บท
ตั้งค่า

บทที่4

2 วันต่อมา..

วารีถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่านับตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะคิดไม่ตกเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาบุตรสาว เมื่อวานทางโรงพยาบาลก็ได้แจ้งเรื่องค่ารักษามาแล้วซึ่งค่าผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจสูงถึง 650,000 บาท ยังไม่รวมค่ายาและค่าห้องพิเศษอีก หลังจากรู้จำนวนเงินค่ารักษาเธอก็วิ่งเต้นทำเรื่องกู้เงินตามที่ต่าง ๆ แต่ผลก็ออกมาเหมือนกันทุกที่คือไม่ผ่าน ครั้นจะกู้เงินนอกระบบดอกเบี้ยก็โหดเกินไปคงผ่อนกลับไม่ไหว

พยายามนั่งคิดนอนมาตั้งแต่เมื่อคืนว่าพอจะมีทางไหนบ้างที่ทำให้ได้เงินเร็วนอกจากงานเอนคำตอบที่ได้คือไม่มี ทางเลือกเดียวในตอนนี้คืองานเอนงานที่เธอไม่เคยคิดจะทำมันเลยถึงแม้จะปากกัดตีนถีบแค่ไหนก็ตาม แต่วันนี้เธอต้องตัดสินใจทำเพราะมีชีวิตของบุตรสาวเป็นเดิมพัน

น้ำสีใสค่อย ๆ เอ่อคลอดวงตากลมโตเพียงคิดว่าตัวเองต้องทำงานแบบนี้จริง ๆ เธอเคยตั้งใจแน่วแน่มาตลอดว่าจะไม่มอบหัวใจและร่างกายให้ผู้ชายคนไหนอีกนอกจากพ่อของลูก แต่อีกไม่นานร่างกายของเธอกำลังถูกผู้ชายคนอื่นสัมผัสทับรอยผู้ชายอันเป็นที่รัก

เปลือกตาบางปิดลงช้า ๆ ปล่อยให้น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกทางหางตาระบายความรู้สึกภายในใจเพื่อจะได้มีแรงลุกขึ้นสู้ต่อ

มือเดียวเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะหัวเตียงมาเปิดหน้าจอต่อสายหาเพื่อนสาวคนสนิทเพื่อขอให้ช่วยหางานให้หลังจากร้องไห้จนหนำใจรู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว พยายามกรอกน้ำเสียงลงตามสายให้เป็นปกติที่สุด “ไวน์หางานเอนแบบวีให้ฉันหน่อย”

(แกลองคิดดูดี ๆ อีกทีดีไหมวารี ฉันไม่อยากให้แกทำงานนี้เลย)

“ฉันคิดดีแล้วไวน์นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงซิง แถมมีลูกแล้วด้วยมันคงไม่หนักหนาอะไร” เธอตอบเพื่อนสาวและพยายามปลอบใจตัวเองในคราวเดียวกันเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกแย่กับสิ่งที่กำลังตัดสินใจทำไปมากกว่านี้

(ฉันคงเปลี่ยนใจแกไม่ได้แล้วสินะในเมื่อแกคิดแล้วฉันก็เคารพในการตัดสิน แต่แกอย่ามานั่งเสียใจทีหลังแล้วกัน)

“อืม”

(งั้นได้เรื่องยังไงฉันจะโทรหานะ)

“โอเค” สิ้นเสียงพูดนิ้วเรียวก็กดวางสายทันที ก่อนเปลือกตาบางจะปิดลงอีกครั้งด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในสมอง วันนี้เธอเลือกจะนอนโง่ ๆ อยู่ห้องรอฟังข่าวจากไวน์เพราะไปหาบุตรสาวที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้พบอยู่ดี บุตรสาวยังอยู่ในห้องไอซียูหมอยังไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม

ครืด! ครืด!

ผ่านไปกว่าสองชั่วโมงโทรศัพท์ก็แผดเสียงดังขึ้นทำให้วารีที่กำลังจะเคลิ้มหลับสะดุ้งตื่น รีบหยิบโทรศัพท์ข้างหมอนขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ไวน์จึงรีบกดรับสายทันที “ว่าไงไวน์”

(ฉันหางานให้แกได้แล้วนะ เริ่มงานเย็นนี้พร้อมไหมหรือจะถอนตัวก็ยังทันนะ) หัวใจดวงน้อย ๆ ของวารีเต้นแรงขึ้นมาดื้อ ๆ เมื่อปลายสายเอ่ยจบ ความจริงเธอน่าจะดีใจที่ได้งานเร็วแต่เปล่าเลยความทุกข์กลับกัดกินใจหนักกว่าเก่าแม้พยายามทำใจยอมรับแล้วก็ตาม

เธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนตอบปลายสายด้วยน้ำเสียงเป็นปกติที่สุด “เย็นนี้เลยเหรอทำไมเร็วจัง”

(ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่ต้องกังวลนะคนที่จ้างแกเป็นรุ่นน้องของคุณณวัฒน์ อายุ 31ปีคุณณวัฒน์รับรองมาแล้วว่าหล่อ นิสัยดี และรวยมากหากแกทำให้เขาถูกใจอาจจะได้ค่าตอบแทนเยอะก็ได้)

“อืม” เธอเพียงขานรับในลำคอเบา ๆ แม้ลูกค้าที่เธอกำลังจะขึ้นเตียงด้วยในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าจะหน้าตา และโปรไฟล์ดีก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาสักนิด สุดท้ายแล้วหลังจากจบงานนี้เธอก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงขายตัว

(แกเตรียมตัวให้พร้อมนะ หนึ่งทุ่มฉันจะเข้าไปรับพาไปส่งโรงแรมที่ลูกค้านัดไว้)

“อืม..ขอบใจมากนะที่ช่วยเป็นธุระให้”

(อือ ๆ ไม่เป็นไร มีอะไรที่พอช่วยได้ฉันก็พร้อมช่วยเต็มที่)

“จ้ะ” ใบหน้าสวยระบายยิ้มออกมาบาง ๆ ด้วยความรู้ลึกซาบซึ้งในน้ำใจของเพื่อนสาว ไม่ว่าเธอจะพบเจอปัญหาหรืออุปสรรคมากมายเพียงใดก็มีไวน์นี่แหละที่ยืนเคียงข้างเธอทุกสถานการณ์ หลังจากวางสายเพื่อนสาวเธอก็ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ความรู้สึกดำดิ่งลงสู่ห้วงความทุกข์ระทมอีกครั้งหากแม้เลือกได้เธอไม่ขอเฉียดเข้าใกล้เส้นทางนี้เลย

เธอนอนจมดิ่งกับความรู้สึกแย่ ๆ บนเตียงราวกับร่างไร้วิญญาณจนเวลาผ่านไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า กระทั่งใกล้ถึงเวลานัดหมายจึงพาตัวเองไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดสะอ้าน หยิบชุดที่คิดว่าเซ็กซี่สุดมาสวมใส่ แต่งเติมหน้าบางเบาแล้วเดินออกไปรอเพื่อนสาวหน้าห้องเช่าเก่า ๆ ที่ตัวเองอาศัยอยู่

ยืนรอเพียงไม่กี่นาทีรถเก่งของไวน์ก็เคลื่อนตัวมาจอดลงตรงหน้า เท้าเล็กรีบก้าวเดินไปขึ้นรถอย่างรู้งานไม่ต้องรอให้เพื่อนสาวออกปากเรียก

“ฉันขอถามอีกทีตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมวา เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ” ไวน์หันไปถามย้ำเพื่อนสาวเพื่อความแน่ใจอีกครั้งเพราะเธอเองก็ไม่ได้สนับสนุนให้เพื่อนทำงานแบบนี้เลย

“ฉันตัดสินใจดีแล้วรีบไปกันเถอะเดี๋ยวจะเลยเวลานัด” วารีฝืนระบายยิ้มตอบเพื่อนสาวบาง ๆ ก่อนเบนหน้ามองออกไปนอกกระจกรถด้วยนัยน์ตาเศร้า ส่วนไวน์ก็เหยียบคันเร่งขับรถออกจากหน้าห้องเช่าทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบ ถึงเธอจะพูดยังไงก็คงเปลี่ยนใจเพื่อนสาวไม่ได้แล้ว

@โรงแรม

“ลูกค้ารออยู่ห้อง 504 นะ แกขึ้นไปคนเดียวได้ใช่ไหมหรือจะให้ฉันไปส่งหน้าห้อง” ไวน์หันไปเอ่ยกับเพื่อนสาวเมื่อรถจอดลงหน้าโรงแรมที่นัดหมายกับลูกค้าแล้ว หลังจากต่างคนต่างนั่งเงียบจมอยู่กับความคิดตัวเองมาตลอดทาง

วารีที่นั่งเหม่อลอยสะดุ้งหลุดออกจากห้วงความคิด หันไปตอบเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันไปเองได้ ขอบใจมากนะที่มาส่ง”

“อืม..หากมีอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอดนะ ฉันจะรีบมาหา”

“โอเค งั้นฉันไปก่อนนะ” วารีพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนเปิดหน้าจอโทรศัพท์ดูเวลาเมื่อเห็นว่าอีกเพียงสิบนาทีก็ถึงเวลานัดจึงบอกกล่าวกับเพื่อนสาว แล้วเปิดประตูลงจากรถเดินเข้าไปในโรงแรม

มือเรียวข้างขวายกขึ้นกำสายสะพายกระเป๋าแน่น ขณะที่ข้างซ้ายนั้นกำชายกระโปรงชุดเดรสไว้แน่น เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดพรายตามไรผมและอุ้งมือนุ่มจนชุ่ม ยิ่งเข้าใกล้ห้องพักของลูกค้าเท่าไรหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอก็ยิ่งเต้นแรง ถึงแม้จะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่เธอก็ห่างหายจากเรื่องแบบนี้มานานถึงสี่ปีกว่าตั้งแต่เลิกกับแฟนเก่า หนำซ้ำต้องมีอะไรกับคนแปลกหน้าอีกจึงทำให้รู้สึกหวาดหวั่นไม่น้อย อยากจะถอยหลังกลับก็ทำไมได้เพราะชีวิตบุตรสาวค้ำคออยู่

“เพื่อลูก ๆ วารี” เธอเป่าลมออกจากปากแรง ๆ เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องพักลูกค้า ยืนข่มความรู้สึกมากมายที่ประเดประดังเข้ามาเรียกแรงฮึดสู้ให้ตัวเองเนินนานหลายนาที ก่อนค่อย ๆ ยกมือขึ้นเคาะประตู แต่กลับไร้วี่แววของคนด้านในทุกอย่างเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่

ก็อก! ก็อก!

มือเรียวยกขึ้นเคาะประตูอีกครั้งเผื่อว่าคนด้านในจะไม่ได้ยินหรือกำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็ได้รับความเงียบตอบกลับมาเหมือนเดิม เธอยืนหันซ้ายแลขวาอย่างไม่รู้จะทำยังไงไม่รู้ว่าจะยืนรอหรือหันหลังกลับดี

แกร็ก! ระหว่างที่เธอกำลังยืนถกเถียงกับตัวเองจู่ ๆ ประตูห้องก็เปิดออกทำเอาเธอฉงนไม่น้อย ยืนงุนงงนานนับนาที ก่อนค่อย ๆ ก้าวเข้าไปในห้องอย่ากล้า ๆ กลัว ๆ ทว่าเธอก็ต้องหวาดระแวงหนักเข้าไปอีกเพราะในห้องมืดงำไปหมดมีเพียงแสงสว่างจากด้านนอกที่สาดส่องผ่านผ้าม่านหน้าต่างกระจกเข้ามาพอเห็นเงาตะคุ่ม ๆ ของใครบางคนที่นั่งปลายเตียง ทำตัวลึกลับน่ากลัวมากจริง ๆ อดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจจะเป็นพวกโรคจิตหรือจิตไม่ปกติ

“ไปเปิดไฟสิ” ทว่าเธอก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ ๆ เสียงทุ้มก็ดังขึ้นขณะที่กำลังวิตกกังวลและคิดไปต่าง ๆ นานาว่าเขาเป็นคนไม่ดี

“ค..ค่ะ” รีบขานรับด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก แล้วเดินไปเปิดไฟด้วยความเร็วเธอเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าลูกค้าตัวเองหน้าตาเป็นอย่างไรอันตรายหรือไม่จะได้รีบหนีออกไป

พรึ่บ!

“พะ..พี่ปราณ” ทันทีที่ไฟในห้องสว่างวาบเธอก็ต้องผงะตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นหน้าผู้ชายที่นั่งไขว้ห้างปลายเตียง ใจดวงน้อยสั่นไหวราวกับอาฟเตอร์ช๊อก ใบหน้าถอดสีร่างกายแข็งทื่อไปหมด คนตรงหน้าคือผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจเป็นรักแรก เป็นผู้ชายคนแรกในทุก ๆ เรื่องของเธอ และเขาก็คือพ่อของลูกด้วย

นัยน์ตาดำขลับไหวระริกด้วยความรู้สึกจุกอกในสมองมีแต่คำถามว่าทำไม ๆ ทำไมถึงเป็นเขา อยากจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้เสียเดี๋ยวนี้เพราะรู้สึกผิดกับสิ่งที่เคยกระทำกับเขาจนมิอาจสู้หน้าได้ แต่ขาเจ้ากรรมดันไม่ให้ความร่วมมือก้าวไม่ออกเหมือนกับถูกสาป

ไม่รู้ว่าเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของเธอถึงทำให้วนกลับมาพานพบกันอีกครั้งในรอบสี่ปีกว่า หลังจากที่เธอหนีจากเขาไปโดยไม่มีแม้แต่คำร่ำลาด้วยเหตุผลบางอย่างทั้งที่ไม่อยากจากไปเลยสักนิด เขาคงเจ็บปวดและเสียใจกับการกระทำของเธอมาก เธอเองก็รู้สึกเจ็บปวดและเสียใจมากเหมือนกันที่ต้องออกไปจากชีวิตเขาทั้งที่ยังรักมากมาย

ทว่าดูจากแววตาสีหน้าที่ชายหนุ่มมองมายังเธอในตอนนี้เขาคงโกรธ เกลียดเธอมากเพราะมันมีแต่ความว่างเปล่า และเต็มไปด้วยความเย็นชาจนน่าใจหายทำให้เธอรู้สึกหน่วงในอกอย่างบอกไม่ถูกมันทั้งเจ็บปวดทั้งจุกในเวลาเดียวกัน

 ขอบตาพลันร้อนผ่าวขึ้นมาอัตโนมัติจนต้องรีบเบนหน้าหนีไปทางอีก สูดลมหายใจเข้าปอดพรืดใหญ่พยายามสะกดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมาเกรงว่าอีกคนจะสมเพชเวทนา แค่มาพบกับเขาในสถานการณ์แบบนี้มันก็น่าอับอาย และน่าสมเพชมากพออยู่แล้ว เขาคงมองเธอเป็นผู้หญิงไม่ดีตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ทั้งหมดทั้งม้วนเธอก็ไม่คิดโทษเขาเพราะเธอทำตัวเองทั้งนั้นคนผิดมันคือเธอคนเดียว

ปึก ๆ!  

มือเรียวทั้งสองข้างทุบลงข้างขาอ่อนเบา ๆ เพื่อให้ขาที่แข็งทื่อไม่ยอมขยับมีแรงก้าวเดินออกไปจากตรงนี้ ก่อนน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้จะรินไหลออกมา ขณะที่ประภาวินท์นั้นยังมีสีหน้าท่าทางเย็นชาเหมือนเดิมดูไม่ตกใจหรือแปลกใจเลยสักนิดที่ได้เจอกับคนรักเก่า

การที่ได้พบเจอเธอในวันนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญมันเป็นเพราะความตั้งใจของเขาต่างหาก ฟ้าคงอยากให้เขาได้เจอกับผู้หญิงใจร้ายอีกครั้งวันนี้ถึงได้ดลจิตดลใจให้เขาคิดถึงรุ่นพี่หนุ่มอย่างณวัฒน์จนต้องไปหาถึงบริษัท ระหว่างนั่งคุยกันจู่ ๆ ณวัฒน์ก็เปิดรูปในโทรศัพท์ยื่นให้ดูถามว่าสนใจผู้หญิงในรูปไหม

แวบแรกที่เห็นเขาก็จำได้แล้วว่าเธอคือวารีแฟนเก่าที่ทิ้งเขาไปโดยไม่มีแต่คำร่ำลา ไม่มีลางบอกเหตุ ไม่มีเหตุผล หายไปราวกับว่าโลกนี้ไม่เคยมีเธออยู่ ทิ้งให้เขาจมอยู่กับความเจ็บปวด จมอยู่กับความสงสัยและคำถามมากมายว่าทำไมจู่ ๆ เธอจึงหายไป เขาทำอะไรผิดไปทำไมเธอถึงทิ้งกันได้อย่างง่ายดายราวกับว่าห้าปีที่รักกันมาไม่มีความหมายเลยสักนิด

เขาพยายามตามหาทุกที่ที่คิดว่าเธอน่าจะไป ตามถามข่าวจากคนรู้จักของเธอแต่ทุกคนต่างก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่รู้

ความสงสัยมันติดค้างในใจของเขามาจนถึงทุกวันนี้เมื่อมีโอกาสเจอเธออีกครั้งมีหรือจะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป รีบถามไถ่ณวัฒน์ว่ารู้จักเธอได้ยังไง แล้วทำไมถึงเอารูปเธอให้เขาดู คำตอบที่ได้รับทำให้เขารู้สึกช็อคไม่น้อยเพราะณวัฒน์บอกว่าเธอรับงานเอนวีซึ่งเขาก็พอเข้าใจความหมายของคำว่าเอนวีมาบ้างถึงแม้จะไม่เคยข้องเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้เลย

เท่าที่รู้จักกับวารีมาห้าปีแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่ออกจะมีนิสัยเรียบร้อย อ่อนหวานแบบเธอจะกล้าขายศักดิ์ศรีแลกเงิน ตอนคบกันเธอไม่เคยแม้แต่จะแบมือขอเงินเขาสักครั้ง เขาเต็มใจให้เองเธอก็ยังไม่รับยอมทำงานเพื่อให้ได้เงินมาอย่างสมศักดิ์ศรีไม่ยอมให้ใครมองว่าเกาะเขากิน แต่ก็นั้นแหละบางทีสิ่งที่เขาเห็นอาจเป็นแค่เปลือกนอกที่เธอสร้างขึ้นมาความจริงแล้วก็ร้ายลึก ไม่อย่างนั้นคงทิ้งเขาไปแบบไม่เหลือใยไม่ได้

เขาจึงบอกให้ณวัฒน์ติดต่อให้โดยบอกว่ารุ่นน้องสนใจเลยได้เจอเธอในตอนนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel