ตอนที่ 5
ดิวกลับมาถึงบ้านก็เข้าครัวจัดเตรียมอาหารทันที ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจนมืดค่ำหลังจากที่ดิวได้ออกไปทำงานกลับมา
“ดูท่าจะอร่อยกว่าทุกวัน” สมคิดยิ้มอย่างมีความสุขพลางกวาดบ้านไปด้วย
“อร่อยอยู่แล้วครับ” เเขาตอบ
ชายหนุ่มทำอาหารจานโปรดมาทั้งที เขายกอาหารวางบนโต๊ะกินข้าวก่อนจะหันมาเรียกผู้เป็นพ่อ
“ผมกวาดให้ดีกว่า ป๊าไปนั่งรอที่โต๊ะนะ”’
“โอ้ย!” สมคิดกุมท้องเอาไว้พร้อมกับร้องโหยหวนอย่างทนไม่ไหว ชายวัยกลางคนทรุดลงนอนกลิ้งกับพื้นจนตัวงอ
“ป๊า ปะ…ปวดท้องเหรอ” ดิวรีบวิ่งเข้าไปดูอาการป๊า ช่วงนี้สมคิดปวดท้องบ่อยเข้าทุกที ชายหนุ่มคิดว่าพรุ่งนี้คงจะต้องพาไปหาหมอเพื่อตรวจดูก่อน
“ปวดมากลูก โอ้ยยย~”
“อดทนไว้นะป๊า! ผมจะโทรเรียกรถเดี๋ยวนี้”
“อืม ป๊าไหว” สมคิดใบหน้าซีดเผือกเอ่ยน้ำเสียงแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยินทำให้ดิวร้อนใจมาก เขาสั่นไปหมดทั้งตัว
“เป็นยังไงบ้าง!” ดิวตาแดงก่ำหลังจากโทรเรียกรถฉุกเฉินเสร็จก็รีบมาดูอาการป๊า เขาเอามือจับบริเวณที่สมคิดเจ็บปวดราวกับว่ามันจะช่วยแบ่งเบา
“ปวดท้อง ปวดหลัง มาก…” น้ำเสียงแผ่วเบาตอบและหลับตาปี๋
“รถจะมาแล้วอดทนไว้นะป๊า”
สมคิดเป็นภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องโป่งพอง ครั้งล่าสุดที่ไปตรวจขนาดของ AAA เพียงแค่ 5.3 เซ็นติเมตรเท่านั้น หมอนัดให้เขาพาสมคิดไปติดตามอาการทุก 6 เดือนเพราะมีความเสี่ยงสูงว่าหลอดเลือด AAA จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนจะต้องเข้ารับการผ่าตัด พอเขาคิดถึงเรื่องนี้แล้วดิวก็ใจหายวาบขึ้นมาทันที
โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ชายหนุ่มนั่งรอสมคิดที่หน้าห้องตรวจอย่างใจจดจ่อ ด้วยความที่เป็นห่วงพ่อทำให้เขานั่งไม่ติดขยับไปมา
“ป๊าเป็นยังไงบ้างครับ” เขาลุกขึ้นพรวดพราดเข้าไปหานายแพทย์ที่กำลังเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน
“เราไปคุยกันที่ห้องเถอะครับ ระหว่างที่รอเวรเปลย้ายคนไข้”
ดิวมองนายแพทย์ด้วยแววตาไม่สู้ดีนัก พลางเดินตามหมอไปยังห้องตรวจประจำตัวของหมอ
“คุณสมคิดต้องผ่าตัดด่วนนะครับ”
“…” ใบหน้าคมมองนายแพทย์นิ่ง เหมือนโลกทั้งใบของเขาหยุดหมุนไปกะทันหัน เขาพยายามตั้งสติขณะที่ฟังหมดพูด
“ขนาด AAA ของคนไข้ขยายใหญ่ขึ้นถึง 5.6 เซ็นติเมตรถ้าปล่อยไว้คนไข้มีโอกาสจะเสียชีวิตได้ เราจะต้องรีบผ่าก่อนที่มันจะแตก” ดิวรับฟังพลางเช็ดน้ำตาคลอ
“ไหนบอกว่ามีเวลาถึงปีหน้าล่ะครับหมอ ทำไมมันถึงใหญ่ขึ้นขนาดนั้น” เขาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“เราไม่สามารถบอกได้ว่า AAA จะขยายขึ้นมากน้อยแค่ไหน เพียงแต่ว่าคุณสมคิดอาการปกติมาตลอด มาตรวจกี่รอบก็มีขนาดไม่ใหญ่มาก คนไข้ความดันขึ้นหรือแอบสูบบุหรี่หรือเปล่าครับ”
“ไม่มีครับ”
“ให้หมอเตรียมห้องผ่าตัดเลยไหม”
“รออีกสักนิดได้ไหมครับหมอ”
เหตุผลที่ดิวดิ้นรนหาเงินมาตลอดก็เพราะว่าสมคิดจะต้องผ่าตัดในสักวัน เขาจึงหารายได้เสริมและสะสมเงินเก็บอย่างอดทนมาโดยตลอด ทว่าค่าผ่าตัดมันไม่ใช่แต่พันสองพัน
ข้างหน้าของเขาคือจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงให้เห็นก้อนเลือดชัดเจนจากการตรวจ CT Scan นายแพทย์จึงชี้จุดให้ดูและอธิบายอย่างละเอียด
“รอไม่ได้แล้วครับ ถ้า AAA แตกคนไข้จะเสียชีวิตทันที การผ่าตัดคือทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้”
“ผ่าเสร็จแล้วจะต้องทำอะไรอีกไหมครับ”
“ไม่ต้องแล้วครับ คนไข้จะใช้ชีวิตได้ปกติไม่กลับมาเป็นซ้ำแล้ว หมออยากให้คุณสมคิดรอดนะครับ ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้หมอก็ช่วยไม่ได้แล้ว”
“ครับ ผ่าครับ” ดิวตอบอย่างไม่มีทางเลือก เขาปาดน้ำตาออกก่อนจะเห็นพยาบาลส่งเอกสารให้
“เดี๋ยวทำสัญญากันก่อนนะคะ”
นายแพทย์ยิ้มรับก่อนจะรีบลุกขึ้นจากที่นั่ง ดิวจึงก้มพยักหน้าเบา ๆ แทนคำพูดใด ๆ เขาหวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปอย่างราบลื่น
“เตรียมห้องผ่าตัดครับ”
ฝั่งของดิวที่ขอให้พยาบาลรอสักครู่ เขาออกมาเข้าห้องน้ำพลางล้างหน้าให้ตัวเองมีสติ จำนวนเงินในการผ่าตัดมูลค่า 900,000 ต่อให้เขาจะทำงานทั้งปีก็มีไม่ถึง
“ทำยังไงดี” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง
เขามีเงินติดตัวไม่ถึงหลักหมื่นด้วยซ้ำไป มือหนามองนามบัตรเจ้านายเก่าของพ่ออย่างคิดสงสัยก่อนจะกดโทรออกด้วยความร้อนรน
(สวัสดีครับ ผมนพพูดสายครับ)
“ผมดิวลูกชายของคุณสมคิดนะครับ ขอสาย…คุณชัชวาลครับ”
(มีเรื่องติดต่ออะไรสำคัญไหมครับ ฝากเรื่องไว้ที่ผมได้)
“ฝากไม่ได้ครับ เรื่องสอนพิเศษให้พีชหาคนได้หรือยังครับ”
(เรื่องนี้นี่เอง เข้ามารายละเอียดคุยกันที่บ้านได้ไหมครับ)
“มะ ไม่” ชายหนุ่มตอบเสียงสั่น เขาต้องคุยกับชัชวาลเดี๋ยวนี้เท่านั้น!
ปลายสายเงียบไปสักพักก่อนที่จะได้ยินเสียงทุ้มอย่างมีอำนาจของใครอีกคน (ฮัลโหล ดิวเหรอ)
“สวัสดีครับคุณลุง เรื่องสอนพิเศษผมตกลงก็ได้ครับแต่ผมอยากจะให้ช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหมครับ” เขาเสนออย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะถ้าชัชวาลไม่ตกลงดิวก็ไม่รู้จะไปหาเงินมาจากไหน
(ว่ามาสิ อยากได้อะไร)
“ไม่ต้องจ่ายค่าเทอมให้ผม ผมยินดีสอนจนกว่าพีชจะสอบติดมหาวิทยาลัยได้แลกกับค่ารักษาให้ป๊าแทนได้ไหมครับ”
(สมคิดเหรอ เท่าไหร่)
“ตอนนี้ป๊ากำลังจะผ่าตัด…”
(ได้! เรื่องนั้นฉันรับปาก ตอนนี้สมคิดอยู่ไหน)
ดิวยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรต่อคุณชัชวาลก็รับปากเสียแล้ว ชายหนุ่มยิ้มอ่อนเล็กน้อยด้วยความโล่งใจก่อนจะเล่าให้ชัชวาลฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่นานเขาก็ส่งนพมาที่โรงพยาบาล
