บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 งานเลี้ยง

บทที่ 9 งานเลี้ยง

เธอค่อยๆ หยิบสร้อยคอเส้นเล็กๆ ขึ้นมาดูอย่างพิจารณาแล้ววางลง เลื่อนมือไปหยิบต่างหูขึ้นมาอีก ครั้งนี้ใบหน้าสวยแสดงออกถึงความสงสัยและมึนงงในขณะเดียวกัน

“ใคร ใครส่งมาเหรอ” ‘หรือจะเป็น..คงไม่น่าใช่หรอก หรือนี่เป็นของยี่หวาที่ส่งมา แต่ยี่หวาคงไม่มีเงินมากมายซื้ออะไรแบบนี้ ใครกัน เป็นใครกันนะที่ทำแบบนี้’ มุกดาถอนหายใจอย่างปลงตกก่อนจะวางลงและเก็บให้เป็นระเบียบเหมือนเดิมที่มันเคยอยู่ เธอปิดกล่องแน่นหนาราวกับว่าจะไม่เปิดมันอีก ก่อนที่จะเดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา

“อ่า..พรุ่งนี้ก็ถึงวันงานแล้ว ประจำเดือนก็มาวันแรกด้วย อยากจะบ้าตาย” เท้าเรียวเล็กกระทืบไปมาเบาๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อนรักแต่ทว่ายี่หวาปิดเครื่อง นอกจากเพื่อนคนนี้แล้วเธอก็ไม่รู้จะโทรหาใคร พ่อกับแม่ก็..ไม่อยู่แล้ว น้ำตาเริ่มเอ่อคลอเบ้าเมื่อถูกความเงียบเล่นงาน หากแต่สมองกำลังประมวลภาพรอยยิ้มของวิลเลียมจนเธอแปลกใจตัวเองว่าคิดแบบนี้ได้ยังไง

มุกดาเดินขึ้นมาหาชุดที่จะสวมใส่ไปงานวันพรุ่งนี้และเธอก็หยิบชุดหนึ่งออกมา มันเป็นชุดแรกที่พอร์ชซื้อให้เมื่อตอนยังคบกันอยู่ เขาเคยบอกว่าเธอใส่ชุดนี้แล้วสวยดูดีเป็นธรรมชาติ

“งั้นฉันจะใส่ชุดนี้..ออกงาน” หญิงสาวรวบรวมความกล้าให้กับตัวเองแล้วจึงเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง เธอทาครีมบำรุงผิวแล้วเข้านอนตามเวลาเดิมเฉิกเช่นทุกวัน

วันต่อมา 16:00

มุกดานั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่กับโต๊ะทำงานขณะที่เพื่อนๆ ทยอยกันออกไปจากออฟฟิศแล้ว มันเป็นวันที่เธอรู้สึกอึดอัดใจที่สุดเลยก็ว่าได้

“ไม่อยากไปเลย ทำไมต้องมีงานแบบนี้ด้วยเนี่ย” เธอพึมพำกับตัวเองแต่ในตอนนั้นวิลเลียมกลับยื่นหน้ามาใกล้ๆ แล้วกระซิบถาม

“พี่มุกพร้อมหรือยังครับ”

“อ๊ะ!..ฉันตกหมดเลย”

“หึหึ..กลับบ้านกันเถอะ”

“นายกลับก่อน เดี๋ยวฉันขอเคลียร์งานก่อนแล้วจะกลับ”

“ได้ไง วันนี้เรามีนัดนะครับ”

“รู้แล้วค่ะ แต่ขอเคลียร์งานก่อน ไม่รีบ”

‘อ่า…ยัยป้าคนนี้นิ ดื้อรั้นเอาจริงๆ เลย ทำงานหามรุ่งหามค่ำ’

“ได้ๆ พี่นั่งทำไปเลยงั้นเดี๋ยววิลนั่งรอเอง”

“ไม่ได้ จะมารอทำไม นายก็กลับบ้านไปสิ วันนี้วันงานแล้วนะ”

“แล้วไง พี่มุกยังไม่รีบร้อนเหมือนคนอื่นเลย” มาเฟียหนุ่มหันไปมองรุ่นพี่บางคนที่กำลังรีบร้อนกลับบ้านเพราะรีบไปงานเลี้ยง ก่อนที่จะดึงสายตากลับมามองมุกดา เธอไม่รีบร้อนอะไรเลย

วิลเลียมเม้มริมฝีปากแน่นและแสร้งเดินออกมาด้านนอก เขามานั่งสูบบุหรี่รอมุกดาอยู่หน้าลิฟต์จนเวลาล่วงเลยมาถึงครึ่งชั่วโมง

“อะไร..นายทำไมยังไม่กลับ” มุกดาชะงักฝีเท้าเมื่อเห็นวิลเลียมยังอยู่ที่นี่ แต่ชายหนุ่มกลับเดินอาดๆ มาดึงแขนเธอให้เข้ามาในลิฟต์ “จะ..จะทำอะไรอะ”

“ก็ไปส่งพี่ที่บ้านไง กว่าจะรอรถเมล์กว่าจะกลับ ช้าชะมัด”

“แล้วใครให้นายมารอฉันไม่ทราบ” มุกดาเถียงกลับบ้าง เธอทำหน้าบึ้งแล้วขยับออกห่างจากชายหนุ่มรุ่นน้อง เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกก็รีบเดินออกมาก่อน แต่มันช้าไปสำหรับวิลเลียมที่เดินมาประชิดตัวเธอ

“อย่าทำให้ผมรำคาญ เร็วๆ”

“ไปไหน”

“ถามมาก” วิลเลียมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้นบ่งบอกได้ว่าเขาไม่ได้เล่นเหมือนที่ผ่านมา ใบหน้าหล่อเหลาเข้มขรึมไร้รอยยิ้ม มันดูน่ากลัวแปลกๆ และเธอเคยเห็นสีหน้าเรียบเฉยแบบนี้สองครั้งแล้ว

ชายหนุ่มขับรถมาส่งมุกดาที่บ้านตามที่บอกเอาไว้ เขาก้าวลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้

“เจอกันที่งานนะครับ”

“อืม..เจอกันที่งาน” วิลเลียมพยักหน้าตอบมุกดาเพียงนิดแล้วขับรถออกไปทันที ใบหน้าเรียบนิ่งไร้รอยยิ้มเขาช่างดูน่าเกรงขามจริงๆ จนบางครั้งเธอก็สงสัยว่า..ผู้ชายคนนี้เขามีกี่บุคลิก

เมื่อเข้ามาในบ้านมุกดาก็ต้องถอนหายใจหนักๆ เธอสูดลมหายใจอีกครั้งแล้วไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปงานเลี้ยงเย็นนี้

หลายนาทีต่อมา

ร่างบางยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่ และหันมองกล่องเครื่องประดับที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งด้วยความลังเลใจ

“เอาวะ ไปแบบนี้แหละ ฉันก็เป็นฉัน..ฉันจะไม่เปลี่ยนอะไรทั้งนั้น” ว่าจบก็หยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กขึ้นมาคล้องบ่าแล้วหมุนตัวกลับมาสวมรองเท้าส้นสูง มุกดาเดินออกมาจากบ้านอย่างมั่นใจ เธอเลือกที่จะนั่งแท็กซี่ไปงานแทนการเรียกวินมอร์เตอร์ไซค์อย่างที่เคยทำ

19:00

วิลเลียมก้มมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือแทบจะทุกๆ นาที การกระทำที่แสดงออกชัดเจนว่าเขากำลังรอใครอยู่ทำเอารุ่นพี่ที่อยู่ด้วยกันเกิดความสงสัย

“น้องวิลรอใครเหรอคะ”

“รอพี่มุกครับ ทำไมยังไม่มา..พอจะมีเบอร์พี่เขาไหม”

“มีค่ะ แต่เป็นเรื่องปกตินะคะ ป้ามุกแกไม่ค่อยอยากออกงานหรอก” พลอยเอ่ยบอกวิลเลียมพร้อมกับเอาเบอร์โทรมุกดาให้เขา วิลเลียมไม่สนใจคำพูดพวกนั้นแล้วเดินออกมาโทรหามุกดา

(สวัสดีค่ะ)

“ป้า ป้าอยู่ไหนเนี่ยทำไมช้าแบบนี้”

(ใครเหรอ)

“วิลเอง วิลเลียม”

(อ๋อ..แล้วนายเอาเบอร์ฉันมาได้ยังไง)

“มันไม่ใช่เวลาที่จะมาถาม ป้าอยู่ไหนตอบมาก่อน”

(ฉันอยู่หน้างานแล้ว กำลังจะเดินเข้าไป)

“อืม เดี๋ยวไปรับ” พอวิลเลียมวางสายไปเสียงโห่ร้องก็ดังขึ้น ชายหนุ่มหันกลับไปมองตามเสียงนั้นอย่างอยากรู้และเสียงหัวเราะของคนรอบข้างก็ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของมุกดา

‘แต่งตัวอะไรของป้าวะเนี่ย มันสวนทางอะไรกันแบบนี้ นี่สาบานว่าไม่ใช่นางเงือกขึ้นฝั่งน่ะ!’

ชุดที่มุกดาสวมใส่มาเป็นชุดราตรีแขนยาวสีทองระยิบระยับ ผมรวบตึงเป็นหางม้า ริมฝีปากเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสด เรือนแก้มนวลสีชมพูระเรื่อ วิลเลียมยกมือขึ้นกุมขมับอย่างปลงตกและเธอไม่ได้ใส่สร้อยที่เขาส่งไปให้

“ป้า..แต่งตัวอะไรเนี่ยเชยชะมัดเลย”

“หึหึ มุกดาคนเดิมยังไงก็เป็นมุกดาคนเดิมนั่นแหละ มนุษย์ป้าที่แท้จริง”

“ฮ่าๆ อะไรของเขาเนี่ย น่าขำจริงๆ เลยอย่างกับลิงแน่ะ”

เสียงซุบซิบนินทาเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าหูวิลเลียม ชายหนุ่มกัดฟันแน่นแล้วเดินเข้าไปหามุกดา แต่ทว่าในตอนนั้นหญิงสาวคนหนึ่งกลับเดินมาเหยียบชายกระโปรงมุกดาทำให้เธอที่กำลังจะก้าวเดินมาหาวิลเลียมล้มลง ส่งผลให้ชายกระโปรงฉีกขาด วิลเลียมรีบถลาไปประคองเธอไว้พร้อมกับรีบพยุงมุกดาลุกขึ้น

“นาย..เอ่อ..ฉันต้องกลับแล้ว” มุกดาก้มหน้าไม่กล้าสบตากับวิลเลียมตรงๆ แววตาเธอสั่นระริกเหมือนคนจะร้องไห้แต่ทว่าวิลเลียมกลับจับมือเรียวไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“กลับได้ไง งานยังไม่เริ่มเลยนะ แล้ววันนี้..แต่งตัวอะไรมาเนี่ย”

“ก็..ก็แต่งแบบที่ฉันถนัด”

“เหรอ..อ่า..เข้าใจๆ งั้นไปกับผม”

“ปะ..ไปไหน” มุกดาเอ่ยถามแต่วิลเลียมกลับไม่ตอบเลย เขาลากแขนมุกดาออกมาจากงานท่ามกลางเสียงหัวเราะขบขันและเสียงซุบซิบนินทาจนหัวใจดวงน้อยสั่นไหว “นาย..หยุดเถอะ” มุกดารั้งตัวเองไว้ไม่ให้เดินตามวิลเลียมไปจนชายหนุ่มต้องหยุด

“มีอะไร”

“ฉัน..ชินกับสถานการณ์แบบนี้แล้ว”

“อะไร แล้วจะให้คนพวกนั้นหัวเราะแบบนี้ไปเรื่อยๆ เหรอ ชอบเหรอที่เขาพูดแบบนั้น”

“มันเรื่องของฉัน นายยุ่งอะไรด้วย”

“เหอะ! บอกแล้วว่าอย่าหลงตัวเอง อย่าเอาความมั่นใจตัวเองมาใช้กับผม” วิลเลียมปล่อยมือเธอแล้วเท้าเอวมองหน้ามุกดาแต่เธอกลับหลบสายตาดุดันคู่นั้น

“ฉันไม่ได้หลงตัวเองสักหน่อย”

“อ่า! ขี้เกียจเถียงแล้ว ไหนดูสิว่ามีตรงไหนพอแก้ได้ไหม” วิลเลียมมองมุกดาอย่างพิจารณาก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วถอดแว่นตาเธอออก “อยู่มาถึงตอนนี้แล้ว รู้จักไหมคอนแทคเลนส์อะ”

“นี่..เอาแว่นคืนมานะ”

“อันนี้ก็ไม่ได้” เขาดึงกระเป๋าออกมาแล้วโยนทิ้งลงพื้นพร้อมกับแว่นตาของเธอ สิ่งต่อมาคือเดินอ้อมมาดึงยางรัดผมออกทำให้ผมยาวสลวยสยายออกเต็มหลังมุกดา “เอาจริงๆ ไหม ไม่ได้เรื่องเลย”

หมับ!

มือหนาจับมือเรียวเล็กไว้แน่นก่อนที่จะโทรหาเดคให้เตรียมทุกอย่างไว้แล้วพามุกดาไป

“นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย”

“ไปหาอะไรใหม่ๆ ไงยัยป้า”

“นี่! นายไม่มีสิทธิ์มาเรียกฉันแบบนี้นะ”

“ยัยป้า ยัยแว่น ทำไมจะเรียกไม่ได้”

“วิลเลียม! นายมัน..”

“มันอะไรป้า รีบเดินตามมาเถอะน่า” เมื่อมาถึงวิลเลียมก็จับมุกดาให้นั่งลงบนเก้าอี้ เธอมองเขาไม่ชัดจนต้องเพ่งมองอยู่หลายหน

“นายครับ ช่างมาแล้วครับ”

“อืม เอาให้ทิ้งคราบมนุษย์ป้าแก่ๆ ไปเลยนะ” มือหนาวางลงบนไหล่ช่างแต่งหน้าทำผมอย่างฝากฝัง ก่อนที่เขาและเดคจะเดินออกมาก่อน

“นี่! วิลเลียมนายมันจุ้นจ้านที่สุดเลย!”

“ยัยป้าเอ๊ย…เชยชะมัด”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel