ตอนที่ 5 อยู่ด้วยกัน
หลังจากที่ไอลินอยากกินอาหารไทย คุณโลแกนก็ได้พาคุณเธอไปกินข้าวที่ร้านอาหารไทยที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง หลังจากที่กินเสร็จแล้วก็พากินข้าวเช้าที่ทานกันตอนบ่าย หลังจากที่มาถึงร้านอาหารแล้ว รถยนต์คันหรูก็เจ้ามาจอดอยู่ที่หน้าภัตตาคาร โลแกนลงจากรถอย่างเร็วเพื่อที่จะเดินไปเปิดตูให้คนตัวเล็ก
"ขอบคุณครับ"
หลังจากที่คุณโลแกนเดินมาเปิดประตูให้คนตัวเล็กแล้ว และเดินไปที่หน้าร้านที่ตอนนี้มีเจ้าของภัตตาคารมายืนรออยู่ที่หน้าร้าน พอรู้ว่าคนที่มีอำนาจใหญ่โตนี้จะเข้ามากินอาหารที่ร้านของตนก็รีบขับรถมาที่นี่โดยทันที เพราะว่าอยากมีโอกาสได้เจอคนตรงหน้าที่เป็นคนที่อยู่บนจุดสูงสุดของวงการธุรกิจ
"สวัสดีครับผมเป็นเจ้าของร้านอาหารร้านนี้มีอะไรสามารถเรียกผมได้เลยน่ะครับ"
พูดเสร็จผู้ที่เป็นเจ้าของร้านก็ได้แต่ต้องเดินตามก้นของทั้งสองคนไป ก็เดินตามคุณโลแกนและผู้ชายตัวเล็กที่เดินเจ้าไปที่ห้องอาหารส่วนตัวที่อยู่ชั้นสองของภัตราคาร
ตอนนี้ทั้งสองคนก็ได้มาอยู่ที่ห้องส่วนตัวแล้ว ห้องที่นี่ตกแต่งเป็นแนวไทยสมัยราชกาลที่ห้า เป็นแนวผสมผสานกันระหว่างไทยกับตะวันตก และโต๊ะที่เป็นโต๊ะกลมเหมือนกับโต๊ะจีนที่สามารถหมุนได้ และการตกแต่งก็เหมือนกับอยู่ในวังของขุนนางข้าหลวงสมัยก่อน
"เธอจะรับเป็นอะไรดี "
คุณโลแกนถามออกมาหลังจากที่เห็นคนตัวเล็กมองสำรวจรอบๆ ร้านด้วยท่าทีที่น่าจะพอใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าแววตาที่แวววาวนั้น หลังจากที่มองสำรวจอย่างพอใจแล้วคนตัวเล็กก็หันมามองคนที่สถาปนาตัวเองเป็นผัวตั้งแต่ครั้งแรกที่มีอะไรกัน
"เอาเป็นฉู่ฉี่ปลา และก็เอาเป็นหมี่กรอบส้มซ่า อืมหมูสรงอีกที่ครับ"
"สั่งแค่นี้เธอจะอิ่มหรอ เอาอีกไหมเดี๋ยวสั่งให้"
"งั้นผมก็เพิ่มแกงจืดอีกที่หนึ่ง และก็เอาเป็นแกงระแวงเนื้อ ส่วนของหวานเอาเป็นทับทิมกรอบ กับขนมพระพายครับ"
"ครับ"
ไอลินเงยหน้าขึ้นมาจากการสั่งอาหาร และก็เอาใบรายการสั่งอาหารยื่นคืนให้พนักงาน
"เอาแค่นี้ครับ"
หลังจากนั้นก็เริ่มมีอาหารทยอยมาเสิร์ฟอาหารเรื่อยๆ อาหารมาเสิร์ฟครบทั้งหมดอย่างรวดเร็ว อลินก็ไม่รอจ้าที่จะสวาปามอาหารตรงหน้านี้ มีแต่อาหารที่น่ากินทั้งนั้นเลย
หลังจากที่พากันกินอาหารกันจนอิ่มแปล่ อิ่มมากตอนนี้เหมือนว่าท้องของไอลินจะแตกแล้วจริงๆ อาหารที่นำมาเสิร์ฟทั้งหมดถูกสวาปามโดยไอลินส่วนใหญ่ ส่วนคุณโลแกนรับเป็นสลัดและอาหารอีกสองอย่างที่มีรสชาติอ่อนๆ เพราะว่ามีอายุที่มากแล้วก็จะต้องดูแลตัวเองดีๆหน่วย จะได้อยู่กับไอลินได้นานๆ
โลแกนมองไปทางคนตัวเล็กที่ตอนนี้ไม่เก็บอาการอะไรสักอย่าง ไม่มีอาการเหนียมอายอะไรใดๆทั้งสิน ดูเป็นตัวของตัวเองมาก ทำให้ไอลินดูมีเสน่ห์มากเพราะว่าการเป็นตัวของตัวเอง การกระทำทั้งหมดจองไอลินตกอยู่ในสายตาของคนที่อายุมากคราวพ่อมองมามองยังไงก็ยังน่ารักน่าถนุถนอม
"เอาล่ะ กับกันเลยไหม"
"โอเคครับ แล้วเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวของคุณละครับ"
"เธอนั้นแหล่ะที่จะต้องไปอยู่กับฉันที่คอนโด"
โลแกนพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉย
"คุณผมก็บอกแล้วไงว่าจะไปอยู่กับลิน ลินไม่ไปอยู่ที่บ้านของคุณตอนนี้หรอกน่ะ"
"แล้วฉันบอกเธอแล้วหรอว่า จะพาเธอไปอยู่ที่บ้าน"
"แล้วจะพาผมไปอยู่ที่ไหนอีกล่ะ"
"ไปอยู่ที่คอนโดครับ"
"ห๊ะ คอนโด ไม่เอาด้วยหรอกน่ะคอนโดที่คุณซื้อเอาไว้แล้วเอาไปนอนกับอีหนูทั้งหลายน่ะหรอ ไม่เอาหรอกน่ะผมไม่อยากใช้ของซ้ำกับใคร"
"แล้วฉันบอกเธอตอนไหนล่ะว่า คอนโดที่เอาไว้นอนกับอีหนูทั้งหลาย"
หลายปีมานี้คุณโลแกนไม่ได้นอนกับใครเลย ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเดียวกัน เพราะว่าก่อนหน้านี้คุณโลแกนตั้งใจจะเกษียณตัวเองตอนอายุห้าสิบห้า และลงจากตำแหน่งประธานบริษัท และให้ลูกชายที่ตอนนี้เป็นรองประธานบริษัท และกำลังเรียนรู้งานที่จะขึ้นเป็นประธานบริษัท
"ป่ะ ไปขึ้นรถกันกับคอนโดเลขาหน้าจะเอารถมารอที่หน้าร้านแล้ว"
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เดินมาที่หน้าร้านก็มีคนขับรถมารอที่หน้าร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ขึ้นรถไปนั่งที่เบาะด้านหลังคู่กับคุณโลแกนที่ตอนนี้นั่งหลังตรงกริยาท่าทางก็เป็นผู้ดีล้านเปอร์เซ็นต์ ซึ่งแตกต่างจากไอลินโดยสิ้นเชิงที่เอนหลังไปกับที่นั่ง และท่านั่งที่แสนจะจขี้เกียจ ตัวไอลินก็เริ่มเลื้อยลงไปที่พื้นเบาะเรื่อยๆ หลังจากที่กินอิ่มแล้วหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มย่อน โลแกนที่เห็นคนที่อายุน้อยกว่าตนเองกำลังจะหลับแล้ว มือแกร่งก็ยืนมือตัวเองไปที่กลุ่มผมนุ่ม และก็ค่อยๆ ประคองให้หัวของไอลินลงมาซบอยู่ที่ไหล่หนา คนอายุน้อยกว่าก็ขยับตัวและก็ทำท่านอนให้สบายขึ้น โดยการที่ไปซบอยู่ที่อกแกร่ง เพื่อที่จะหาความอบอุ่น
โลแกนมองหัวเล็กๆ ที่ตอนนี้นอนมุดอยู่ที่หน้าอกเขาอย่างสบายใจเฉิบ เลขาอย่างคุณแจ็คก็ได้มองไปที่กระจกหน้ารถก่อที่จะเห็นภาพที่ตอนนี้ดูจะอบอุ่นมากๆ เลยล่ะน่ะตั้งแต่ที่มาเป็นเลขามือหนึ่งให้คุณแจ็คมาตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม ไม่มีครั้งไหนเลยที่ทำให้เจ้านายของเขามีความสุข เพราะว่าตั้งแต่ที่คุณนวลจันทร์ แม่จองคุณโลแกนเสียไปก็ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร แต่ก็เริ่มที่จะมีความสุขขึ้นมาบางหลังจากที่คุณท่านตั้งใจจะมีลูกโดยการใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ และจ้างแม่อุ้มบุญ แต่ว่าตอนที่เอเกนเกิดมาก็เป็นช่วงที่นายท่านของเขาที่ตอนนั้นยุ่งมาก เพราะว่ามันมีการผลัดเปลี่ยนอำอาจ จากพ่อมาสู่ลูกและก็มีการแย่งชิงตำแหน่งกันในที่มืด
แปดเดือนที่แล้วเขาก็รู้สึกเอะใจเพราะว่าคุณท่านให้แจ็คไปหาข้อมูลคนๆ หนึ่งมาให้และเด็กคนนั้นก็มีหน้าตาที่น่ารักมาก แล้วแจ็คก็รู้รสนิยมของเจ้านายตัวเองว่าเป็นยังไง ตั้งแต่หนุ่มๆ คุณโลแกนก็มีการเลี้ยงอีหนูไว้ แต่ว่าช่วงสี่ห้าปีมานี้คุณท่านไม่มีอีหนูคนไหนอีกเลยแจ็คก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มี แจ็คคิดว่าตอนนั้นนายท่านคงเริ่มที่จะทำงานเพื่อที่จะเกษียณอายุตัวเองก่อนห้าสิบสอง
ตอนนี้ก็ได้มาถึงที่ใจกลางเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจมีผู้คนพลุกพ่าน และรถสีดำที่มีราคาแพงหูฉีกมีแค่ไม่กี่คันบนโลกใบนี้ ก็จอดลงที่หน้าคอนโดหรูหราใจกลางเมืองที่แพงแสนแพง หลังจากที่มาถึงแล้วแจ็คก็รีบเดินลงไปเปิดประตูให้เจ้านายตัวเองอย่างรู้หน้าที่
โลแกนซ้อนอุ้มคนตัวเล็กจึ้นมาอุ้มอยู่ในท่าเจ้าสาว และก้าวลงรถเดินเจ้าไปยังหน้าคอนโดหรูหรา ที่มีแต่คนร่ำรวยมีเงินเท่านั้นที่สามารถอยู่ได้เพราะว่าแต่ล้ะห้องมีราคาที่แพงหูฉีก ห้องจองคุณโลแกน เป็นพื้นที่ 349 ตร.ม. มีสองชั้นและการตกแต่งภายในถูกตกแต่งโดยดีไซน์เนอร์ชาวอิตาลีที่มีคิวยาวนานหลายปี เฉพาะตัวบ้านที่โลแกนซื้อมานี้มีราคาที่แพงที่สุดและอยู่ที่ชั้นสูงสุด ราคาห้องตัวเปล่าอยู่ที่ราคาสองร้อยห้าสิบล้านบาท และการตกแต่งภายในอีกสองร้อยล้านกว่าๆ โลแกนทุมเงินไปกลับคอนโดที่นี้ไปเยอะเลยทีเดียว โลแกนก็ไม่ได้ค่อยได้อยู่ที่บ้านนักเพราะว่าไม่ค่อยสะดวกที่จะเจ้าบ้านใหญ่โลแกนก็จะเจ้าไปเป็นบางวันเท่านั้น หรือสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น
เพราะว่าที่บ้านใหญ่อยู่แถวๆชานเมือง เพราะแถวนั้นมีบรรยากาศที่ดีเลยถูกซื้อโดยคุณปู่ทำให้เวลาเดินทางมันไม่ค่อยที่จะสะดวกเท่าไร มันเสียเวลาการทำงานโลแกนเลยที่จะต้องซื้อที่ใกล้ๆ กับบริษัทเอาไว้นอนจะได้ไม่ต้องเสียเวลาชีวิต
หลังจากที่เดินเข้ามาถึงห้องแล้ว โลแกนก็สแกนหน้าก่อนที่จะเดินเจ้าไปในห้องที่ดูหรูหราแต่เรียบง่ายตามรสนิยมของเจ้าของห้อง ห้องจะตกแต่งออกเป็นโทนสีดำ สีขาว ทองเป็นซะส่วนใหญ่ โลแกนเดินอุ้มคนที่อยู่ในอ้อมแขนขึ้นไปยังชั้นสองและเปิดประตูห้องเจ้าไป ห้องเป็นห้องสไตล์เรียบๆมีโทนสีดำไม่ค่อยมีของอะไรตกแต่งเป็นพิเศษเพราะว่าห้องนอนก็เอาไว้นอน ไม่มีทีวีอะไรใดๆทั้งสิ้น นอกจากเตียงหลังใหญ่และโคมไฟข้างหัวเตียง
หลังจากนั้นโลแกนก็วางคนตัวเล็กลงไปที่เตียงและจัดท่านอนถอดรองเท้าออกให้ทีละจ้าง และห่มผ้าๆให้คนตัวเล็ก หลังจากนั้นก็โทรไปสั่งให้ลูกน้องตัวเองไปขนของที่คอนโดใกล้มหาลัยคนตัวเล็กมา หลังจากวางสายแล้วก็ไปอาบน้ำและก็เดินเข้ายังห้องทำงานที่อยู่ถัดไปจากห้องนอน
"อื้ม หึ้ม อยู่ที่ไหนอีกล่ะเนี้ย"
ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มไอลินได้ตื่นจากนิทราแล้วก็มองสำรวจห้องนี้ และก็เดินออกจากห้องนอนไป และก็มองไปที่ห้องข้างๆ ที่ตอนนี้มีแสงไฟส่องออกมาและก็ได้ยินเสียงของคนตัวสูงที่ตอนนี้กำลังคุยเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ
ไอลินค่อยๆ เดินย่องเจ้าไปในห้องอย่างเงียบๆ และย่องเข้าไปใกล้ๆ คนตัวใหญ่ที่ตอนนี้ยืนหันหลังคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วและก็กำลังจะหันมา
"จ๊ะเอ๋!! ครับ"
คนตัวเล็กพูดออกมาอย่างเสียงดังเพราะว่าหวังให้คนตรงหน้านี้ตรงใจออกมา ไอลินอยากรู้จริงๆ เลยว่าเวลาที่คุณโลแกนตกใจจะเป็นยังไงแต่ไอลินก็ต้องผิดหวังเพราะว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลย คนตรงหน้านี่หันมามองเขาและยิ้มออกมาอย่างอ่อนๆ เอ็นดูคนตัวเล็กตรงหน้าที่ตอนนี้
"โอ๊ะ ตกใจจังเลยครับ"
โลแกนยกเอามือขึ้นมาทาบที่อกและแกล้งทำเป็นตกกระใจ
"หือ ไม่ต้องมาแกล้งทำเป็นตกใจก็ได้น่ะครับ เพราะว่ามันไม่เนียนเอาเสียเลย"
ไอลินทำเสียงงอนๆและมองไปที่คนตัวโตที่ตอนนี้ยืนยิ้มแย้มอย่างกับคนบ้ามองมาที่ใบหน้าเล็กๆนั้น
หลังจากที่ทั้งสองคนหยอกล้อกันแล้วคนตัวสูงก็พาคนตัวเล็กไปกินข้าวที่ด้านล่างที่สั่งมา
หลังจากที่กินข้าวอะไรจนเรียบร้อยหมดแล้วคนก็พากันพูดคุยเล่นกันอย่างเป็นธรรมชาติหลังเหมือนกับอยู่กินด้วยกันมานานมากแล้ว มันมีควาทสนิทสนมเหมือนสามีภรรยาที่หยอกล้อกัน ไอลินก็รู้สึกว่าสบายใจที่ได้อยู่กับคนพี่ ถึงแม้ว่าอายุที่แตกต่างกัน แต่ไอลินก็รู้สึกไม่เป็นปัญหาเลย เพราะลองเรียนรู้กันไปก่อนว่ารู้สึกยังไงบ้าง
หลังจากที่พูดคุยกันจนตอนนี้เป็นเวลาที่ดึกแล้ว ทั้งสองคนก็ขึ้นไปนอนที่จ้างบนห้อง(ห้องเดียวกัน)
"ห้องเดียวกันเลยหรอครับ"
"ใช่ เธอมีปัญหาอะไรรึเปล่าที่นอนร่วมเตียงกับฉัน "
"ไม่ครับไม่มีปัญหาอะไร แต่ท่านอนร่วมกันก็ดีครับเพราะว่าลินจะดูว่าพวกเราจะอยู่ด้วยกันได้นานเท่าไร"
"อืม ทดลองใช้ชีวิตคู่สิน่ะ"
"ครับ"
หลังจากที่พูดแบบนั้นทั้งสองก็ก้าวขาขึ้นไปนอนที่บนเตียงและสอดผ้าห่มเจ้าไปนอนในผืนเดี๋ยวกัน หลังจากนั้นก็ปิดไฟที่ระบบที่มีอยู่ในโทรศัพท์มือถือ หลังจากที่ปิดไฟเสร็จแล้ว คนอายุมากกว่าก็หันไปปิดโคมไฟที่หัวเตียงก่อนที่จะสอดตัวเจ้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกัน และก็ขยับไปใกล้คนตัวเล็กก่อนที่จะดึงคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ที่อ้อมแขนแกร่งคนตัวเล็กที่โดนดึงก็ไม่คิดที่จะปฎิเสธที่โดนดึงเข้ามากอด หลังจากนั้นทั้งสองก็หลับไป