แสน...ต้องรับผิดชอบ
แสน...ต้องรับผิดชอบ
“นี่ซนต้องบริการคุณเหรอ ซนไม่ใช่เด็กนั่งดริ๊งนะคะ” แสนซนรีบปฏิเสธข้อเสนอของชายหนุ่มตรงหน้าทันที
“ไม่ทำก็ได้ งั้นให้อาคีย์มารับผิดชอบ” บรูคลินเอาคีย์มาอ้าง เพื่อให้แสนซนปฏิเสธไม่ได้ เพราะเธอไม่ต้องการให้ผู้มีพระคุณเดือดร้อนแน่นอน
“ทำไมต้องให้คุณแม่คีย์มารับผิดชอบด้วย คุณอยากได้เด็กนั่งดริ๊ง คุณก็ไปเรียกเด็กสวยๆ มาสิ”
“ไม่!! ฉันชอบเธอ ต้องเป็นเธอเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เธอ อาคีย์ก็ต้องรับผิดชอบ” บรูคลินพูดหน้าตาเฉย พร้อมกับหยิบแก้วเหล้ายกดื่ม
“เอาแต่ใจ!!” แสนซนพูดพร้อมกับทำหน้าตาบูดบึ้ง
“ตกลงจะบริการฉันไหม” บรูคลินถามย้ำอีกรอบ
“แค่ชงเหล้าใช่ไหม”
“ดื่มด้วย” บรูคลินตอบ
“ต้องดื่มด้วยเหรอ ซนคออ่อน”
“งั้นก็ดื่มแก้วเดียว ฉันชงให้!” บรูคลินยิ้มมุมปาก
“แก้วเดียวจริงๆ นะคะ”
“อือ แก้วเดียว นอกนั้นเป็นคนชงให้ฉันก็พอ” พูดจบบรูคลินก็ลุกจากพนักผิงโซฟาแล้วมาชงเหล้าใส่แก้วที่ว่างเปล่าเพื่อให้แสนซนกินเป็นเพื่อนเขา
“แล้วคุณ...เอ่อ จะให้ซนเรียกคุณว่าอะไรคะคืนนี้” แสนซนเอ่ยถามขึ้นในขณะที่เขากำลังชงเหล้าให้เธอ เพื่อจะได้รู้จักเขาและเรียกชื่อเขาได้ถูกในระหว่างทำงานบริการเขาในคืนนี้
“ฉันเป็นประธานบริษัทอีแวนสัน กรุ๊ป ถ้าเป็นเลขาฉันเรียกบอสก็ได้” เขาบอก คิดว่าจะเนียนให้เธอตกลงทำงานเลขากับเขา
“เอ๊ะ! ซนไม่ได้บอกจะทำงานกับคุณสักหน่อย ไหนบอกว่าบริการคืนนี้แล้วไม่ต้องรับงานไง” แสนซนไม่หลงกล รีบแย้งทันที
“เอ้าเหรอ ลืมไป” บรูคลินพูดหน้าตาเฉย
“แล้วตกลงคุณชื่ออะไรคะ จะได้เรียกถูก” แสนซนถามอีกครั้ง
“บรูคลิน!” บรูคลินตอบห้วนๆ
“ก็แค่นั้นแหละ คุณบรูคลิน เดี๋ยวคืนนี้ซนจะบริการอย่างดีเลยนะคะ” แสนซนพูดด้วยรอยยิ้มมั่นใจว่า คนตรงหน้าต้องหลงในบริการของเธอเหมือนกับแขกผู้หญิงที่เธอเคยบริการแทนคนที่ไม่รับงานผู้หญิงแน่ๆ
ในคลับนี้มีแขกบางรายที่เป็นผู้หญิงที่มาใช้บริการอยู่หลายคน ที่ไม่อยากได้เด็กนั่งดริ๊งเป็นผู้ชาย และพนักงานสาวคนอื่นๆ ก็ไม่อยากรับงานด้วย ทำให้แสนซนต้องไปทำงานแทน
“ครับ..คืนนี้ฝากด้วยนะ ช่วยบริการให้ฉันถึงใจสักที...หึ” บรูคลินพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมุมปาก ดูเจ้าเล่ห์ ก่อนที่เขาจะยื่นแก้วเหล้าที่ชงเสร็จแล้วให้กับหญิงสาว
แสนซนรับแก้วเหล้าไป พร้อมกับยกแก้วนั้นขึ้นดื่มทันที บรูคลินเห็นร่างบางยกแก้วขึ้นดื่มก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะกลับไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับเธอตัวเดิม และหยิบแก้วของตัวเองยกขึ้นดื่มรวดเดียวพร้อมกับหาเรื่องชวนคุยไปเรื่อยเหมือนรอเวลาอะไรบางอย่าง
“เหล้าคุณหมดแล้ว มาค่ะเดี๋ยวซนชงให้เพิ่ม...อึก” แสฯวนสังเกตเห็นว่าเหล้าในแก้วเขาหมดแล้ว หลังจากนั่งดื่มมาได้สักพัก แต่ขณะที่เธอกำลังจะลุกไปชงเหล้าให้เขา ก็ต้องชะงักกึก เมื่อเกิดอาการเซเล็กน้อยและเริ่มรู้สึกว่าอากาศในห้องเริ่มร้อนขึ้นทุกที
“เมาแล้วเหรอ แค่แก้วเดียวเองนะ” บรูคลินถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แสนซนเห็นรอยยิ้มนั้นก็เกิดการหมั่นไส้ รู้สึกว่ามันแปลกๆ
“เอ่อ...คุณบรูคลิน ได้เปิดแอร์หรือเปล่าคะ” แสนซนถามชายหนุ่ม ในขณะที่มือก็ชงเหล้าให้เขา
“เปิดฉ่ำจนฉันหนาวแล้วนะ ทำไม? เธอร้อนเหรอ” บรูคลินแกล้งถาม
“คะ...ค่ะ ซนร้อนๆ นี่เหล้าค่ะ” แสนซนยื่นแก้วเหล้าให้เขา
“ว้าย!” แต่แทนที่เขาจะหยิบแก้วเหล้า เขากลับคว้ามือเล็กแล้วออกแรงดึงเล็กน้อย ทำให้ร่างเล็กที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเซถลาล้มลงไปนั่งบนตักแกร่งของชายหนุ่มทันที
“มาใกล้ๆ ฉัน ฉันมองไม่ชัด” บรูคลินกระซิบข้างหูของคนบนตัก
“คะ...คุณทะ...ทำอะไรเนี่ย ปล่อยซนนะ” แสนซนดิ้นคลุกคลัก รู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว เมื่อลมหายใจอุ่นเป่ารดที่ใบหู
“ร้อนไม่ใช่เหรอ จะเป่าให้ไง จะได้เย็นขึ้น” บรูคลินยังคงพูดกระซิบอยู่ที่ใบหูเล็กของแสนซน
ในอ้อมแขนแกร่งยังคงกอดรัดเอวบางไว้ไม่ปล่อย ร่างบางในอ้อมกอดจากที่เคยดิ้น แต่รู้ว่าดิ้นไปแล้วไม่เป็นผลจึงสงบลง แล้วหันหน้ามาเผชิญกับใบหน้าคมของเขา
กลิ่นกายจากร่างแกร่งที่แสนซนนั่งตักอยู่นั้นลอยเข้ามากระทบกับจมูกที่เชิดรั้นเล็กน้อย แสนซนรู้สึกอยากสูดดมเข้าให้เต็มปอด กลิ่นกายเขาในตอนนี้ช่างทำหัวใจของเธอสั่นไหว เต้นตึกตัก วูบวาบจนแทบจะหลุดออกมาจากอก
“ซะ...ซนร้อน ทำไมร้อนขนาดนี้นะ” แสนซนพึมพำในลำคอเหมือนกับว่ากำลังกระซิบ มือบางพยายามเช็ดเหงื่อที่พรั่งพรูออกมาจนเปียกไปทั้งตัว
“ร้อนมากไหม” บรูคลินกระซิบข้างหูเล็ก ก่อนจะถือโอกาสสูดดมกลิ่นกายสาวที่หอมรัญจวนชวนให้ท่อนกายที่อยู่ภายใต้เป้ากางเกงตุงคับแน่นดันออกมานอกกางเกง ทำให้คนบนตักรู้สึกได้ว่ามีอะไรดันอยู่ภายใต้ก้นงอนที่นั่งทับอยู่
“อื้อออ ระ ...ร้อนมากๆ เลย”
“ฉันช่วยไหม” บรูคลินเอ่ยถาม ก่อนจะยกมือหนาขึ้นเช็ดปาดเหงื่อที่หน้าผากมน เจ้าของร่างบางบนตักเริ่มหายใจหอบแรง อาการเหมือนคนร้อนมากอย่างที่เธอบอกจริงๆ ร้อนมาจากภายในร่างกาย
‘แพ้แอลกอฮอล์หรือเปล่านะ ไม่เคยกินด้วยสิ’ แสนซนคิดในใจถึงความผิดปกติของร่างกาย ที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อน แอลกอฮอล์เธอเคยกินมาบ้าง แต่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรก จะว่าเมาก็ไม่ใช่อาการแบบนี้ หรือว่าเธอแพ้เหล้ายี่ห้อนี้กัน
“ว่ายังไง? ให้ฉันช่วยไหม” บรูคลินยังคงถามย้ำ นิ้วแกร่งยังคงเขี่ยเล่นที่แก้มป่องเบาๆ คล้ายกับรอเวลา ดวงตาคมจ้องมองลึกที่ใบหน้าหวานที่ตอนนี้เริ่มแดงกล่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
“ซนร้อน...อื้อออ” เมื่อเริ่มร้อนมากขึ้น มือบางก็เริ่มอยากจะดึงเสื้อเกาะอกลง แต่อีกใจหนึ่งก็ห้ามตัวเองเอาไว้ ทำให้ความคิด ความต้องการของเธอในตอนนี้ผสมปนเปกันไปหมด
“ไหวหรือเปล่า” ชายหนุ่มที่ถูกร่างบางนั่งทับยังคงถามยียวน เพราะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่ใบหน้าคม
“มะ...ไม่ไหว ซนร้อน...” แสนซนเริ่มพูดด้วยเสียงหอบแหบพร่า
“ให้ฉันช่วยไหม อยากให้ช่วยยังไงไหนพูดสิ” บรูคลินยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าแดง จมูกโด่งเป็นสันแตะที่จมูกรั้นเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าหวานก้มงุดด้วยความเขินอาย
“คุณใส่อะไรในเหล้าหรือเปล่าคะ” แสนซนเอ่ยถามขึ้นมาดื้อๆ เมื่อเห็นว่าเขายิ้มแบบมีเลศนัย
“ชงเหล้าปกติ เธอคออ่อนเองมั้ง”
“แล้วทำไมซนถึงได้ร้อนแบบนี้ล่ะคะ ปกติตอนเมาไม่ร้อนแบบนี้”
“แพ้หรือเปล่า ให้ฉันช่วยไหมล่ะ” ชายหนุ่มยังคงถามย้ำอยู่หลายรอบแล้วอมยิ้ม สร้างความสงสัยให้กับแสนซนมากยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้ความร้อนรุ่มไม่สามารถทำอะไรให้แสนซนสนใจได้อีก
“มะ...ไม่ไหว ซนร้อนมากเลย” แสนซนเริ่มพึมพำมากขึ้น มือบางเริ่มดึงถึ้งเสื้อเกาะอกของตัวเองออก ร่างบางพยายามดันตัวชายหนุ่มออก แล้วจะลุกขึ้น แต่กลับโดนแขนแกร่งรั้งกระชับไว้แน่นขึ้น
“จะไปไหน...” บรูคลินเอ่ยถาม เมื่อเห็นคนตัวเล็กพยายามดันตัวลุกขึ้นออกจากตักเขา
“ซนจะเข้าห้องน้ำ ซนร้อนไหมไหว”
“เข้าไปทำอะไร”
“ปล่อยซนค่ะ ซนจะอาบน้ำ ซนร้อนไม่ไหวแล้ว ซนบริการคุณบบนี้ไม่ได้ค่ะ”
“ไม่ต้องไปไหน ฉันช่วยได้ จะให้ฉันช่วยไหมล่ะ” บรูคลินยังถามอีก แต่ก็ยังไม่เริ่มช่วยสักที
“คุณช่วยได้เหรอคะ เคยมีคนแพ้แบบซนบ่อยใช่ไหมคุณถึงรู้วิธีช่วย” แสนซนถามด้วยความใสซื่อ
“มีเยอะ แต่ไม่ช่วยใคร ช่วยเธอคนแรกและคนเดียว” พูดจบบรูคลินก็ส่งยิ้มเท่มาให้แสนซน แสนซนที่ได้ยินแบบนั้นก็แอบ งง นิดหน่อย แต่ก็ไม่สามารถถามอะไรต่อได้
บรูคลินไม่พูดอะไรต่อ แต่ช้อนจูบปากบางที่ก้มหน้างุดอยู่ ริมฝีปากบางที่แดงกล่ำ เพราะฤทธิ์ยาจากเหล้าที่เขาชงให้แสนซน ปากหยักประกบเข้าที่ริมฝีปากบางอย่างดูดดื่มและเร่าร้อน บดเบียดริมฝีปากหนากับกลีบปากบางให้เผยอออกแล้วส่งลิ้นอุ่นเข้าไปในโพรงปาก เรียวลิ้นกวาดไปในโพรงปากควานดูดหาน้ำหวาน
มือบางที่ตอนแรกยกขึ้นดันอกแกร่งออก เพราะตกใจกับจูบที่เขาจู่โจมโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้เธอต้องเริ่มใช้วงแขนบางโอบรอบคอแกร่งไว้ เพื่อพยุงตัวเธอไว้ไม่ให้ร่วงลงไปกองกับพื้น ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ถ้าหากว่าชายหนุ่มไม่กอดเอวรั้งเธอไว้
ริมฝีปากบางตอบรับจูบดูดดื่ม ดุดัน เร่าร้อนของเขาอย่างเก้ๆ กังๆ ไม่ประสีประสา เพราะไม่เคยจูบกับชายใดมาก่อน ลิ้นเรียวกวาดไปรอบๆ โพรงปาก ดูดกลืนน้ำหวานจากปากบางจนพอใจแล้ว จึงค่อยๆ ถอนจูบออกอย่างช้าๆ คล้ายกับว่ากำลังเสียดาย สายตาคมจ้องมองใบหน้าหวานที่หลับตาหอบหายใจที่กำลังสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดทันทีที่ปากได้รับอิสระ
ดวงตาคมจ้องมองต่ำลงที่ริมฝีปากบางที่เคยสีระเรื่อจนตอนนี้เป็นสีชมพูเข้มออกแดงจากการบดขยี้และบวมเจ่อ ร่างบางบนตักอ่อนระทวยไปกับรสจูบแสนหวานที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนอย่างงเคลิ้บเคลิ้ม
ร่างบางเคลิ้บเคลิ้มต้องการรสจูบอันรัญจวนแบบเมื่อสักครู่ อาจจะเพราะด้วยฤทธิ์ยา เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ หรือเพราะแรงปรารถนาของตัวเธอเองก็ไม่แน่ใจ
“ช่วยแค่นี้ ดีกว่าไหม” บรูคลินเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มกว้าง เหมือนกับว่ากำลังแกล้งร่างเล็กบนตัก เพราะรู้ว่าคนบนตักนั้นไม่มีทางอยากให้หยุดแค่นี้แน่ๆ
“มะ...ไม่ค่ะ ซนยังไม่หายร้อนเลย” แสนซนรีบปฏิเสธทันทีที่ได้ยินว่าเขาเหมือนจะไม่ช่วยเธอต่อให้หายร้อน เพราะแค่นี้เธอยังไม่หายร้อนเลยสักนิด มีแต่ร้อนขึ้นมากกว่าเดิมจากรสจูบนั้น
“ไหนจะให้ทำยังไง หืม? ลองบอกสิ” เขากระซิบที่ใบหูคนบนตักที่ก้มหน้าอีกครั้งเมื่อรู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป ที่เหมือนเป็นการเชิญชวนให้เขาทำเรื่องอย่างว่า
“ชะ...ช่วยซนหน่อยค่ะ ซนร้อน” แสนซนพูดอ้อมแอ้มทั้งๆ ที่ยังก้มหน้าอยู่ ใบหน้าแดงจากความเขินอายจนถึงใบหู
“เธอขอฉันเองนะ พรุ่งนี้เธอต้องรับผิดชอบ” พูดจบบรูคลินก็ก้มลงใช้จมูกโด่งคลอเคลียซุกไซ้ที่ใบหูเล็ก ริมฝีปากจูบซับไล่จากใบหูลากไล้ต่ำลง หาความหวานจากกายเล็ก
ลิ้นสากลากเลื่อนต่ำลงมาที่ลำคอระหงส์ มือหนายกขึ้นดึงกระชากเกาะอกที่เกือบหลุดจากสองเต้ากลมที่บดบังเรือนร่างขาวให้หลุดลงไปกองอยู่ที่เอวคอดจนเนินอกสองเต้าสวยไร้สิ่งบดบัง เผยให้เห็นเนินอกสีขาวกลมกลึงที่มีขนาดใหญ่ ยอดอกมีที่ปิดจุกสีเนื้อไว้เพียงแค่นั้น
บรูคลินจ้องมองที่เนินอกสวยกลมโตที่มีที่ปิดจุกไว้ เขากลืนก้อนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ มือบางทั้งสองยกขึ้นปิดไว้ด้วยใบหน้าที่แดงกล่ำ เพราะความอาย
“ขอชิมได้ไหม” เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยขอแบบดื้อๆ แสนซนไม่ได้ตอบอะไร ไม่ได้เอ่ยอนุญาตหรือเอ่ยห้าม เอาแต่ก้มหน้าลงจนศีรษะแทบจะไปซบกับไหล่กว้างเลยก็ว่าได้
การกระทำของร่างบางบนตักทำให้ชายหนุ่มยิ้มกว้าง เพราะรู้ดีว่าต่อจากนี้เขาต้องทำอะไร ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น และมันจะเป็นไปตามแผนการที่เขาวางไว้หรือไม่ เขาก็ไม่แน่ใจ
บรูคลินยกมือหนาทั้งสองข้างขึ้นประคองใบหน้าหวานที่แดงกล่ำไว้ ดวงตาคมจ้องลึกไปที่ดวงตากลมหยาดเยิ้ม ก่อนจะพูดประโยคหนึ่งด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นส่งให้แสนซน
“จำไว้นะ หลังจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป แสนต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เข้าใจไหมครับ"