จองตัว!
จองตัว!
"นายครับ จะนั่งโซนไหนครับวันนี้" เต็มหันมาถามเจ้านายที่เดินตามเขาเข้ามาใน BK CLUB คลับของพ่อเขาที่เป็นของตระกูลอีแวนสันดูแลต่อๆ กันมาเป็นรุ่นๆ จนตอนนี้พ่อเขาและฝาแฝดของพ่อยังเป็นผู้ดูแลอยู่ ต่อไปก็คงต้องเป็นเขาที่ต้องรับช่วงต่อในการดูแลกิจการเกือบทุกกิจการ เพราะว่าน้องฝาแฝดทั้งสองของเขาเป็นผู้หญิง ไม่น่าจะมารับงานสีเทาต่อแน่ๆ
"เอาโซนกระจกวีไอพี" บรูคลินบอกเต็ม ก่อนเดินขึ้นชั้นวีไอพี
โซนกระจกวีไอพีที่บรูคลินพูดถึงนั้นเป็นโซนด้านในคลับ ชั้นสองที่มีกระจกกั้น เมื่อมองลงมาที่ชั้นหนึ่ง จะเห็นคลับทั้งหมด รวมถึงเวทีนักร้องที่แสดงสดด้วย แต่โซนวีไอพีนั้นจะสงบไม่มีคนเดินผ่านไปมามากมายเท่าด้านล่างคลับ
"ได้ครับ นายขึ้นไปก่อน เดี๋ยวผมไปสั่งเครื่องดื่มให้" เต็มบอกเจ้านายเสร็จก็เดินแยกออกไปที่เคาเตอร์บาร์ เพื่อสั่งเครื่องดื่มให้เจ้านาย แล้วตามขึ้นไปทีหลัง
"เอ้า ไอ้เต็ม วันนี้มาคนเดียวหรือเจ้านายมึงมาด้วย" เสียงทุ้มของเบย์ดังขึ้นทักเต็มที่กำลังยืนสั่งเครื่องดื่มอยู่ตรงเคาเตอร์ ทำให้เต็มรีบหันควับไปทางต้นเสียงทันที
"นายเบย์! วันนี้นายดูแลคลับเหรอครับ ผมนึกว่าเป็นนายใหญ่เสียอีก" เต็มบอกกับผู้ทักทายคนใหม่ที่เป็นฝาแฝดกับเจ้านายใหญ่ บอมพ์พ่อของบรูคลินเจ้านายของเขา
"นายมึงมาด้วยหรือเปล่าวันนี้" เบย์ถามย้ำอีกรอบ
"มาครับ อยู่ข้างบน นายจะขึ้นไปทักทายไหมครับ" เต็มถามอีกฝ่ายที่เปรียบเสมือนนายใหญ่เขาอีกคน
"เดี๋ยวขึ้นไป ขอดูความเรียบร้อยข้างล่างก่อน" เบย์บอกก่อนจะเดินไปดูความเรียบร้อยด้านอื่น
เต็มสั่งเครื่องดื่มเสร็จแล้ว เดินขึ้นชั้นวีไอพี ตามไปที่โต๊ะที่เจ้านายเขานั่งอยู่
บรูคลินนั่งโต๊ะโซฟาที่ติดกับกระจก เพื่อมองบรรยากาศของคลับได้ทั้งหมด เต็มนั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา ความจริงแล้วลูกน้องไม่สามารถมานั่งร่วมโต๊ะกับเจ้านายได้ แต่สำหรับเขากับเต็มรู้จักกันมานาน เหมือนเพื่อนกันมากกว่า ทำให้เขาและเต็มค่อนข้างสนิทกัน นั่งกินเหล้าด้วยกันบ่อยๆ ยามว่าง ตอนทำงานก็ทำหน้าที่ตัวเองเหมือนลูกน้องปกติ ตอนพักหรือเลิกงานก็เป็นเหมือนเพื่อนกันได้
บรูคลินนั่งจิบวิสกี้พร้อมกับมองลงไปด้านล่างของคลับ มองไปรอบๆ ไม่ได้เจาะจงที่ใดที่หนึ่ง
สายตาคมก็ไปสะดุดกับหญิงสาวตัวเล็ก ใบหน้าขาวๆ กลมๆ เล็กๆ ผมยาวลอนสีน้ำตาลอ่อน ผมครึ่งบนถูกมักเป็นจุกสูงไว้กลางศีรษะ ครึ่งล่างปล่อยยาวสยายลอนสวย ในชุดเกาะอกเอวลอยสีฟ้าเลื่อมสะท้อนแสงไฟวิบวับ กางเกงยีนส์ขายาวรัดรูปเอวต่ำ รองเท้าส้นสูงสีแดงสด ที่ยืนถือไมค์ร้องเพลงอยู่บนเวที ความมีเสน่ห์น่ามองดึงดูดให้สายตาคมจบจ้องไปที่เธอได้ไม่วางตา เสียงใสหวานเล็กดังชัดขึ้นเมื่อเขาสนใจเธอเป็นพิเศษ ต่างจากตอนแรกที่เขาไม่ค่อยได้ยินเสียงเธอเท่าไรนัก เพราะว่ายังไม่ได้สังเกตและให้ความสนใจกับเธอเหมือนตอนนี้
"สนใจเหรอครับนาย เห็นมองนานแล้ว" เต็มสังเกตเห็นเจ้านายของเขาที่เอาแต่มองไปที่เวทีด้านล่าง
"เธอเป็นใคร" บรูคลินเอ่ยถามเต็มโดยที่ไม่ได้ละสายตามาจากจุดเดิม
"อ้าว ผมจะรู้ไหมเนี่ย นั่งอยู่ด้วยกัน ให้ผผมไปสืบให้มะ?" เต็มเสนอตัว เขาอยากให้นายของเขามีแฟนสักที
"นั่งกันแค่สองคนเหรอ ไม่เรียกสาวมานั่งด้วยสักคนสองคนล่ะ" ยังไม่ทันที่บรูคลินจะได้ตอบเต็ม ก็มีเสียงของชายรุ่นใหญ่ดังขึ้นทักทายทั้งสองจากด้านหลัง เรียกความสนใจของทั้งสองให้หันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน บรูคลินจึงได้ละสายตาจากหญิงสาวด้านล่างทันที
"อาเบย์..." บรูคลินเรียกผู้เป็นอาที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับชายอีกคน
"ดูอะไรกันอยู่เหรอ" คีย์เอ่ยทักทายผู้มีศักดิ์เป็นหลานของตัวเองเหมือนกัน เพราะคีย์นั้นเป็นแฟนของเบย์ที่เป็นอาของบรูคลิน
"อาคีย์ อาเบย์ วันนี้เป็นคนดูแลคลับเหรอครับ พ่อไปไหนล่ะวันนี้ไม่มาทำงาน" บรูคลินเอ่ยกับผู้มาใหม่ทั้งสอง พร้อมกับถามหาเหน็บแนมพ่อของตัวเองที่ไม่มาทำงานดูแลคลับที่เป็นกิจการของตระกูล
"พ่อแกไปฮันนีมูนรอบที่ล้านแปดที่เกาะ" เบย์พูดพร้อมกับทำหน้าเบื่อหน่ายกับความหวานหยดของพี่ชายฝาแฝดตัวเอง
"เบื่อคนคลั่งรักจริงๆ" บรูคลินพูดถึงพ่อตัวเอง พร้อมกับทำหน้าเอือมระอากับความหวานของพ่อตัวเอง
"แล้วน้องๆ ไปไหนล่ะ" คีย์ถามหลานชายถึงน้อสาวฝาแฝดของบรูคลินอีกสองคน
"ลิลลี่กับเลดี้ไปเที่ยวเกาหลี เดี๋ยวก็น่าจะกลับแล้ว เพราะต้องทำงานจริงจังแล้ว" บรูคลินพูดถึงน้องสาวฝาแฝดอีกสองคนของเขา
"อ้อ ปีนี้พวกเราก็อายุครบ 25 กันแล้วเนอะ น่าจะได้เวลาเลิกเที่ยวเล่น เริ่มจริงจังได้แล้ว แล้วเราล่ะ จริงจังหรือยัง"
"ก็รับงาน กิจการทุกอย่าง บริษัทพ่อเต็มตัว ฉายเดี่ยวแล้วครับ จะมีก็แต่ไอ้เต็มที่ช่วย" บรุคลินพุด แต่สายตาก็เหลือบไปมองด้านล่างอยู่บ่อยๆ จนเบย์เริ่มสังเกตได้
"เริ่มจริงจังกับงานแล้วใช่ไหม แล้วเริ่มจริงจังกับการมีเมียบ้างหรือยัง" เบย์เอ่ยถามหลานชาย
เขาไม่ได้คาดหวังกับคำตอบหรอก เพราะเขารู้ดีว่าหลานชายของเขาคนนี้ไม่ค่อยสนใจผู้หญิงเลย มีข่าวขึ้นโซเชียลก็บ่อย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวเกี่ยวกับงาน นักธุรกิจที่อายุน้อยที่สุด หล่อที่สุด รวยที่สุด ชื่อเสียงโด่งดังกว่าคนในวงการบันเทิงหลายคน และที่สำคัญยังโสด ไม่เคยมีข่าวฉาวกับสาวคนไหนเลยสักครั้ง หรือเรียกได้ว่าไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้เข้าใกล้เขาเลยด้วยซ้ำ เพราะความเป็นคนขี้รำคาญ ชอบหงุดหงิดพอๆ กับพ่อเขานั่นแหละ
"จะมีเมียได้ยังไงล่ะครับ แม้แต่หมาที่เป็นตัวเมียยังไม่ได้เข้าใกล้เลย" เต็มเอ่ยขึ้นตอบแทนเบย์ด้วยรอยยิ้มกวนๆ
"มันจะขนาดนั้นเลยเหรอไอ้หลานชาย อาการมันเป็นยังไงไหนพูด! เวลาเจอผู้หญิง" เบย์ถามบรูคลินอีกรอบ
"น่ารำคาญ! ผู้หญิงน่ารำคาญ น่าหงุดหงิด จู้จี้ขี้บ่น พูดมาก ขี้งอน เอาแต่ใจ ขี้น้อยใจ เป็นอะไรก็ไม่ค่อยบอก" บรูคลิน สาธยายเกี่ยวกับความรู้สึกของเขาที่มีต่อผู้หญิง แต่ทุกสิ่งที่เขาพูดมา ก็เป็นแค่สิ่งที่เขาคิดไปเองเพราะฟังเรื่องของผู้หญิงจากเต็มบ่อยๆ ทำให้เขารู้สึกแบบนั้นไปเองทั้งๆ ที่ยังไม่เคยสัมผัสกับผู้หญิงจริงๆ ด้วยซ้ำ
"พูดเหมือนกับเคยมีแฟนมาแล้วงั้นแหละ" คีย์เอ่ยแซวหลาน ด้วยรอยยิ้ม
"ไม่เคยครับอาคีย์" บรูคลินพูดตอบ พร้อมกับทำหน้าแหยๆ ให้กับคีย์
"แต่เมื่อกี้นายกำลังแอบมองสาวอยู่เลยนะครับ" เต็มรายงานบอกกับพวกนายใหญ่
"พูดมากว่ะไอ้เต็ม" บรูคลินหันไปดุเต็มอย่างไม่จริงจังมากนัก ดุแบบรำคาญเสียมากกว่า
"ไหน มองสาวคนไหน อยู่ในคลับนี้หรือเปล่า" คีย์เอ่ยถาม
"อยู่ในนี้ครับนาย ตาถึงด้วย อย่างสวยอ่ะ" เต็มอวยเจ้านายของตัวเองโชว์
"ใคร? แขกที่นี่เหรอ" เบย์ถามบ้าง หลังจากนั่งฟังมาได้สักพัก
"ไม่ใช่ครับ เหมือนจะเป็นนักร้อง เพราะยืนถือไมค์อยู่บนเวที" เต็มเป็นคนบอกแทนบรูคลิน พร้อมกับชี้นิ้วไปทางด้านล่างคลับ ตรงเวที ที่ตอนนี้ก็ยังมีนักร้องสาวคนเดิมร้องเพลงอยู่ด้วยรอยยิ้มสดใสน่ารัก
"แสนซน!!" คีย์เอ่ยออกมาสั้นๆ แต่ชัดถ้อยชัดคำ
"อะไรนะครับ" บรูคลินถามอาของเขา เหมือนกับได้ยินอะไรบางอย่างแต่ไม่แน่ใจว่าหมายถึงอะไร
"นั่นน่ะ ไม่ใช่แขก ไม่ใช่พนักงานหรอก" คีย์บอกกับบรูคลิน
"เธอเป็นนักร้องเหรอ" บรูคลินถามกลับอย่างสนใจ ทำเอาเบย์กับคีย์แปลกใจกับการกระทำของหลานมาก เขาไม่เคยเห็นหลานสนใจใครเท่านี้มาก่อน เขาเห็นมาตั้งแต่ตอนคลอดเลยด้วยซ้ำ แถมยังเลี้ยงมากับมือด้วย
"จะว่าใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่" เบย์พูดอย่างยียวน เพราะรู้ว่าตอนนี้หลานเขากำลังสนใจหญิงสาวคนนี้
"อ้าว อาเบย์อย่ากวนดิ"
"ทำไม? ก็ไหนว่าไม่สนใจผู้หญิงไง"
"อยากรู้เฉยๆ หรอก ถ้าอาไม่บอก ผมสืบเองก็ได้" บรูคลินพูดพร้อมกับหันไปมองที่ด้านล่างอีกครั้ง
"คนนี้ไม่ได้ จะมาเล่นๆ ไม่ได้" คีย์เอ่ยขึ้นแทรก
"ทำไมอ่ะ ทำไมหวง" บรูคลินถามกลับด้วยความสงสัย
"คนนี้ไม่ใช่นักร้องธรรมดา" คีย์ตอบ
"เขาเป็นนักร้องพิเศษเหรอครับ พิเศษยังไง เธอเป็นออทิสติกเหรอครับ" บรูคลินถามกลับด้วยสีหน้าใสซื่อ ด้วยความไม่เข้าใจในความหมายของคำพูดคีย์ แต่คำถามของเขาเหมือนกับว่ามันกำลังกวนประสาทอยู่
"ไม่ใช่ เธอชื่อ แสนซน เป็นลูกของอาเอง" คีย์บอกกับบรูคลิน
"ห๊ะ! ลูกเหรอ อาไปมีลูกตั้งแต่เมื่อไร อีกอย่างอาเบย์ทำอาคีย์ท้องไม่ได้ อย่ามาโกหกผม" บรูคลินตกใจนิดหนึ่ง แต่ก็กลับมาเป็นปกติเมื่อคิดได้ว่าอาของเขามีลูกไม่ได้
"นี่แกกวนประสาทอาเหรอ" เบย์ถาม
"ไม่ใช่ครับ ผมคิดงั้นจริงๆ"
"แสนซนเป็นลูกบุญธรรมอาเอง อารับเป็นลูก ดูแลค่าใช้จ่ายส่งเสียให้เรียนจนจบตั้งแต่ประถม แค่เพียงไม่ได้รับมาอยู่ด้วย" คีย์เริ่มอธิบาย
"เธอกำพร้าพ่อแม่เหรอ แล้วเธออยู่ที่ไหน บ้านเด็กกำพร้าเหรอครับ" บรูคลินถามอย่างสนใจ
"แม่ของแสนซนเคยทำงานให้อาเอง พอคลอดแสนซนออกมาไม่นาน พ่อและแม่ของเธอก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุพร้อมกันทั้งคู่เลย ตั้งแต่แสนซนเด็กๆ อายุน่าจะประมาณ1-2 ขวบมั้งนะ อาเลยรับเป็นลูกบุญธรรม และให้แม่บ้านเลี้ยงมาตลอด ไม่นานมานี้แสนซนเพิ่งออกไปอยู่คอนโดคนเดียว และก็หางานทำ หาเงินใช้เอง อาให้เงินก็เก็บไว้ไม่ยอมใช้เลย" คีย์เล่าด้วยใบหน้าเศร้า เมื่อพูดถึงลูกน้องที่ทำงานกับเขามายาวนานต้องเสียชีวิตลงพร้อมกัน เขาต้องรับแสนซนมาเป็นลูกของตัวเอง เพราะเขามีลูกไม่ได้ อีกอย่างเขารู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยกำพร้านี้เหมือนลูกจริงๆ เขาช่วยเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด เพราะแม่และพ่อของเธอทำงานกับเขามานาน สนิทสนมกันมากพอสมควร พอทั้งคู่จากไปโดยไม่ได้ร่ำลาเขาก็รู้สึกสงสารเด็กน้อย
ความจริงแล้ววันนั้นทั้งคู่ออกไปทำงานให้เขาแต่ไม่ได้เอาลูกน้อยไปด้วย เพราะทำงานไม่ถนัด จึงฝากเด็กน้อยไว้ที่บ้านของเขา เด็กน้อยจึงรอดมาได้ ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือเป็นโชคชะตาของแสนซนกันแน่
"ทำไมเธอถึงมาเป็นนักร้องล่ะครับ"
"พอแสนซนรู้ว่าอาเป็นคนส่งเสียมาตลอด เลยอยากทำงานตอบแทน และหาเงินใช้เอง"
"เธอรู้หรือเปล่าครับว่าอาคีย์ไม่ใช่พ่อแม่ของเธอ" บรูคลินยังคงถามไม่หยุดซึ่งเขารู้สึกสนใจผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างมาก
"รู้แล้วจ้า อาบอกเธอมาตลอด และก็ให้เธอคิดถึงพ่อแม่ของเธอไว้ตลอดในการใช้ชีวิต" คีย์ตอบ
"ตอนนี้กำลังผมขาดเลขา อยากได้เธอมาทำงานด้วย" บรูคลินเอ่ยขึ้นดื้อๆ ทำเอาคีย์ทำหน้าเหวอนิดหนึ่ง ก่อนหันไปมองหน้าเบย์เพื่อขอความคิดเห็น
"อาก็ตัดสินใจให้แสนซนไม่ได้หรอกนะ ต้องไปถามแสนซนเอาเองว่าเจ้าตัวจะยอมไปทำงานด้วยไหม" คีย์ตอบหลานออกไป
"เรื่องนั้นไม่มีปัญหาครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง ผมบอกอาคีย์ไว้ เพื่อเป็นการขออนุญาต แต่ถึงอาไม่อนุญาตผมก็ไม่ได้สนใจนะครับ" บรูคลินพูดอย่างเอาแต่ใจ ส่งยิ้มให้คีย์ก่อนจะหันกลับไปมองที่เวทีด้านล่าง
เต็มที่นั่งฟังอยู่ถึงกับยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้านายของตัวเองพูด
เพราะเขารู้ว่าเจ้านายของเขาถ้าอยากได้อะไรก็จะเอาให้ได้ เหมือนกับการทำธุรกิจนั่นแหละ เพราะความอยากเอาชนะ เอาแต่ใจทำให้เขากล้าทำในสิ่งที่หลายคนไม่กล้า ถ้าอยากทำธุรกิจกับบริษัทไหน ต่อให้มีแต่คนคัดค้านเขาก็ไม่สนใจ หากเขาอยากจะได้
เบย์ได้ยินในสิ่งที่หลานชาย ที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดพูด ก็ถึงกับทำหน้าหนักใจ ในความเอาแต่ใจของหลานตัวเอง ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เขาก็คงห้ามไม่ได้ เพราะเขาเองก็รู้ว่าหลานตัวเองนิสัยยังไง
ทุกอย่างต่อจากนี้จะเป็นไปยังไงต่อไป ก็ขึ้นอยู่กับคนทั้งคู่ บรูคลิน และ แสนซน ...