กยกกระเป๋า
“ค่ะ ไหนกระเป๋าคุณสุคะ” พนักงานสาวเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้มยินดีบริการอย่างเต็มที่ เพราะงานบริการคือหัวใจสำคัญของทางรีสอร์ต
“นั่นไงล่ะ” แขกสาวคนสวยทั้งรูปร่างและการแต่งกาย ชี้ไปที่บรรดากระเป๋าซึ่งวางอยู่ด้านหลังของเธอ
“เอ่อ...ทั้งหมดนี่เหรอคะ” ตั้งแต่มีแขกมาพักที่รีสอร์ตน่ารักแห่งนี้ เจ้าหน้าที่พนักงานแต่ละคนเพิ่งเห็นกระเป๋านักท่องเที่ยวมากเท่านี้ ปกติและส่วนใหญ่ถ้ามาหมู่คณะก็คนละใบสองใบ กระเป๋าเสื้อผ้า กระเป๋าสะพายของจุกจิก
“ใช่...ทั้งหมดนั่นละ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ ไม่กี่ใบเองจะทำหน้าตกใจกันราวกับมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวสิบคนไปทำไม
แต่ในระหว่างที่พนักงานขนกระเป๋ากำลังสับสนกับจำนวนเป๋าของสุภัสสรลูกค้าคนสวยอยู่นั้น ด้านหน้าประตูได้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแบกเป้ขนาดใหญ่ก้าวเข้ามาตรงหน้าเคาน์เตอร์บริการลูกค้าพอดี
จังหวะที่หญิงสาวเงยหน้าจากการสั่งนั่นสั่งนี่แก่พนักงาน ห้ามยกกระเป๋าฉันแรงๆ ห้ามลาก ห้ามกระแทก สายตาของเธอได้ปะทะกับดวงหน้า...เอ่อ...หล่อมาก หล่อไม่ต่างกับนายแบบถ่ายแฟชั่นกางเกงในยี่ห้อดังสำหรับผู้ชาย ดวงตาหญิงสาวเบิกกว้าง เผยอปากค้างนิดๆ มองตามร่างสูงสง่าที่เดินผ่านหน้าเธอไปราวกับวิญญาณล่องลอย หรือถูกพลังมหาศาลบางอย่างตรึงเอาไว้
“เอ่อ...เอากระเป๋าไปไว้ที่บ้านพักของฉันก่อนได้เลย ฉันขอเดินดูบรรยายกาศรอบๆ รีสอร์ตสักหน่อย ยังไม่อยากเข้าบ้านพัก” เธอบอกพร้อมกับไม่สนใจสั่งให้ระวังกระเป๋า รวมทั้งของในกระเป๋าอีกต่อไป
“ครับ” เด็กยกกระเป๋าตอบรับแล้วช่วยกันยกกระเป๋าหรูของลูกค้าสาวขึ้นรถเข็นกระเป๋า เข็นจากไปยังเส้นทางปูด้วยหินกาบไปยังบ้านพัก
“ผมต้องการห้องหรือบ้านพักสักห้องครับ” เขาพูดบอกความประสงค์ต่อหน้าพนักงานสาวที่หน้าถอดสีจากสีเนื้อเป็นสีชมพูในชั่วพริบตา ดวงตาพนักงานสาวทั้งสองประจำหน้าเคาน์เตอร์ก็ช่างวิบวับราวกับเพิ่งแตกเนื้อสาว ประมาณว่าเจอเนื้อคู่หรือ กามเทพแผลงศรปักหัวใจอย่างนั้นละ
แล้วกามเทพตัวเดียวกัน ยังทำกับสุภัสสรไม่เว้นเช่นเดียวกัน หญิงสาวเอ่อ...ม่ายสาวสิ จิกเล็บกับกระเป๋าสะพายใบหรูประจำตัวแน่น ปากขมุบขมิบราวกับพูดหรือบ่นอะไรกับตัวเองสักอย่าง แสร้งชมรูปปั้นเด็กน้อยผมจุกที่ทางรีสอร์ตตั้งประดับตกแต่งเพื่อความน่ารักงดงามไปตามเรื่อง รีสอร์ตนี้ขนาดกลางไม่ใหญ่ไม่เล็กมาก เพราะเธอสำรวจทั่วทุกเว็บไซต์แล้วว่าเป็นสถานที่น่าพักเป็นที่สุดจึงต้องรีบจับจองล่วงหน้า เนื่องจากเดือนที่เธอจะมาพักเป็นเดือนของเทศกาลตรุษจีน บางทีบ้านหรือห้องพักอาจจะเต็ม
“ดิฉันต้องเสียใจด้วยนะคะคุณลูกค้า ห้องพักของรีสอร์ตเราเต็มทุกห้อง บ้านก็ถูกจองไว้ทุกหลังแล้วเช่นกันค่ะ” แต่ถ้าสนใจจะพักไปพักที่บ้านเบนได้นะคะ พนักงานสาวแอบคิดในใจอันพราวพร่างส่งผ่านไปให้หนุ่มฝรั่งแบกเป้ ด้วยความปรารถนาที่แรงกล้า พนักงานสาวผู้ติดป้ายชื่อบนอกคือเบน หล่อนได้บอกแก่นักท่องเที่ยวหนุ่มฝรั่งด้วยภาษาอังกฤษ สำนวนไทยๆ ฟังง่ายเข้าใจดี
เพราะเขาช่างหล่อ เท่ สูง สมส่วน ดวงหน้าคมสัน ปลายคางบุ๋ม หนวดเครา จอน ล้อมกรอบใบหน้าเขียวครึ้มราวกับไม่ได้โกนมาแค่เมื่อเช้า เคราและหนวดเขาไม่รก แต่ล้อมกรอบดวงหน้าหล่อเหลาสลักเสลาอย่างคมสัน พอเหมาะพอดี รูปร่างนั้นช่างบึกบึนในเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนเนื้อดียี่ห้อดังของทางต่างประเทศ สุภัสสรกำลังลอบมองชายหนุ่มฝรั่งตัวโตรู้ดีว่ายี่ห้อเสื้อผ้าบนตัวเขาคือยี่ห้อโด่งดังสักเพียงไรในต่างประเทศ โดยเฉพาะอังกฤษ รองเท้าผ้าใบสีแดงคาดขาวของเขาก็ยี่ห้อดี รูปแบบทันสมัย เธอเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวยงคนหนึ่งเลยทีเดียว
เสื้อบนตัวเขาต่อให้เป็นเสื้อยืดก็เสื้อยืดผ้าเนื้อดี หากเป็นพวกกะโหลกกะลาสวมใส่ คงกลายเป็นของไร้ค่าราคาต่ำ แต่ดูสิ...อ๊ายยย อยู่บนตัวเขาดูดียอดเยี่ยมไปซะหมด
“ผมหามาทุกที่แล้วนะ ได้โปรดขอห้องผมสักห้องนะ” ฝรั่งตัวโตๆ อ้อนขอห้องพักกับพนักงานสาว ซึ่งหัวใจกำลังอ่อนไหวจนจะหลอมเป็นน้ำอยู่แล้ว
“ทางผู้จองจะเดินทางเข้ามาพักวันนี้ทุกห้องทุกหลังค่ะ เราทำแบบนั้นไม่ได้” แต่บ้านเบน ห้องเบน เตียงเบนก็ว่างนะ สนใจไหมคะ พ่อหนุ่มตาหวาน หล่อนคิดในใจอย่างคึกคักอยู่คนเดียว หัวใจสาวเต็มตัวก็พองคับอก เมื่อมองหน้าหล่อๆ ลูกค้าไร้ห้องพักตรงหน้า ละแวกนี้บ้าน รีสอร์ท หรือโรงแรมคงเต็มทั้งหมด ด้วยเข้าเทศกาลตรุษจีน นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตกันอย่างล้นหลาม ซึ่งทางรีสอร์ทขนาดกลางแห่งนี้ไม่สามารถสละห้องพักหรือบ้านพักหลังใดให้แก่ขาจรเช่นหนุ่มหล่อตัวสูงล่ำกล้ามใหญ่คนนี้ได้