6 เพื่อนแท้หรือเพื่อนเที่ยว
ปฐพีมาที่บ้านเอกประดิษฐ์มณีตั้งแต่เพื่อเอากระเป๋ามาคืนเอลินอร์แต่เจ้าของกระเป๋าคงจะยังไม่รู้ตัวว่าลืมไว้บนรถเขา
“อ้าว ดินมากินข้าวด้วยกันก่อนสิ”
“ครับคุณลง”
“ได้ยินว่าเมื่อคืนไปเที่ยวเจอกับยัยแอลเหรอถึงได้พามาส่งบ้าน” เอกภพรู้จากภรรยาเมื่อเช้าว่าคนที่มาส่งลูกสาวของตนถึงในบ้านนั้นคือปฐพี
“ครับคุณลุง”
“ลูกลุงไปทำอะไรให้ดินเดือดร้อนหรือเปล่า”
“เปล่าครับเธอก็แค่เที่ยวตามประสาวัยรุ่นครับ”
“ยังไงลุงก็ฝากด้วยนะ ตอนนี้อลันก็มีครอบครัวไปแล้วเหลือแต่ดินนี่แหละที่พอจะช่วยลุงดูแลเธอได้”
ถึงแม้ลูกสาวของตนเองจะอายุ 24 ปีแล้วแต่ในสายตาขอผู้เป็นบิดาก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่
“ครับคุณลุง แล้ววันนี้คุณหนูจะไม่ลงมาทานอาหารเช้ากับเราเหรอครับ”
“เช้าขนาดนี่ยัยแอลยังไม่ตื่นหรอกจ้ะดิน” คนที่ตอบคำถามของชายหนุ่มก็คือคุณแอนเดรียที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านหลังใหญ่
“ครับ”
“ดินมีอะไรกับยัยแอลหรือเปล่า”
“พอดีคุณหนูลืมกระเป๋าถือไว้ในรถ ผมเลยจะเอามาคืนเธอครับคุณป้า”
“ขอบใจจ้ะ ดินฝากไว้ที่ป้าก่อนก็ได้นะ ถ้ารอให้ยัยแอลก็คงบ่ายนู่นแหละกว่าจะตื่น”
“ครับ”
“ยังไงวันนี้คุณก็ดูลูกหน่อยนะ พรุ่งนี้จะต้องไปทำงานตั้งแต่เช้า ถ้าคืนนี้อย่าให้เขาออกไปเที่ยว” เอกภพสั่งภรรยาเพราะเขาคงจะรอให้ลูกสาวตื่นไม่ไหว
“ค่ะ เดียวฉันจะบอกยัยแอลให้ แต่ตอนนี้เรารีบทานข้าวกันเถอะ คุณกับดินจะได้รีบไปทำงาน” แอนเดรียไม่อยากให้สามีต้องอารมณ์ขุ่นมัวเพราะลูกสาวก่อนไปทำงาน
“วันนี้ดินขับรถให้คุณเอกได้ไหม พอดีตอนบ่ายป้าจะให้ลุงสมานช่วยขับรถให้หน่อย”
“ได้ครับ ตอนเย็นคุณป้าไม่ต้องให้ลุงสมานไปรับนะครับ เดี๋ยวผมมาส่งคุณลุงเอง”
ขอบใจมากนะ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ก็ทานข้าวที่นี่เลยละกันนะ”
“ขอบคุณครับ” เพราะอยากจะเจอเอลินอร์อีกสักครั้งเขาเลยรับปากอย่างง่ายดาย
20.00 น. บ้านเอกประดิษฐ์มณี
“คุณหนูตรวจของในกระเป๋าหรือยังครับว่าของครบไหม”
“ทำไม นายแอบขโมยอะไรออกไปจากกระเป๋าฉันเหรอ”
“เปล่าครับ ผมก็แค่อยากให้คุณหนูตรวจดูให้ดีก่อนว่ามีอะไรหายไปหรือเปล่า เกินคุณหนูมาโวยวายทีหลังผมจะซวยเอานะครับ”
พอเขาพูดจบเอลินอร์ก็เปิดกระเป๋าถือแล้วเทข้าวของทั้งหมดลงบนโต๊ะ การกระทำของเธอไม่เหมือนกันคนที่ซ่อนอะไรไว้ในนั้นเลยสักนิด
“ครบไหมครับ”
“ก็ไม่มีอะไรหายนี่ กระเป๋าตัง แป้ง ลิปสติก กระดาษซับมันโทรศัพท์ก็มีแค่นี้ เดี๋ยวนะฉันของเช็กดูก่อนว่านายใช้ลิปสติกของฉันไปหรือเปล่า”
“แอล” คุณเอกภพทำเสียงดุทำให้เอลินอร์ต้องชะงักมือจากนั้นก็เก็บของทุกอย่างลงกระเป๋าอย่างเดิม
“ถ้าของทุกอย่างครบ งั้นผมก็ขอตัวกลับก่อน ผมลานะครับคุณลุงคุณป้า” ชายหนุ่มกล่าวลาก่อนจะยกมือไหว้
“เดี๋ยวสินายดิน”
“ครับ”
“พรุ่งนี้ฉันจะขับรถให้คุณพ่อเองนายไม่ต้องมารับนะ”
“ได้ครับคุณหนู”
“แอล หนูยังขับไม่ค่อยคุ้นกับเส้นทางเลยนะ” แอนเดียเป็นห่วงลูกสาว
“แม่คะ ถ้าไม่ให้แอลขับตอนนี้แล้วเมื่อไหร่แอลจะขับรถไปทำงานเองได้ล่ะคะ”
“เอาอย่างนี้ดีไหมครับ พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณลุงกับคุณหนูไปทำงานก่อน ผมจะบอกทางให้คุณหนูเองทั้งทางตรงและทางลัดในช่วงเวลาเร่งด่วน อาทิตย์หน้าคุณหนูค่อยขับไปทำงานเอง” ปฐพีเสนอเพราะถ้าให้เธอขับรถไปทำงานก็คงได้ถึงบริษัทไม่ทันเวลาเข้างานอย่างแน่นอน
“ตกลงตามนั้นจ้ะดิน ป้าขอบใจมากนะ”
เอลินอร์ยอมรับโดยที่ไม่ได้โต้แย้งอะไรเพราะเธอก็ไม่ชำนาญเท่าไหร่อย่างที่เขาพูดจริงๆ
ปฐพีออกจากบ้านหลังใหญ่ แต่เขาไม่ได้กลับที่คอนโดของตนเองเพราะมีเรื่องที่ต้องจัดการเกี่ยวกับซองที่เขาเจอในกระเป๋าของเอลินอร์เมื่อคืน
ชายหนุ่มขับรถมาหาเพื่อนที่บ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของตนเองมากนัก
“เท่าที่ดูด้วยตาก็น่าจะใช่อย่างที่นายคิดนั่นแหละ น้ำหนักรวมก็คงประมาณ 3 กรัม จำคุกสี่ปีถึงตลอดชีวิตเลยนะ นายไปเอาของพวกนี้มาจากไหน”
“ฉันเจอมันในกระเป๋าคนรู้จัก”
“แล้วนายเอาของเขามาแบบนี้เขายอมเหรอ”
“เหมือนเจ้าของกระเป๋าจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ามีของพวกนี้อยู่”
“เขาจะไม่รู้ได้ยังไง เขาแกล้งไม่รู้หรือเปล่าว่าของหายไป”
“ฉันแน่ใจว่าเธอไม่รู้”
“ผู้หญิงเหรอ”
“อือ”
“แฟนนายเหรอ”
“ไม่ใช่แฟน นายจำน้องสาวอลันได้ไหมล่ะ
“จำได้ว่าอลันมีน้องสาว แต่ไม่เคยเจอ อย่าบอกนะว่าเอามาจากนะเป๋าของเธอ”
“อือ”
ปฐพีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่โรงพักและเรื่องที่เขาเจอซองพวกนี้ในกระเป๋าของเอลินอร์รวมถึงปฏิกิริยาที่เธอแสดงออกตอนเขาถามถึงของในกระเป๋าให้กับเพื่อนรักที่ตอนนี้เป็นถึงรองผู้กำกับสถานีตำรวจที่เข้าไปประกันตัวเอลินอร์เมื่อคืน
“นายยังไม่จับด้วยมือเปล่าใช่ไหม”
“อือ”
“งั้นฉันว่าลองตรวจหาลายนิ้วมือก่อน ตัวอย่างลายนิ้วมือของเธอกับเพื่อนอยู่ในระบบอยู่แล้วก็คงไม่ยาก”
“แล้วจากนั้นจะเป็นยังไงต่อ” ถึงแม้จะมั่นใจว่าเอลินอร์ไม่รู้เห็นเรื่องนี้แต่ถ้าเกิดเขาคิดผิดขึ้นมาก็กลัวจะกระทบกับสุขภาพของคุณเอกภพ
“ถ้ารู้ว่าใครเป็นเจ้าของซองยาก็อาจจะเชิญตัวมาสอบสวน หาแหล่งที่ซื้อหรือบางครั้งก็อาจจะต้องตามสืบต่อเพราะคนพวกนี้ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขาก็คงไม่ยอมรับง่ายๆ”
“ถ้าลายมีลายนิ้วมือคุณหนูบนซองยานั่น นายบอกฉันก่อนได้ไหม ฉันอยากจะคุยกับเธอเอง”
“มันไม่ควรเป็นอย่างนั้น แต่ฉันเห็นแก่นายที่เป็นเพื่อนกันมานาน ฉันจะบอกนายก่อน แต่นายอย่าทำอะไรไปมากกว่าการถามเธอเข้าใจใช่ไหม”
“อือ ฉันไม่ทำให้นายเสียงานหรอกน่า”
“เดี๋ยวฉันจะจัดการให้ นายก็อย่าเพิ่งเครียดไปล่ะ”
“ขอบใจมากนที ฉันกลับล่ะ แล้วจะรอฝั่งข่าวจากนายนะ”
“โชคดีเพื่อน”
ปฐพีขับรถออกจากบ้านของนทีแล้วตรงไปยังคอนโดของตนเอง เขาหลับตาและนึกย้อนไปถึงภาพเมื่อตอนหัวค่ำ ดูยังไงเอลินอร์ก็ไม่มีพิรุธเลย คงเพราะเธอไม่รู้เรื่องของในกระเป๋า แล้วถ้าคนที่เอามาใส่จะเป็นเพื่อนที่เธอออกไปดื่มด้วยมันก็น่าเป็นห่วงเพราะพวกนั้นคงจะต้องตามมาเอาของคืนและถ้าเธอไม่มีของคืนให้เขาก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง
ระหว่างนี้ปฐพีคิดว่าจะต้องตามประกบเอลินอร์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เธอออกเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มเดิมอีก ในใจของเขาตอนนี้แอบภาวนาว่าซองยาเหล่านั้นจะไม่มีลายนิ้วมือของคุณหนูอยู่บนนั้น เพราะถ้ามีเรื่องมันคงไม่จบง่ายอย่างแน่นอน
“เฮ้อ ปวดหัวชะมัด” ปฐพีถอนหายใจก่อนจะข่มตานอนในเวลาเกือบตีหนึ่ง