บทที่ 7 เทรนเนอร์สาว 1.6
“ไม่ได้ล็อกจริงๆ ด้วย” มาฟาลด้าพูดกับตัวเองเมื่อลองบิดลูกบิดประตูดู ปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อกเธอจึงเปิดประตูห้องเข้าไปอย่างถือวิสาสะ หญิงสาวก้าวเข้าไปในห้องจุดแรกที่เธอยืนอยู่คือห้องรับแขก มองซ้ายมองขวาเพื่อจะหาร่างของว่าที่คู่หมั้นหรือแม้แต่ลูกน้องทั้งสามคน หากแต่ทุกอย่างกลับว่างเปล่า เสียงบางอย่างที่เหมือนคนกำลังจะขาดใจดังเข้ามากระทบกับหูของเธอ ทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วยิ่งเดินตามเสียงครางนั้นไปด้วยความอยากรู้
“กรี๊ดดดดด นี่มันอะไรกันนีโอ นี่มันอะไรกันผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ กรี๊ดๆๆๆๆ” เสียงแปดปรอทของมาฟาลด้าดังขึ้นมาทันทีที่เธอเดินเข้ามาในห้องออกกำลังกาย สองร่างที่กำลังสุมไฟสวาทให้กันและกันบนโซฟาผละออกจากกันตั้งแต่ได้ยินเสียงกรีดร้องแสบหู บัวบุษยาได้โอกาสผลักร่างหนาให้ออกห่างร่างของตน ลุกขึ้นยืนหันหลังจัดระเบียบเสื้อผ้าให้เข้าที่มือไม้สั่น ยังไม่ทันที่บัวบุษยาจะรูดซิปเสื้อแจ็กเก็ตขึ้นไปถึงระดับที่ต้องการ ร่างกายของเธอถูกกระชากอย่างแรงก่อนที่ฝ่ามือของใครบางคนจะกระทบกับใบหน้าของเธออย่างจังสองครั้งซ้อน
“เพียะ เพียะ...นี่แน่ะ ชอบแย่งผัวชาวบ้านดีนักมันต้องเจอแบบนี้”
“หยุดได้แล้วฟาลด้า ฉันบอกให้หยุดไงเล่า” ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโซฟาวิ่งมาที่ร่างของมาฟาลด้าตั้งแต่ฝ่ามืออันหนักหน่วงของคู่ควงฟาดไปที่ใบหน้าของเทรนเนอร์สาวครั้งแรกแล้ว มือใหญ่จับมือของสาวผมบลอนด์ที่กำลังจะสะบัดไปที่ใบหน้าของบัวบุษยาเป็นครั้งที่สามเอาไว้แน่น ตวาดลั่นให้หยุดพฤติกรรมที่คล้ายกับคนไม่มีการศึกษานี้
“ไม่หยุด ฟาลด้าจะสั่งสอนมันให้รู้สึกนึกว่าอย่ามายุ่งกับของๆ ฟาลด้า ปล่อย...ฟาลด้าจะตบมันให้ฟันร่วงเลย” มือของมาฟาลด้าอีกข้างที่จิกผมของบัวบุษยาหาได้ปล่อยไม่ เธอกลับดึงจนอีกฝ่ายร้องด้วยความเจ็บปวด น้ำตานองหน้าด้วยความหวาดกลัว
“บอกให้หยุดไงเล่า ถ้าไม่หยุดอย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ” เขาตวาดอีกรอบให้เธอหยุดการกระทำของตัวเอง เพราะไม่อยากขึ้นชื่อว่ารังแกผู้หญิง แต่ถ้าไม่ยอมหยุดเจอดีแน่
“ไม่หยุด ฟาลด้าจะตบมัน จะตบมันให้ตายคามือเลย” สาวเสียงแหลมยังยืนกรานคำเดิม
“ถ้าเธอไม่หยุด ไม่ต้องมาคุยไม่ต้องพบเจอกันอีก งานหมั้นที่ทางผู้ใหญ่ตระเตรียมไว้ ฉันจะยกเลิกให้หมดเลย ไม่ต้องมงต้องหมั้นมันแล้ว” ได้ผลแบบทันตาเห็น มาฟาลด้าปล่อยมือที่จิกผมของบัวบุษยาออก สะบัดข้อมือที่ถูกมือใหญ่จับเอาไว้ เดินถอยหลังมาสองสามก้าวหากแต่ดวงตาสีฟ้าใสจ้องที่ดวงหน้าหวานของบัวบุษยานิ่ง แค้นเคือง ไม่พอใจ
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ฮือ” บัวบุษยาผลักร่างของแอนโตนิโอที่เข้ามาประคองร่างของเธออย่างแรง เขาข่มเหงเธอยังไม่พอ ยังสร้างความเจ็บปวดและอัปยศให้กับเธออีก เทรนเนอร์สาวไม่อาจสู้หน้าใครได้เธอวิ่งออกไปจากห้องนั้นทันที หนีความอับอายขายหน้าที่ตัวเองได้รับ
“เดี๋ยวก่อน อย่างเพิ่งไป เดี๋ยวก่อน” แอนโตนิโอร้องเรียกหญิงสาวร่างเล็กที่วิ่งออกไปจากห้อง กำลังจะก้าวเท้าวิ่งตามออกไป หากแต่ร่างของมาฟาลด้าเข้ามาขวางไว้เสียก่อน
“จะไปไหนนีโอ คุณไม่เคยวิ่งไล่ผู้หญิงบริการไม่ใช่เหรอ” คำถามที่มาพร้อมกับคำเตือนสติทำให้แอนโตนิโอชะงักเท้าที่จะก้าวเดินตามไป จริงสิคนอย่างเขาไม่จำเป็นต้องวิ่งตามบัวบุษยาเลย ไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด ผู้หญิงก็เปรียบเสมือนเสื้อผ้า เห็นมันสวยก็คว้ามาใส่พอเบื่อก็เขวี้ยงทิ้ง จากนั้นก็ควักเงินซื้อเสื้อต้วใหม่ แล้วทำไมเขาต้องวิ่งตามและแคร์ความรู้สึกของเทรนเนอร์คนนั้นด้วย
“เธอคนนั้นไม่ใช่หญิงบริการแต่เป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวให้ฉัน” เขาไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทำไมต้องแก้ต่างให้กับบัวบุษยา จะปล่อยให้มาฟาลด้าคิดแบบนั้นก็ได้ เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากให้ใครมามองหรือว่ากล่าวเทรนเนอร์ของเขาในทางที่ผิด มันทนไม่ได้
“เพิ่งรู้ว่าเทรนเนอร์ที่เมืองไทยเขาไม่ได้เพียงแต่ดูแลการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ดูแลเรื่องบนเตียงด้วย เทรนเนอร์ที่ไหนคะบอกฟาลด้าทีสิ จะได้แนะนำให้เพื่อนๆ ไปใช้บริการบ้าง” มาฟาลด้าพูดเย้ยหยันบัวบุษยาเต็มที่
เขาไม่ตอบหมุนกายกลับไปนั่งที่โซฟาตามเดิม แทนที่จะวิ่งตามบัวบุษยาไปเหมือนกับที่ใจคิดครั้งแรก มือใหญ่เผลอตัวลูบไล้ตรงจุดที่หญิงสาวชาวไทยเอนกายลงนอนเมื่อครู่ ความหวานละมุน ความซาบซ่านมันยังติดอยู่ที่เรียวปากของเขา แค่ได้สัมผัสท่อนบนเขายังกระหายในรสสวาทมากขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าทั้งได้กลืนกินทั้งตัวเขาจะมีความสุขมากแค่ไหน สงสัยร่างของเขาต้องลอยทะลุสวรรค์แน่นอน ยิ่งคิดจิตของเขายิ่งฟุ้งซ่าน ทำให้ไม่ได้ยินเสียงเรียกของมาฟาลด้าที่ตะโกนเรียกชื่อเขาหลายครั้ง
“นีโอ นีโอคะ”
“โอ้ย เรียกเบาๆ ก็ได้ยิน ไม่ต้องมาตะโกนใส่หูแบบนี้หรอก หูแตกกันพอดี” เขาเอ่ยบอกหญิงสาวพร้อมกับใช้นิ้วมือเคาะไปที่ส่วนรับฟัง
“ฟาลด้าเรียกนีโอตั้งนานแล้วนะ ใจลอยไปถึงไหนล่ะ หรือว่าลอยไปถึงผู้หญิงแคระนั่น” มาฟาลด้าเปรียบเปรยบัวบุษยาเป็นคนแคระ เนื่องจากความสูงของบัวบุษยาหากจะกะโดยประมาณก็ราวๆ คงจะประมาณ 160 เซนติเมตร น้อยกว่าเธอสิบห้าเซนติมเตร และน้อยกว่าแอนโตนิโอถึงสามสิบห้าเซนติเมตร เพราะฉะนั้นบัวบุษยาจึงเป็นคนแคระในสายตาของเธอนั่นเอง
“ช่างเถอะ อย่าพูดถึงคนอื่นเลย แล้วนี่ฟาลด้ามาที่นี่ได้ไงเนี่ย” เขาตัดบทเปลี่ยนเรื่องสนทนาทันที นับวันยิ่งเบื่อพฤติกรรมสาวนักตบคนนี้เต็มทน จะว่าไปบัวบุษยาไม่ใช่คนแรกที่มาฟาลด้าไปตามราวี หากเธอรู้ว่าเขาติดพันผู้หญิงคนไหน สาวผมบลอนด์คนนี้จะตามไปทำร้ายและข่มขู่ทุกครั้ง ทำตัวเป็นเจ้าของเขาอย่างนั้นแหละ
“ฟาลด้าไปหานีโอที่บ้าน เจอคุณป้าก็เลยรู้ว่านีโอมาเมืองไทย ฟาลด้าขอที่อยู่ของนีโอมาจากคุณป้า ฟาลด้าก็เลยมาหานีโอถูกไงคะ มาเมืองไทยทำไมไม่บอกฟาลด้าบ้างล่ะคะ” เธอเองก็เปลี่ยนโหมดอารมณ์ได้รวดเร็วทันใจเหมือนกัน เมื่อกี้ยังเป็นสาวขี้วีน ตอนนี้เป็นสาวขี้อ้อน ไม่เพียงปากที่บอกว่าคิดถึง ร่างกายสาวอวบอัดยิ่งกว่าแม่สาวร่างเล็กที่วิ่งออกไป โถมมาหาเขาทั้งตั้ง ริมฝีปากเคลือบสีแดงสดระดมจูบทั่วใบหน้าคมเข้ม ชายหนุ่มทำสีหน้าเซ็งเล็กน้อยแต่ก็ตอบรับจูบที่แสนจะไร้รสชาติของมาฟาลด้า เพลิงพิศวาสที่ยังคุกรุ่นในร่างกายกำยำของเขา กำลังถูกปลุกเร้าขึ้นมาอีกครั้งด้วยมือนุ่มของมาฟาลด้าที่ป่วนเปี้ยนอยู่บริเวณใจกลางร่างกายของเขา ชอบกางเกงวอร์มถูกร่นลงพร้อมกับกางเกงชั้นใน ความเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นชายจึงตกอยู่ในกำมือของเธอ จากนั้นริมฝีปากสีแดงสดทำหน้าที่แทนฝ่ามือ ปลุกกำหนัดของชายชาตินักรบในเกมกาม
มาฟาลด้าสาวหุ่นสะเทือนอารมณ์เริ่มบรรเลงเพลงรักด้วยตัวของเธอเอง โดยที่เขาแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย แม้ว่าจะรู้สึกเบื่อหน่ายในนิสัยแย่ๆ ของเธอมากเพียงใด หากแต่เรื่องบนเตียงของเธอนั้นอยู่ในระดับดีมาก ทำให้เขาพึงพอใจได้ทุกครั้ง แม้ว่าจะพอใจมากเพียงใดเขาก็ไม่คิดไปไกลถึงขั้นแต่งงานสร้างครอบครัว พอนึกถึงเรื่องแต่งงานรู้สึกหน่ายใจทุกครั้ง เขาเองไม่อาจปฏิเสธการแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ หากแต่เขาประวิงเวลาขอแค่หมั้นหมายเอาไว้ก่อน งานแต่งงานค่อยว่ากันอีกทีถ้าไม่ตกลงเขาก็ไม่แต่ง นี่เองที่เป็นสาเหตุให้มาฟาลด้ามีความหึงหวงเขาจนเกินพอดี อาละวาดหญิงอื่นไม่เลือกหน้า
ระหว่างที่มาฟาลด้ากำลังสร้างความกระสันอยู่บนร่างกายของเขานั้น ห้วงคำนึงเสี้ยววินาทีมีภาพของบัวบุษยาผุดขึ้นมาในสมอง มองเห็นใบหน้าของจ๊อกกี้สาวคนนี้เป็นเทรนเนอร์คนนั้น สงสัยจะอารมณ์ค้างอยู่แน่ๆ แอนโตนิโอคิดในใจ เขายังรู้สึกเสียหายบัวบุษยาเนื้อกวางหอมหวานที่ราชสีห์ร้ายอย่างเขาเพิ่งได้กัดแทะ แต่ยังไม่ได้กินเหลือเกิน กวางน้อยตัวนั้นก็หลุดมือเขาไปจนได้ ครั้งนี้ปล่อยไปก่อนแต่ครั้งหน้าเธอไม่รอดเขี้ยวเล็บของเขาแน่นอน ราชสีห์หมายมั่นในใจ