7 เด็กฝึกงาน
“โอ๊ย เอกสารตั้งเยอะตั้งแยะใครมันจะอ่านหมดนั่นล่ะนายดิน นี่นายกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม” เอลินอร์โวยวายเมื่อเห็นกองเอกสารบนโต๊ะทำงานที่ปฐพีบอกกับเธอว่าต้องอ่านและทำความเข้าใจทุกอย่างในนั้นแล้วสรุปมาให้เขาฟังอีกที
“ผมจะแกล้งคุณหนูทำไม่ละครับ นี่ผมเลือกแต่ที่จำเป็นเท่านั้นเองนะครับ” ปฐพีพูดไปตามความจริง
“แล้วนายให้เวลาฉันเท่าไหร่ล่ะ”
“คนเก่งอย่างคุณหนูคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ล่ะครับ” เขารู้นิสัยของเอลินอร์ดีว่าเป็นคนชอบความท้าทาย
“สองอาทิตย์ได้ไหมมันเยอะมากเลยนะ”
“นานไปครับ ผมให้แค่อาทิตย์เดียวครับ” เขาทำเป็นต่อรอง
“มันโหดไปหน่อยเหรอ ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันชอบออกแบบมากกว่า ขอย้ายไปฝ่ายออกแบบได้ไหม”
“คุณหนูต้องเรียนรู้งานทุกฝ่ายอยู่แล้วครับ”
“ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาเรียนรู้เรื่องพวกนี้ ในเมื่อพ่อและนายก็ช่วยกันบริหารได้ดีอยู่แล้ว” เธอไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นเพราะคิดว่ายังไงเขาและบิดาก็ช่วยกันบริหารบริษัทได้ดีอยู่แล้ว
“เพราะคุณหนูเป็นเจ้าของที่นี่ไงครับ ก็เลยต้องเรียนรู้ทุกอย่าง ลูกน้องเขาจะได้มั่นใจว่าคุณหนูมีความสามารถและรู้เรื่องทุกอย่างในบริษัทจริง ไม่ใช่ได้ตำแหน่งรองประธานมาเพราะเป็นลูกสาวของคุณเอกภพ”
“แต่ฉันไม่อยากได้ตำแหน่งนั้น นายรับไปสิ พ่อรักนายจะตาย เอาไหมฉันจะบอกพ่อให้”
“ผมไม่ใช่สายเลือดของท่านครับ ที่ผมทำทุกวันนี้ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ท่านส่งให้ผมเรียนจนจบ ถ้าคุณหนูไม่ชอบบริษัทนี้ คุณหนูจะเปลี่ยนกับคุณอลันก็ได้นะครับ”
“จะบ้าเหรอเรื่องพวกนั้นไม่เคยอยู่ในหัวฉันเลยสักนิด ขืนฉันไปทำงานบริษัทคุณพ่อคงได้เจ๊งกันพอดี” เพราะอลันพี่ชายของเธอนั้นดูแลบริษัทอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเรื่องพวกนั้นเอลินอร์ไม่เข้าใจเลย
“ผมรู้ว่าคุณหนูชอบออกแบบและผลงานของคุณหนูที่ส่งทางมหาวิทยาลัยก็ดีทุกชิ้น เอาอย่างนี้นะครับ ถ้าคุณอ่านพวกนั้นได้ครึ่งหนึ่งแล้วมาสรุปให้ผมฟัง ผมจะให้คุณพักสมองด้วยการออกแบบดีไหม”
“จริงเหรอ” หญิงสาวมีความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด เธอยิ้มกว้างมาทางชายหนุ่มด้วยแววตาเป็นประกาย ที่คนมองแล้วรู้สึกหัวใจวูบไหว แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้เพราะเธอคือลูกสาวของผู้มีพระคุณ
“จริงสิ เรากำลังอยากได้เครื่องประดับสำหรับผู้หญิงวัยทำงานที่ราคาไม่สูงมาก เอาแบบที่ทุกคนจับต้องได้ แต่จะเน้นขายเป็นจำนวนเยอะ ผมว่าคุณคงทำได้ไม่ยากจริงไหมครับ”
“แน่นอน เอาล่ะนายอย่ากวนฉันนะ ฉันจะตั้งใจอ่าน”
“ตามสบายเลยครับ” ปฐพีถึงกับโล่งใจที่เธอยอมอ่านเอกสารพวกนั้น
ตลอดทั้งช่วงเช้าเอลินอร์ให้ความสนใจกับการศึกษาข้อมูลของบริษัทมากกว่าที่เขาคิดไว้มาก หญิงสาวถามข้อมูลที่ไม่เข้าใจกับเขาเป็นระยะซึ่งเขาก็ตอบคำถามของเธอด้วยความเต็มใจจนกระทั่งใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวัน
“กลางวันนี้คุณหนูจะทานอาหารกับท่านประธานไหมครับ ผมจะได้บอกคุณแขไขจัดเพิ่มให้”
“แล้วนายไปกินกับคุณพ่อด้วยหรือเปล่า”
“เปล่าครับ ปกติผมจะออกไปทานที่ร้านข้างๆ บริษัทหรือไม่ก็ฝากคุณแขซื้อมาแล้วไปทานที่ห้องพักเบรก”
“ฉันไม่อยากรบกวนคุณพ่อ งั้นฉันไปกินกับนายได้ไหมกินเสร็จจะได้รีบกลับมาทำงาน”
“คุณหนูหิวหรือยังครับ”
“ยังไม่หิวเลย นายล่ะ”
“ปกติแล้วผมจะลงไปเวลาเที่ยงครึ่งเพราะคนอื่นเริ่มจะทานกันอิ่มแล้วจะได้ไม่ต้องรอนาน แต่ถ้าคุณหิวก็ไปเที่ยงตรงก็ได้ อยากจะทานอะไรร้านไหนคุณเลือกมาเลยจะได้โทรสั่งไว้ก่อน”
ปฐพีส่งรายชื่อร้านอาหารและเมนูอาหารที่แขไขเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เมื่องานให้กับเอลินอร์เป็นคนเลือก
“ฉันอยากกินขนมจีน ไม่ได้กินนานแล้ว แต่ถ้าไปเที่ยงก็กลัวคนเยอะ ร้านมันอยู่ไกลมากไหม ฉันกลัวกลับมาไม่ทันบ่ายโมง” เพราะอ่านระเบียบของพนักงานไปแล้วเอลินอร์จึงรู้ว่าที่นี่ทุกคนต้องเข้างานตรงเวลาถึงแม้จะเป็นลูกสาวท่านประธานแต่เธอเพิ่งมาทำงานวันแรกก็ไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเป็นเด็กเส้น
“ถ้าเราออกไปทานตอนเที่ยงครึ่งก็เข้างานบ่ายโมงครึ่งครับ ทุกคนมีเวลาพักเท่ากัน”
“งั้นฉันไปกินขนมจีนนะ นายโทรสั่งให้ได้ไหม ฉันสั่งไม่ถูก เอาน้ำยาที่มันสีส้มๆ อ้อ ถ้าเขามีแกงเขียวหวานก็เอาด้วย”
“ครับ”
13.05 น.
“นายนี่ท่าทางจะแฟนคลับเยอะไม่เบาเลยนะ เดินไปไหนก็มีแต่คนทักทาย” เพราะตั้งแต่ร้านอาหารจนเดินกลับเขามาก็มีแต่คนทักทายปฐพีจนเอลินอร์รู้สึกหมั่นไส้
“เขาก็ทักทายตามมารยาท ผมทำงานที่นี่มานานก็ต้องรู้จักคนเยอะเป็นธรรมดาครับ ถ้าคุณหนูทำงานที่นี่ไปอีกสักพักก็จะมีคนรู้จักเยอะแบบผมนี่แหละครับ พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปแนะนำให้ทุกคนรู้จัก”
“ทำไมฉันจะต้องไปรู้จักพวกเขาด้วยละ” เอลินอร์พูดอย่างถือตัว
“ที่มหาวิทยาลัยเขาไม่สอนเรื่องการบริหารคนเหรอครับแต่ผมว่ามหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงขนาดนั้นคงไม่พลาดกับเรื่องนี้ อาจจะเป็นที่คุณหนูไม่ตั้งใจเรียนมากกว่า”
“นี่นายดิน พอเลยนะ หยุดว่าฉันได้แล้ว ฉันรู้หรอกน่าจะต้องวางตัวยังไง ฉันก็แค่ลองพูดแบบเมื่อกี้ดู ฉันจะได้รู้ด้วยไงว่านายน่ะ เข้าใจเรื่องพวกนี้มากแค่ไหน” เอลินอร์แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ
“ครับ” ปฐพีไม่เถียงต่อเพราะมีงานต้องทำ ตลอดบ่ายห้องก็เลยอยู่ในความสงบเงียบจนกระทั่งคุณแขไขเอากาแฟและของว่างเข้ามาให้
“คุณเอลินอร์คะ แขไม่รู้ว่าคุณทานกาแฟแบบไหนก็เลยชงเป็นกาแฟดำมาให้ก่อน ส่วนครีมกับน้ำตาลคุณเติมเองนะคะ แล้วครั้งหน้าแขจะทำตามที่คุณชอบทานค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ คุณแขเรียกแอลก็พอค่ะ ไม่ต้องเรียกชื่อจริงก็ได้ ปกติแล้วตอนบ่ายแอลชอบคาปูชิโน่คะหวานน้อยค่ะ แอลไม่ชอบกาแฟร้อน”
“เดี๋ยวแขให้เด็กไปซื้อให้นะคะ”
“ไม่ต้องหรอกครับคุณแข เดี๋ยวผมจัดการเอง” ปฐพีรีบบอกด้วยความเกรงใจ เขารู้ว่าแขไขนั้นมีงานที่ต้องรับผิดชอบมากมายอยู่แล้วจึงไม่อยากจะรบกวนเธอ
“ค่ะ งั้นแขไปนะคะถ้ามีอะไรคุณแอลเรียกแขได้ตลอดเลยนะคะ” แขไขพูดจบก็เดินออกจากห้องทำงานไป
“ฉันเอาคาปูชิโน่หวานน้อยนะนายดิน” เอลินอร์รีบบอกเพราะคิดว่าเขาจะเป็นคนไปซื้อให้
“บอกผมทำไมครับคุณหนู”
“ก็นายบอกคุณแขว่าจะจัดการเอง”
“ผมหมายถึงให้คุณลงไปซื้อเอง แค่ชั้นล่างตึกนี่เอง”
“นานดิน นายแกล้งฉันอีกแล้วนะ”
“ผมจะแกล้งคุณหนูทำไมครับ คุณแขเขาก็มีงานของเขา คุณจะใช้เขาไปซื้อกาแฟได้ยังไง”
“เขาใช้ลูกน้องเขาอีกที่ก็ได้ หรือให้แม่บ้านไปซื้อก็ได้”
“ทุกคนมีงานครับถ้าคุณอยากกินกาแฟก็ลงไปซื้อเอง”
“นายดิน นายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม” เมื่อโหมดวีนไม่ได้ผลเอลินอร์ก็เปลี่ยนมาพูดดีๆ
“ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณก็ได้ แต่มีข้อแม้”
“ข้อแม้อะไรอีก ทำไม่อยู่กับนายนี่ข้อแม้ถึงเยอะจัง”
“ก็ระหว่างทางเราต้องผ่านหลายแผนกเพราะฉะนั้นผมจะพาคุณไปแนะนำให้ทุกคนรู้จักทั้งขาไปแล้วขากลับคุณหนูยอมไหมล่ะครับ”
“ไหนว่าจะไปพรุ่งนี้ไง”
“งั้นคุณหนูก็ค่อยกินกาแฟพรุ่งนี้แล้วกันนะครับ” พูดจบเขาก็ก้มหน้าทำงานต่อ
“ไปก็ได้ นายนี่มันเจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกินเลย” เอลินอร์หน้าบูดบึ้งขณะที่เดินตามปฐพีออกมาจากห้องทำงาน แต่พอเจอกับคนอื่นเธอก็ยิ้มแย้มทักทายอย่างเต็มใจ กว่าจะมาถึงร้านกาแฟหญิงสาวก็ต้องฉีกยิ้มจนเมื่อยหน้า
“นายจะกินอะไรสั่งสิ ฉันเลี้ยง”
“ผมกินกาแฟดำไปแล้ว ขืนกินกับคุณอีกคืนนี้ก็ไม่ต้องนอนกันพอดี”
“งั้นกินเค้กไหม ฉันว่าน่ากินดีนะ”
“ไม่ล่ะ ผมไม่ค่อยชอบกินของหวาน”
“อย่ามามั่วพี่อลันบอกฉันว่าเค้กที่ฉันหัดทำนายกินคนเดียว”
“ก็นั้นมันเป็นเค้กที่คุณหนูทำ”
“มันจะต่างกันยังไงนี่ก็เค้กเหมือนกัน”
“ต่างกันที่คนทำไงครับ ถ้าเค้กที่คุณหนูทำแล้วผมกินไม่หมด ผมก็ไม่รู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง”
ปฐพีรู้ฤทธิ์เดชของเอลินอร์เป็นอย่างดี ครั้งหนึ่งเธอปิดเทอมแล้วกลับมาที่บ้านและบังเอิญว่าเขาก็ปิดเทอมจึงกลับมาที่บ้าน หญิงสาวกำลังทำขนมอะไรสักอย่างแล้วยื่นให้เขาชิม แต่เขาไม่รับเพราะตอนนั้นมือเปื้อนอยู่ คุณหนูเอลินอร์ก็เลยเอาขนมนั้นขว้างใส่หน้าเขาจนเละไม่มีชิ้นดี
“นายกลัวฉันเอาเค้กป้ายหน้านายเหรอ ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอก”
“เพราะอะไรล่ะครับ”
“เพราะฉันเข้าหอชายไม่ได้ยังไงล่ะ”
พูดจบเอลินอร์ก็หัวเราะเพราะนึกภาพชายหนุ่มที่มีครีมสีขาวอยู่เต็มหน้าแล้วเธอก็อดขำไม่ได้
“ผมนั่งรอตรงนู้นนะ คุณหนูสั่งเสร็จก็ตามมา”
“อือ ไปนั้นรอก่อนเลย”
พอปฐพีไปนั่งรอแล้วหญิงสาวก็สั่งกาแฟของตนเองกับเค้ก และคุกกี้กับนมชมพูเพราะอยากจะแกล้งให้เขาอายคนอื่นที่กินเครื่องดื่มสีหวานขัดกับหน้าตา