บท
ตั้งค่า

EPISODE 01

หลายเดือนก่อน

เวลาห้าทุ่มกว่าด้านหลังสถานที่ถ่ายทำละคร หญิงสาวแต่งตัวปกปิดมิดชิดเดินมาที่รถตู้สีดำจอดอยู่ในมุมมืดของตึกสูง

“เสี่ยมาด้วยไหม” เธอคืออลินดาราระดับแนวหน้า บุคคลที่เธอพูดด้วยคือผู้ชายสองคนที่หน้าตาคล้ายกัน เขาทั้งคู่เป็นคนสนิทของเสี่ยปอร์

“มาครับ” ธเนตรเปิดประตูรถให้ดาราสาว เขารู้ดีว่าเธอเป็นเด็กคนโปรดของเสี่ยปอร์ แทบจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เสี่ยโปรดปราน อลินเดินเข้ามานั่งในรถ เธอถอดเสื้อคลุมออก ถอดแว่นกันแดด ถอดหมวกแล้วหันมาส่งรอยยิ้มหวานให้คนที่นั่งข้าง ๆ

“เหนื่อยไหมคะ” ปกรณ์หรือเสี่ยปอร์ เขาถามหญิงสาวที่เพิ่งจะเลิกกองถ่าย เขารู้ว่าเธอเป็นคนตั้งใจทำงาน ทุ่มแรงกายทำงานที่ถูกว่าจ้างอย่างเต็มที่

“มากค่ะ ดูสิลินร้องไห้จนตาบวม” อลินเอ่ยอ้อน ใช่เธอมันเด็กขี้อ้อน อ้อนเขามาหลายปีแล้ว อ้อนให้เขาเอ็นดูเขาก็ขยันให้เธอดูเอ็นอยู่บ่อย ๆ

“ไหนคะ มองไม่เห็นเลย น้องลินขยับมาใกล้ ๆ ผมอีกนิดสิ” ไม่ใช่ว่ามองไม่เห็น แต่อยากแกล้งเพราะอลินของเขาน่าแกล้ง

ขยับใกล้ ๆ หมายถึงนั่งบนตักของเสี่ยไง ลินอยู่กับเสี่ยมานานจนรู้ใจ อลินไม่รอช้ารีบลุกมานั่งบนตักของเสี่ย นั่งเอียงข้าง แขนคล้องคอ ริมฝีปากกรีดยิ้มหวานให้เสี่ย

“น้องลินหอมที่สุด” เสี่ยปอร์ประทับริมฝีปากที่ไหล่มน มือใหญ่ยกขึ้นจับปลายคางเงยขึ้นสบตา “บวมจริงด้วย เดี๋ยวถึงบ้านผมหาของมาประคบให้นะคะ”

แต่ว่าตอนนี้เสี่ยขอรักษาเปลือกตาของลินด้วยจูบของเสี่ยก่อน

“ขอบคุณค่ะ” หลังจากที่เสี่ยจูบเปลือกตาอย่างแผ่วเบา อลินยิ้มหวานให้เสี่ยและเอนซบซอกคอ “ลินง่วงจังเลยค่ะ เมื่อเช้าลินตื่นตีสี่ กว่าจะเลิกกองก็ห้าทุ่มแล้ว”

“นอนนะคะน้องลิน เดี๋ยวผมส่งน้องลินถึงเตียงนอนเลย” มือข้างหนึ่งของเสี่ยปอร์เกาที่แผ่นหลังของลินอย่างคุ้นชิน เวลามีคนเกาให้แล้วหลับสบาย เสี่ยรู้ว่าอลินชอบก็จะทำแบบนี้ให้เสมอ เขาชอบมองเธอที่หลับพริ้ม

เสี่ยปอร์เป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตของอลินคนนี้ เมื่อหลายปีก่อนอลินขายความบริสุทธิ์ให้เสี่ยเพราะลูกชายของผู้มีพระคุณต้องการใช้เงินด่วน ทำให้อลินต้องหาทางช่วย ทางออกของดาราหน้าใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีงานป้อนให้จะมีวิธีอะไรได้นอกจากขายร่างกาย ซึ่งโชคดีที่มันบริสุทธิ์จึงขายได้เงินหลายล้าน เพียงพอต่อการช่วยชีวิตใครคนหนึ่ง

เช้าวันต่อมา อลินลุกจากที่นอนเพราะกลิ่นอาหารหอม ๆ ที่ปลุกเธอตื่นจากนิทรา

“หิวใช่ไหมคะ”

“เพราะกลิ่นมื้อเช้าของเสี่ยไงคะ”

“ก็วิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่ปลุกน้องลินจากการนอนได้ไงคะ” ไม่ใช่แค่ลินที่รู้ใจเสี่ย เสี่ยเองก็ใส่ใจเรื่องของลินทุกเรื่อง คิวงานของอลินเสี่ยรับรู้ทุกคิวไม่ว่าอลินจะรับงานอะไร

“ลินล้างหน้าแปรงฟันก่อนนะคะเสี่ย” ส่งยิ้มให้เสี่ยปอร์แล้วลุกเดินเข้ามาในห้องน้ำ รอยยิ้มบนใบหน้าเหือดหายเมื่ออยู่ในห้องน้ำเพียงลำพัง หวนนึกถึงเรื่องที่ผู้จัดการบอกไว้

‘พี่ได้ยินมาว่าเสี่ยจะแต่งงานนะลิน’

‘กับใครคะพี่มด’

‘เห็นว่าเป็นลูกคุณหนูตระกูลผู้ดี ทำหน้าแบบนี้ลินยังไม่รู้ใช่ไหม’

‘ไม่รู้ค่ะ เสี่ยไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย แหวนที่ว่าคงไม่ได้จะให้ลิน’

‘ถ้าไม่รู้ก็รู้ไว้ซะ เพราะเขากำลังจะไม่โสดและพี่ขอแนะนำว่าควรจบความสัมพันธ์ ถ้าหากเรื่องหลุดออกไปลินจะเสียหาย มีข่าวคาวมันไม่สนุกนะลิน ชื่อเสียงมีได้ก็ดับได้ ตัวอย่างมีให้เห็นมากมายเห็นไหม’

‘…’

‘พี่เตือนเพราะพี่รักลินนะ’

‘ลินรู้ค่ะพี่มด’

ถึงเวลาที่เราต้องจบกันจริง ๆ สักทีใช่ไหมคะเสี่ย ลินรักเสี่ยนะ เสี่ยดีกับลินมาก คอยช่วยเหลือลินตลอด เราถึงอยู่กันแบบนี้มานาน นานซะจนลินเข้าใจว่าเสี่ยมีแค่ลินที่สำคัญ ทว่าความจริงแล้วลินกลับไม่ใช่คนที่เสี่ยเลือกให้ยืนเคียงข้างไปตลอดชีวิต ความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างอธิบายยากมันควรจะจบแล้วสินะ

ครืด ครืด

“ครับ” เสี่ยปอร์รับสายคนที่โทรเข้ามาขัดเวลาความสุข เพราะเป็นเบอร์ที่ต้องรับ นั่นคือเหตุผลที่เสี่ยหัวเสีย

(ว่างไหมคะ อยากทานข้าวด้วย)

“ช่วงนี้ผมเคลียร์งานครับ”

(บริษัทไหนคะ อัญจะได้ไปทานข้าวด้วย ไปดูแลคุณด้วย)

“ผมอยู่ต่างจังหวัดครับ”

(ที่ไหนคะ อัญไปพบคุณได้ไหม)

“ผมไม่สะดวกครับ เอาไว้ผมว่างจะไปพบคุณนะ”

(ก็ได้ค่ะ)

“แค่นี้ก่อนนะครับ แล้วผมจะโทรหา” เสี่ยปอร์กดวางสายอัญชันว่าที่เจ้าสาวในเร็ววันของเขา

เสี่ยปอร์อายุ 36 ปีเพราะอายุที่เริ่มมากขึ้น ทำให้ตายายอยากจะอุ้มเหลน แต่งกับใครก็ได้ ขอแค่ให้หลานชายเลือกมาสักคน ไม่ใช่ทำตัวเป็นหนุ่มใหญ่โปรยเสน่ห์ไปทั่วแบบนี้ เมื่อตายายที่เคารพรักขอร้องมาหลายรอบบวกกับอายุที่ค่อนข้างมากขึ้นทุกวันเสี่ยจึงเลือกผู้หญิงที่เพียบพร้อมทั้งกายใจมาเป็นเจ้าสาว ซึ่งคนที่เหมาะสมสำหรับเสี่ยไม่ใช่อลินผู้หญิงที่ซื้อได้ด้วยเศษเงิน

“อร่อยมากค่ะเสี่ย” อลินส่งยิ้มให้เสี่ย เสี่ยเดินกลับมาจากระเบียงห้อง เสี่ยออกไปรับโทรศัพท์ คงเป็นสายสำคัญไม่อย่างนั้นเสี่ยจะไม่รับเพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา เสี่ยจะตัดเรื่องงานทุกอย่างเวลาที่อยู่กับอลิน

“อร่อยก็ทานเยอะ ๆ นะคะ” เสี่ยเดินมานั่งข้าง ๆ ยกมือขึ้นลูบหัวอย่างเอ็นดู เสี่ยรักลินนะ คำนี้ไม่เคยพูดออกไปสักครั้ง เพราะว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน

อลินเป็นแค่คู่นอนคนหนึ่งเท่านั้น

“ลินอยากอยู่กับเสี่ยนาน ๆ จังเลยค่ะ”

“ก็อยู่สิคะ ผมซื้อเวลาของน้องลินเพิ่มได้”

ลินหมายถึงจากนี้และตลอดไปต่างหาก แหวนที่เสี่ยไปเลือกวันนั้นที่ลินบังเอิญเห็น เสี่ยเลือกให้เจ้าสาวตัวจริง ส่วนลินทึกทักไปเองว่าเสี่ยจะให้ แอบดีใจอยู่ตั้งนาน แต่ความจริงแล้วเป็นการดีใจเก้อ น่าขายหน้า กล้าแอบคาดหวังความชัดเจนจากเสี่ยทั้งที่ตัวลินก็ไม่เคยชัดเจนกับเสี่ย “ซื้อไม่ได้ค่ะเสี่ย พี่มดเพิ่งแจ้งมาว่าลินมีงานสำคัญในวันพรุ่งนี้ พี่มดเห็นว่างานสำคัญจึงแทรกคิววันว่าง คือว่าลินจะพลาดงานนี้ไม่ได้ มันเป็นงาน…”

“โอเค ผมเข้าใจแล้ว งั้นวันนี้เราทำอะไรกันดี”

“ตามใจเสี่ยเลยค่ะ” เพราะหลังจากที่ลินเดินออกไปในวันพรุ่งนี้ ลินกับเสี่ยจะจบกัน ลินจะไม่เป็นบ้านเล็กบ้านน้อย

“อืม งั้นเรานอนกอดกันทั้งวันดีไหม ผมคิดถึงน้องลิน”

“ได้สิคะ ลินก็คิดถึงเสี่ย อยากกอดมากค่ะ”

เวลาอยู่ด้วยกันก็จะอยู่ที่บ้านตลอด ชอปปิงก็ออนไลน์ อยากได้อะไรเสี่ยจ่ายให้เสมอ ให้เดินควงเสี่ยปอร์ออกไปข้างนอกเท่ากับลินทิ้งอนาคตตัวเอง และยังผิดกฎกับเสี่ย ข้อที่ห้ามคนอื่นรู้ความสัมพันธ์ของเรา

ก็เลยอยู่ด้วยกันในห้อง ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม กินข้าว มีเซ็กซ์ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเป็นแบบนี้เสมอลินเรียกมันว่าความสุข หลอกตัวเองมาตลอดว่าเป็นความสุขที่แท้จริง ทว่าเพิ่งตาสว่างได้รู้ว่ามันเป็นความสุขจอมปลอม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel