3
"เจ๊ดา หนูขอลาพักสามวันนะเจ๊"
ชลันดาหันไปทางคนพูด เจ้าหล่อนยิ้มแหยๆ ส่งให้กับเธอ หญิงสาวท้าวเอวพลางถอนใจเฮือก ก่อนจะเหลือบดูปฏิทินตั้งโต๊ะที่วางอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ ตอนนี้เป็นเวลาเก็บกวาดจัดร้านก่อนเปิดร้านในช่วงเย็น เธอกับสาวเสิร์ฟที่ชื่อแป้งจันทร์ กำลังช่วยกันทำงานอย่างแข็งขัน
"ลาศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เลยเหรอแป้ง ช่วงคนเยอะด้วยนา เด็กที่ร้านเพิ่งออกไปคนหนึ่ง ไอ้จาก็ลาเจ๊กลัวว่าจะรับแขกไม่ไหวเอา"
เธอว่า สาวเสิร์ฟประจำร้านถอนใจเฮือก แล้วบอกเหตุผลของการลางานเสียงอ่อย
"หนูจะลาไปแต่งงานไปผูกข้อไม้ข้อมือน่ะเจ๊ พ่อกับแม่หาฤกษ์ไว้แล้ว แล้วก็ส่งเงินค่าเดินทางมาให้หนูกับไอ้แอ๊ดมันแล้วด้วย"
"อ้าว...จะแต่งงานหรือ"
ชลันดาอุทาน แล้วจูงไม้จูงมืออีกฝ่ายให้ไปนั่งคุยด้วยกันที่เก้าอี้ หน้าตาเครียดๆ ของชลันดาเปลี่ยนเป็นสดชื่นขึ้นทันทีเหมือนดีใจไปกับเธอ จนแป้งจันทร์ถึงกับกะพริบตาปริบๆ เพราะปรกติแล้วเจ๊ดาของเธอมักจะติดทำหน้านิ่งๆ ไม่งั้นก็คิ้วขมวด ดึกๆ มานี่ด่าขรมเลยล่ะ จนบางทีเธอก็ทั้งกลัวทั้งรักแล้วก็เกรงใจ
"จ้ะ พ่อเค้าหาฤกษ์ไว้แล้ว แป้งก็ไม่อยากไปหรอก กลัวเจ๊ดาเสียงาน แต่พ่อส่งค่ารถมาแล้ว เอ่อ...กลัวว่านานไป..."
เธอย่นจมูกพร้อมกับหน้าแดงน้อยๆ แล้วลูบท้องโดยอัตโนมัติ เท่านี้ชลันดาก็พอจะดูรู้แล้วว่าทำไมสาวเสิร์ฟของเธอถึงได้เร่งไปแต่งงานนัก
"หืม? กี่เดือนแล้ว"
ชลันดามองบริเวณท้องของอีกฝ่ายด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วยิ้มส่งให้กับแป้งจันทร์
"ไม่บอกเจ๊เลยนะเราน่ะ จะได้ให้ทำงานเบาๆ"
"แป้งก็เพิ่งรู้แน่นี่แหละจ้ะ เมนขาดไปสองเดือน เอ่อ...แป้งไม่กล้าบอกเจ๊ดา กลัวบอกแล้วเจ๊ดาจะไล่แป้งออก"
"นี่เห็นเจ๊เป็นยักษ์เป็นมารหรือยังไงกันนะ"
ชลันดาว่า แล้วค้อนให้อีกฝ่าย แป้งจันทร์ยิ้มแหย หน้าซีดเพราะกลัวว่าจะโดนชลันดาด่าอะไรเอาอีก กิตติศัพท์ด้านความปากจัดของเจ๊ดาร้านนี้น่ะ เบาๆ เสียที่ไหนกัน ขนาดนักเลงมาห้าวๆ มาทำกร่างจะจีบเจ๊ดาของเธอ ยังเคยโดนขวดบิน พร้อมกับคำด่าส่งท้ายจนไม่กล้ามาเกาะแกะกวนใจที่ร้านอีกเลย
"แหะๆ"
"กลับไปเหอะ ถ้ายังไงก็กลับมาวันจันทร์หรืออังคารก็ได้"
ชลันดาก้มลงเปิดซิปกระเป๋าคาดเอวของเธอ แล้วล้วงนับธนบัตรที่มีมายื่นส่งให้กับแป้งจันทร์ ที่มองแล้วลังเลไม่กล้ารับ จนชลันดาต้องทำตาดุๆ ใส่
"เอ้า...รับไปสิแป้ง"
"แป้งไม่ได้เบิกล่วงหน้านะจ๊ะ พ่อให้ค่ารถมาแล้วพันหนึ่ง แล้วเจ๊ดาก็..."
มองจากสายตาคร่าวๆ เงินนั่นไม่น่าจะต่ำกว่าสามพันบาท ชลันดายิ้มก่อนจะเอามือของอีกฝ่ายมาคลี่แบออก แล้ววางแปะเงินไว้ตรงนั้น
"ค่าช่วยงานน่ะ ไม่ใช่ค่าล่วงหน้าอะไรหรอก เจ๊ไม่หักเงิน"
"ขอบคุณมากๆ นะคะเจ๊"
แป้งจันทร์แทบจะก้มลงกราบหล่อน ชลันดารีบห้ามไว้เสียก่อน
"ไม่ต้องๆ ทำงานด้วยกัน แป้งก็เหมือนน้องสาวเจ๊นั่นล่ะ ต่อไปนี้พวกงานหนักๆ ยกโต๊ะยกเก้าอี้ ก็เรียกไอ้จาหรือไอ้ต้ามันเอา แต่ว่า..." ว่าแล้วเธอก็ขมวดคิ้ว หันซ้ายแลขวา มองหาลูกน้องของเธออีกคน
"มันหายไปไหนกันล่ะ ไอ้ต้าน่ะ"
"ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ"
แป้งจันทร์เก็บเงินแล้วก็อาสาจะไปตามหาชายหนุ่มให้ พร้อมกับบอกว่าจะเอาของกินอร่อยๆ จากอีสานมาฝากชลันดา แป้งจันทร์คาดไม่ถึงเลยว่าเจ๊ดาของร้านเหล้า เดินมาสุข จะเป็นคนเอื้อเฟื้อใจกว้างถึงขนาดนี้ อาจจะเพราะบุคลิกของเจ้าหล่อนด้วยกระมัง แล้วนัยน์ตาหวานคมกริบนั่น ยามจ้องมองที่ดุนิดๆ ดูเอาเรื่องหน่อยๆ กิริยาเม้มปากเป็นประจำ ทำให้แป้งจันทร์และลูกน้องคนอื่นๆ รวมถึงลูกค้าประจำของร้านนี้ แอบเกรงๆ กลัวๆ เจ๊ดากันไว้ก่อน แล้วบางคนก็นินทาต่อยอดกันไปว่าแบบนั้นแบบนี้ จริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่คนที่อยู่กับเจ๊ดาน่ะรู้ดีว่าหล่อนเป็นคนยังไง แป้งจันทร์เพิ่งมาทำงานกับชลันดาได้ไม่ถึงสี่เดือน ก็ยังสัมผัสได้ว่าเจ๊ดาไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แล้วตอนนี้เจ๊ดาก็ได้ทำการซื้อใจของเธอไปแล้วเพราะความโอบอ้อมอารีนี้
ในที่สุดการเตรียมร้านเสร็จสิ้นลง วันนี้ชลันดาเหนื่อยกว่าทุกวันเพราะไล่ให้แป้งจันทร์ไปทำงานเบาๆ ส่วนลูกน้องอีกคนก็ยังไม่มาสักที เธอจึงต้องลงมือเอง ชลันดาถอนใจเฮือก แล้วตักอาหารรับประทานอย่างลวกๆ รีบๆ กินอะไรบางทีเธอก็ไม่รู้รสเสียด้วยซ้ำ เพราะความเร่งรีบ จะมาช้าอ้อยอิ่งไม่ได้ เพราะลูกค้าเข้าร้านมาแล้ว เธอก็ต้องวิ่งวุ่นบริการ ไม่ได้มีเวลาเป็นของตัวเอง
ร้านเดินมาสุขของเธอและสามี...ชลันดายิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงอดีตอันหวานชื่นของตนเอง ร้านนี้เป็นร้านที่เขา คิดไว้ว่าจะทำยามบั้นปลายชีวิต เอาไว้เพื่อเป็นสถานที่สังสรรค์ของเพื่อนๆ ของเขา
ยงยศเป็นคนชอบสนุกมีเพื่อนฝูงมากมาย เขาชอบบรรยากาศของร้านเหล้า บอกกับเธอว่าคิดอยากจะทำร้านให้นั่งสบาย ให้คนที่มาได้ผ่อนคลายจากความเครียด เขาชอบบรรยากาศของวงสุรา ชอบเรื่องเล่า และบรรยากาศของการร่ำสุราในหมู่เพื่อน
สามีของชลันดา ยงยศ เป็นทหารอากาศ นอกจากเป็นสามีแล้ว เขาก็เปรียบเสมือนทุกสิ่งในชีวิตของชลันดา เขาอายุห่างกับเธอเกือบยี่สิบปี ในวัยยี่สิบห้าปีของชลันดา และวัยสี่สิบห้าปีของยงยศ เป็นวันครบรอบวันเกิดของเธอที่เขาตั้งใจจะให้เป็นวันแต่งงานของเธอกับเขา เจ้าสาวของเขาที่เขาเก็บเธอมาจากข้างถนน ชลันดาเป็นเด็กบ้านแตก เธอหนีออกมาจากบ้านในวัยสิบสองปี เพราะเกือบจะถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน แม่ของเธอไม่ปกป้องเธอเลยสักนิด ยงยศช่วยเธอไว้และพาเธอให้มาอยู่ด้วยกันกับเขาที่บ้าน ส่งเสียให้เธอเรียนหนังสือ เขาเป็นพ่อม่ายเคยมีภรรยาแล้วแต่เสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุพร้อมกับลูกสาววัยเพียงขวบเดียว ชลันดาเติมเต็มให้เขาทุกอย่าง ยงยศเฝ้าฟูมฟักดูแลเธอ และมีความฝันร่วมกับเธอ เขาไม่ได้ร้องขอให้ชลันดาต้องแต่งงานตอบแทนเขา แต่เธอเป็นคนบอกรักเขาและบอกว่าอยากจะเป็นเจ้าสาวของเขา ชลันดาเห็นยงยศเป็นทุกสิ่งของเธอและอนาคตของเธอ
เวลานั้นผ่านไปแล้วสี่ปีสินะ...ในคืนวันแต่งงาน เพื่อนของเขาลากเขาไปเลี้ยงฉลองกันส่งท้าย...และเจ้าบ่าวของเธอก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
เหลือเพียงร้านนี้ให้เธอ ร้านที่เธอตั้งใจจะทำมันให้ดีที่สุด ทำความฝันของสามีให้เป็นจริง ชลันดาไม่รู้ว่าเธอชอบบรรยากาศร้านเหล้าเหมือนสามีไหม เธอรู้แค่ว่าตั้งระบบตัวเองให้มาทำงานทุกวันและเต็มที่ เธอกลายเป็นคนปากจัดและด่าเก่งเหมือนเกราะป้องกันจากขี้เหล้าเกรียนๆ ทำหน้านิ่งหน้าตึงนั่นก็เช่นกัน เธอถูกเรียกว่าเจ๊ดา ทั้งที่อายุยังไม่น่าจะเป็นเจ๊ของใครๆ สักเท่าไหร่ แต่เธอก็รู้สึกว่ามันดีที่ถูกเรียกว่าอย่างนั้น มันทำให้เธอดูแก่กว่าอายุจริง และไม่มีใครมาวอแวกับเธอดี
"เจ๊ดา...เบียร์ขวดหนึ่ง เม็ดมะม่วงทอดด้วยจ้า"
ลูกค้ารายแรกของวันนี้ ตะโกนเสียงแจ๋วมาจากหน้าร้าน ชลันดาขยับตัวบริการเขา เริ่มงานของตนในวันนี้อย่างแข็งขัน และเต็มที่