Chapter 6 : แผนชิงสวาทบริสุทธิ์ (1)
กว่า 3 เดือนแล้วที่ชินทร์และปลอบขวัญไม่ได้คุยกันเลย ทั้งทางไลน์และทางโทรศัพท์ ทั้งสองคนหายไปจากไลน์กลุ่มด้วย จนเพื่อน ๆ ในกลุ่มใจหาย
“แพรว .. เธอคิดเหมือนฉันไหมวะ? ว่าไอ้ขวัญกับไอ้ชินทร์มันแปลก ๆ ไป”
เอ็มเปิดประเด็นเมื่อสองคนออกไปหาอะไรทาน
“อืม..คิดเหมือนกันนะ หรือจะเป็นอย่างที่ไอ้หมวยมันว่าจริง ๆ อ่ะเอ็ม?”
“ว่าอะไรวะ?”
เอ็มคิ้วขมวดถามแฟนสาว
“อ้าว..ก็ไอ้หมวยมันบอกว่าสองคนนี้มันแอบชอบกันอยู่แต่มันไม่รู้ใจตัวเองไง”
“เออๆๆๆ จริงว่ะ ผ่านมาตั้ง 3 เดือนแล้ว ยังจำได้นะแก”
“ก็ฉันความจำดีไง อิอิ .. ว่าแต่จะทำไงดีกะสองคนนี้วะเอ็ม”
“ต้องถามไอ้หมวยโน้น เรื่องแบบนี้ฉันไม่ถนัด”
“งั้นฉันโทรหาไอ้หมวยแป๊บ” แพรวล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกดโทรออก
Rrrrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrrr
“ไงแก?”
หมวยรับสายทักทายตามประสาคนคุ้นเคย
(เออ..คิดถึงไอ้ขวัญกะไอ้ชินทร์มันอ่ะแก ในไลน์กลุ่มก็ไม่ออกมาเลย โทรหามันสองคนก็บอกไม่ว่าง)
“อืมมม..ฉันก็คิดถึงมันสองคน แต่ทำไงได้วะ ก็มันไม่ว่างนี่นา”
หมวยไม่คิดอะไร คิดว่าทุกคนก็ต้องทำงานเพราะทั้งปลอบขวัญและชินทร์ต่างก็งานยุ่งกันทั้งคู่ช่วงนี้
(แต่ฉันว่ามีว่ะหมวย ฉันคิดว่ามันสองคนหลบหน้ากัน)
แพรวบอกตามความรู้สึก จนหมวยชะงัก
“เออ..จริงด้วยแกฉันเพิ่งเก็จ ไอ้ชินทร์มันหายหัวไปตั้งแต่ปลอบขวัญหายไปกับพี่ตั้มวันนั้น มันก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลยทั้งในเฟสในไลน์ แล้วไอ้เอ็มว่าไงบ้างล่ะ? เจอกันเกือบทุกอาทิตย์”
(มันก็บอกว่าไอ้ชินทร์แปลกๆไป ไม่ร่าเริงเหมือเก่าดูขรึม ๆ)
“เอางี้ไหมแก? ชวนพวกมันไปเที่ยวทะเลเสาร์นี้เลย ฉันจะบอกว่าไปกันสามคนพวกเรา แล้วให้ไอ้เอ็มไปโกหกไอ้ชินทร์ว่าหนีพวกเราไปเที่ยว ไรงี้ แล้วไปเจอกันที่โรงแรม เปิดห้องสวีทไว้สักสามห้อง มอมเหล้ามันทั้งคู่แม่ง คอยดูซิจะว่ามันสองคนจะรู้ใจตัวเองไหม?” หมวยวางแผนเป็นฉาก ๆ
(มันจะดีเหรอวะหมวย ไอ้ขวัญอาจกำลังคบกับพี่หมอตั้มก็ได้ เขาอาจจะมีซัมติงกันแล้วก็ได้แก)
แพรวแย้งคิดถึงศิลธรรม
“เขาอาจจะยังไม่มีอะไรกันก็ได้ เพราะฉันถามไอ้ขวัญแล้วมันบอกพ่อพี่ตั้มป่วยอยู่โรงพยาบาลมา 3 เดือนแล้ว แต่ฉันก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนัก เพราะไอ้ขวัญบอกช่วงนี้งานยุ่งมาก ยิ่งพี่ตั้มลางานบ่อย ๆ นางก็ต้องรับเคสและเข้าเวรแทน แล้วยังมีหมออีกคนกำลังจะแต่งงานเลยลาพักร้อน ขวัญเลยเป็นตัวหลักของโรงพยาบาลของไอ้ชินทร์มันอ่ะ”
หมวยอธิบาย
(เออ..ลองจัดการดูเดี๋ยวเราเตรียมกะเอ็มทางนี้เอง)
แพรววางสายเพื่อบอกแผนการกับเอ็ม เอ็มไม่รอช้ายกหูโทรศัพท์กดหาชินทร์ทันที
Rrrrrrrrr Rrrrrrrrr Rrrrrrrrrr
“ไงมึง?” คำทักทายที่ใช้ประจำ
(ชินทร์ เสาร์-อาทิตย์ นี้ ว่างเปล่าวะมึง?) ปลายสายเปิดคำถามน้ำเสียงเข้ม
“ทำไมวะ?” อีกฝ่ายสงสัย
(ก็แพรวอ่ะ มันงอนกูอยู่ว่ะ อยากจัดงานปาร์ตี้ง้อที่ทะเล เห็นมันบ่นเบื่อกู จะหนีไปเที่ยวทะเลคนเดียว กะจะชวนมึง ไปเซอร์ไพซ์มันที่ทะเลว่ะ ไปหน่อยนะมึงทำงานมาหลายเดือนแล้วไม่ได้สังสรรค์กันเลยกูอยากเมาเปลี่ยนบรรยากาศ)
ปลายสายเงียบสักครู่เหมือนใช้ความคิด ก่อนจะให้คำตอบ
“อืม..ไปก็ไป อยากพักผ่อนเหมือนกัน”
(เยส!!!!!!!!! .. เค เค เจอกันเสาร์นี้นะเพื่อน)
เอ็มทำท่าดีใจ จนแฟนสาวต้องใช้นิ้วชี้ชู่ที่ปาก เอ็มวางสายก่อนที่จะมาลุ้นทางหมวยที่ไปชวนปลอบขวัญ
Rrrrrrrrr Rrrrrrrrr Rrrrrrrrrr
“ว่าไงหมวย”
ปลอบขวัญรู้สึกหัวหนักอึ้งกำลังฟุบลงกับโต๊ะ กดรับโทรศัพท์
(ขวัญ เป็นอะไรหรือเปล่า เสียงอู้อี้ ๆ)
“เปล่าแค่ปวดหัวนิดหน่อยอ่ะ”
(เออ..เสาร์นี้ว่างเปล่า แพรวมันชวนไปทะเลมันบอกเบื่อไอ้เอ็มอ่ะ เห็นว่าทะเลาะกันหนัก อยากหายหน้าไปจากไอ้เอ็มสักพัก ไปเป็นเพื่อนมันหน่อยได้ไหม? สงสารมันอ่ะ)
“เฮ้ย!!!!!!! จริงดิ? แล้วตอนนี้แพรวมันเป็นไงบ้างอ่ะ?” ปลอบขวัญผงกหัวขึ้นมาทันที
(มันก็ไม่คุยกัน ไอ้แพรวก็เก็บของเตรียมแล้วด้วย มันบอกไม่อยากโทรมากวนแก กลัวแกจะเครียด)
“อืม ๆ ได้ ๆ เดี๋ยวเย็นนี้ไปเก็บของเลย”
(เออ..แล้วกับพี่ตั้มจะมีปัญหาป่าวล่ะ ไปค้างคืน)
“บ้า!!!! จะมีทำไมล่ะ? ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
(อ้าว..เห็นไปดงไปเดทกัน ก็นึกว่าเป็นแฟนกันแล้ว)
“ตอนนี้ใจเขาก็อยู่ที่พ่อเขาโน่นแหละ ตั้งแต่พ่อเขาป่วยความสัมพันธ์ก็ไม่ได้พัฒนาเท่าไหร่ โทรคุยกันบ้างแต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า อย่ามะโนจ้า อย่ามะโน”
(ต๊าย!!!!! .. แสดงว่ายังไม่กินกัน)
“บ้า !!!!! หน้าสิ่วหน้าขวานใครจะกินกันลงยะ”
(อ่ะจ้า..งั้นเสาร์นี้เจอกันนะเดี๋ยวฉันไปรับ อะเคร้)
หมวยยิ้มดีใจที่เดาถูก รีบโทรมารายงานเอ็มและแพรวตามแผน จนสองคนนั้นดีใจกรี๊ดกระโดดกอดกัน
เอ้ทำตามแผนของหมวยด้วยการโทรไปจองห้องสวีทถึง 3 ห้อง หนึ่งห้องจัดสถานะการณ์ให้เหมือนเอ็มกำลังง้อแพรวอยู่โดยมีลูกโป่งหลากสี และดอกไม้สวยงามเหมือนเทพนิยาย สามหนุ่มวางแผนไปก่อน เอ็มและเพื่อน ๆ ทำทีว่าเข้ามารอแฟนสาวในห้องสวิทสุดโรแมนติกนี้
แพรวกับหมวยไปรับปลอบขวัญที่คอนโด โดยปลอบขวัญลงมารออยู่ข้างล่างอยู่ก่อนแล้ว
“ขวัญ..ฮือๆๆๆ” แพรวแสดงละครวิ่งลงรถเข้ามากอดปลอบขวัญ
“โอ๋ๆๆๆ แก ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว...เรื่องเป็นไงมาไงเล่าให้ฟังซิ??”
ปลอบขวัญห่วงเพื่อนจับใจ
“ก็ไอ้เอ็มมันว่าฉันอ่ะไม่ยอมปล่อยมันไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ บ้าง บอกว่าฉันคอยจิกมันตลอด ฉันเลยโมโหว่าถ้าเพื่อนสำคัญกว่าก็ไปอยู่กับเพื่อนเลย พอฉันถามว่าเพื่อนไหน? ไอ้ชินทร์ ก็ไม่ใช่ ไอ้เอ้ก็ไม่ใช่ ฉันถาม หาว่าฉันระแวง ฉันเลยอยากหนีไปให้ไกล ๆ มันอ่ะ อยากให้มันรู้ว่าระหว่างเพื่อนกะแฟนมันขาดใครไม่ได้ ฮือๆๆๆ”
“ไปๆๆๆ ขึ้นรถด้วยเล่าไปด้วย ขืนยืนเล่าเรื่องอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวถึงทะเลก็ค่ำกันพอดี ฉันขับเอง แกสองคนนั่งหลังไปเลย”
หมวยเห็นท่าจะยาว จึงไล่สองสาวขึ้นรถ
“อืมแล้วแกเป็นไงบ้างอ่ะขวัญ? 3 เดือนมานี้ ไม่แชทไม่คุย โทรหาก็ไม่ว่างเลย”
แพรวเปลี่ยนมาตั้งคำถามปลอบขวัญบ้าง
“อืมยุ่งมากเลยแก หมอที่มีประสบการณ์ทั้งหมด 5 คน รวมชินทร์ด้วย แต่ทำงานจริง 4 แล้วพ่อพี่ตั้มก็ดันมาล้มในห้องน้ำอีก อยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู ตั้งเดือนกว่า แขนขาซีกซ้ายขยับไม่ได้เลย พี่ตั้มก็ต้องลางานไปดูแลพ่อเขา เพราะพี่ ๆ น้อง ๆ เขาอยู่ต่างประเทศ หมดเพิ่งจะหลับมาไทยเมื่อปลายเดือนที่แล้วมั้ง ฉันก็เลยต้องเข้าเวรแทน แล้วยังมีหมออีกคนจะแต่งงานอีก พอลา ในโรงพยาบาลก็เลยมีหมอที่ผ่านงานและมีประสบการณ์แค่ 2 คนอ่ะแก ต้องผลัดกันเข้าเวร เหนื่อยโพดดดดดด”
ปลอบขวัญร่ายยาวเพราะเหนื่อยกับการทำงานมาก
“แล้วสรุป แกกะพี่ตั้มก็ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน?”
แพรวถามอย่างอยากรู้
“ก็ยังอ่ะ พี่เขาก็ยังไม่ได้ขอแบบจริง ๆ จัง ๆ ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจว่าที่ขึ้นคานทุกวันนี้เป็นเพราะรอพี่ตั้มจริงหรือเปล่า? หรือเพราะอะไร?”
“เพราะอะไรวะแก?”
แพรวถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น คาดหวังคำตอบ
“ก็ไม่รู้สิ เพราะติดพวกแกมั้งหรือเพราะไม่มีคนมาจีบจริง ๆ จัง ๆ แบบพวกแกไงเลยไม่แน่ใจไง”
ปลอบขวัญหน้ามุ่ยใส่เพื่อนที่คาดคั้นเอาคำตอบแต่คำตอบออกมาไม่เป็นอย่างที่คิด
“หรือเพราะ รอไอ้ชินทร์?”
หมวยยิงคำถามตรงเป้า ทำให้ปลอบขวัญแทบไปไม่ถูก
“บ้าสิหมวย!!!!! สาวในอุดมคติไอ้ชินทร์คงอ้วนปุ๊กลุ๊กอย่างฉันนี่เน๊าะ..ฝันไปเหอะ สาว ๆ ในสต็อกของมัน ต้องเอ็กซ์ ๆ อึ๋ม ๆ โน่น”
ปลอบขวัญสาธยายในความเป็นไปไม่ได้ของตัวเอง
“แล้วถ้าไอ้ชินทร์มันชอบแกจริง ๆ ขึ้นมา แกจะทำไงวะ?” แพรวถามต่อ
“มะโนเหอะ คนอย่างชินทร์ มันคงไม่มองช้างน้ำอย่างฉันหรอกแพรว อย่าบิ้ว”
“มันอาจจะชอบแก แต่ยังไม่รู้ใจตัวเองก็ได้ เห็นอะไรก็ขวัญๆๆๆ จนยัยมัญญ่ายังแอบไปมีกิ๊กเลย ถ้าไอ้ชินทร์มันรักมัญญ่าจริง แล้วมัญญ่ามันจะไปกินกับคนอื่นทำไมวะ? คิดสิคิด”
หมวยพยายามเสริมทับ
“โอ้ยยยยยยย!!!! จะบิ้วอะไรกันนักหนาคะคุณเพื่อน สเป๊กไอ้ชินทร์น่ะ มันก็ต้องขาว สวย หมวย เอ็กซ์ ทุกคนค่ะ ตั้งแต่คบกันมา ฉันยังไม่เคยเห็นมันกินสาวอวบระยะสุดท้ายแบบฉันซักคนค่ะ เลิกคิด เลิกมะโนนะคะ เพื่อน!!!! เชียร์ไม่ขึ้นค่ะ”
ปลอบขวัญหันหน้าออกไปทางกระจกมองข้างทาง ขอบตาร้อนผ่าว อดคิดไม่ได้ว่า ความเป็นไปได้ในเรื่องของเธอที่เพื่อน ๆ คิดโยงกันเองไปมานั้นจะเป็นจริงได้ เพราะชินทร์ไม่เคยเลยสักครั้งที่แสดงทีท่าว่าเธอคือคนสำคัญและมากเกินคำว่า เพื่อน เลย
