ตอนที่5 หยอกเล่น
ตอนที่5 หยอกเล่น
บรรดาผู้ชายในหมู่บ้านส่วนมากจะออกไปทำงานข้างนอกกันเสียหมด จำนวนผู้หญิงในหมู่บ้านจึงมากกว่าผู้ชาย ในหมู่บ้านบรรดาเหล่าสะใภ้มักจะรวมตัวพูดคุยกัน
“ดูนั่นสิ นั่นไม่ใช่หลินหยางหรอกหรือ?” กลุ่มผู้หญิงที่กำลังนั่งล้อมวงพูดคุยกันอยู่ไกลๆ โดยมีหนึ่งในนั้นที่มองเห็นเขา
“จะไม่ใช่ได้อย่างไรกันล่ะ เด็กคนนี้ยิ่งโตยิ่งหล่อ”
“ก็ใช่น่ะสิ พวกเธอดูที่เป้ากางเกงของเขาสิ ดูเหมือนของเจ้าเด็กนั่นจะไม่ใช่เล็กๆนะ” หลี่ซูเฟินค่อนข้างจะใจกล้า มองไปยังหลินหยางที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แล้วเอ่ยออกมาอย่างกำเริบเสิบสาน
“ฮ่าๆ เจ้าเด็กนี่ตอนกลางคืนก็อยู่คนเดียวด้วยสินะ หลี่ซูเฟินถ้าเธอทนไม่ไหว ตกดึกหน่อยก็ไปเคาะประตูบ้านเขาสิ” ได้ยินหลี่ซูเฟินว่าดังนั้น หนึ่งในสะใภ้ที่อยู่ด้วยกันจึงเอ่ยหยอกล้อกับเธอ
“บ้าสิ เขาเป็นถึงนักศึกษาในเมือง หากฉันไปเขาคงไม่เปิดประตูให้หรอก ฉันว่าให้พี่หลิวเซียงไปดีกว่า”
“.......”
พวกผู้หญิงในหมู่บ้านมักจะมารวมตัวกันเช่นนี้ ไม่มีอะไรทำก็พูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระ เรื่องเล็กๆน้อยๆไม่เป็นเรื่อง หรือเรื่องน่าเบื่อ แต่เรื่องระหว่างหญิงชายดูพวกเธอจะมีความกระตือรือร้นมากเป็นพิเศษ
จากเมื่อคืนที่ความสามารถของเขาพัฒนาขึ้นเล็กน้อย การได้ยินของเขาราวกับว่าโสตประสาทของเขาจะได้ยินสิ่งที่ผู้หญิงกลุ่มนั้นคุยกันทั้งหมดอย่างชัดเจน
แม้ว่าหลินหยางจะไม่ใช่คนหน้าบาง แต่อยู่ต่อหน้าผู้หญิงมากเช่นนี้ เขาเองก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน
“หลินหยาง ตอนกลางคืนถ้าหลี่ซูเฟินไปเคาะประตูบ้านเธอ เธอจะเปิดไหม” หลิวเซียงที่หยอกล้อเมธีนีเมื่อซักครู่เอ่ยถามเขา
“ฮ่าๆๆ...” ผู้หญิงคนอื่นๆก็หัวเราะตามๆกัน
“เปิดสิครับ พวกคุณไป ผมก็เปิดหมดล่ะครับ แต่ว่าต้องมาทีละคนนะ หากบังเอิญมาเจอกันคงไม่ดีแน่” หลินหยางจึงเอ่ยหยอกล้อกับพวกเธอไปเช่นกัน
“ฮ่าๆ ได้ยินแล้วใช่ไหม เจ้าเด็กคนนี้ยังจะเอาเปรียบพวกเราอีกเสียด้วย หลินหยาง เธอถอดกางเกงลงสิ ถ้านกของเธอใหญ่กว่าพวกผู้ใหญ่ล่ะก็ คืนนี้พวกเราจะไปหาเธอให้หมดนี่เลย” หลี่ซูเฟินเอ่ยบอกกับเขา
ปีนี้หลี่ซูเฟินอายุสามสิบหก หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร เพียงแต่จะอ้วยไปเสียหน่อย เมื่อก่อนได้ยินคนอื่นเคยพูดว่า ผู้หญิงคนนี้มีอารมณ์ทางเพศที่รุนแรงมาก ผู้ชายธรรมดาจะไม่สามารถทำให้เธออิ่มได้ สามีของเธอแต่งงานกับเธอมาสิบกว่าปี เขาอายุสี่สิบปีแล้วไม่เพียงแต่ไม่มีลงพุงเหมือนคนติดเบียร์ แต่ยังผอมมากและดูเหมือนจะอยู่ในภาวะเป็นโรคไตอีกด้วย
“ผมขอตัวไปซื้อน้ำหมึกก่อนนะครับ” หลินหยางประเมินค่าของผู้หญิงกลุ่มนี้ต่ำเกินไปเสียแล้ว เขาจึงทิ้งไว้เพียงประโยคนั้นแล้วเดินเลี่ยงออกมา ปล่อยให้ผู้หญิงกลุ่มนั้นนั่งหัวเราะกันต่อไป
“จางชุ่ยฮัว มีน้ำหมึกไหม? ขอซักขวดสิ”
ทางเข้าของหมู่บ้านมีร้านค้าเล็กๆร้านหนึ่งซึ่งเป็นร้านของจางชุ่ยฮัว ปีนี้เธออายุเต็มสี่สิบ หน้าตาถือว่าไม่เลว ปกติแล้วเธอจะทาแป้งแต่งหน้าบางๆ หนุ่มในหมู่บ้านก็ชอบเธออยู่ไม่น้อย
แต่แฟนของจางชุ่ยฮัวเป็นนายหมู่บ้าน ปกติแล้วจึงไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับเธอ
จางชุ่ยฮัวที่อายุปาเข้าไปสี่สิบแล้วนั้น รูปร่างของเธอท้วมเล็กน้อย หรือจะเรียกได้ว่ารูปร่างอวบ มัดผมหางม้า ราวกับผลแอปเปิ้ลสุก
นับว่าจางชุ่ยฮัวเป็นผู้หญิงหนึ่งคนที่มีลักษณะเป็นไปทางชาวตะวันตก เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ค่อนข้างจะเซ็กซี่ สวมกระโปรงสั้นคลุมลงมาถึงแค่ครึ่งต้นขา ด้านบนสวมใส่เสื้อที่หากเพียงแค่เอี้ยวตัว หน้าอกก็ล้นออกมาให้ได้เห็น
ในหมู่บ้าน ผู้หญิงที่ไม่ใส่ชุดชั้นในนั้นมีอยู่มาก และวันนี้จางชุ่ยฮัวก็ไม่ได้ใส่เช่นกัน
ในเวลานั้น จางชุ่ยฮัวกำลังนั่งยองๆอยู่ที่พื้นกำลังออกแรงลากลังที่ใส่หมึกออกมา หลินหยางกลับมองลอดผ่านคอเสื้อของเธอไปเห็นเนินสีขาวที่มีขนาดใหญ่อยู่ด้านในนั้น
จางชุ่ยฮัวออกแรงลากลังออกมาจากตรงเคาน์เตอร์ ด้านในบรรจุขวดน้ำหมึกอยู่ไม่กี่ขวด
แต่ตอนที่เธอกำลังลากลังออกมานั้น หน้าอกที่กระเพื่อมเด้งไปมาราวกับสปริงอยู่ด้านหน้า ทำเอาเขาตาลายไปหมด
แววตาฉายประกายความปรารถนาของหลินหยาง ความสุขจากความแนบชิดของหนุ่มสาวเมื่อคืนทำให้เขาได้รู้รสชาตินั้น แววความเจ้าชู้ของผู้ชายเริ่มค่อยๆปรากฎออกมา
“ได้แล้ว อันนี้ขวดละ1.5บาท” จางชุ่ยฮัวหยิบขวดหมึกขึ้นมาหนึ่งขวดแล้วยื่นส่งให้หลินหยาง
จางชุ่ยฮัวที่ยืนขึ้นแล้วนั้นหน้าอกของเธอก็ถูกปิดคลุมเอาไว้ แต่เมื่อมองทะลุเสื้อบางๆของเธอนั้น ก็มองเห็นก้อนเนื้อนุ่มๆ อีกทั้งยังสามารถมองเห็นเม็ดไข่มุกที่นูนออกมาได้อย่างชัดเจน
ราวกับว่ารับรู้ได้ถึงสายตาที่มองมาของหลินหยาง ในใจของเธอก็รู้สึกหวั่นไหวเช่นกัน ตัวเธอเองอายุปาเข้าไปสี่สิบแล้ว แต่เธอก็ยังคงมีเสน่ห์พอที่จะดึงดูดสายตานักศึกษาอย่างหลินหยางได้เพียงนี้
และสำหรับเค้าโครงอันแสนใหญ่โตตรงเป้ากางเกงของเขา เธอเองก็เห็นได้อย่างชัดเจน แววตาความปรารถนาค่อยๆฉายออกมาให้ได้เห็น
“เมื่อซักครู่เธอมองอะไรน่ะ?” จางชุ่ยฮัวหัวเราะพลางเอ่ยถามหลินหยาง
“ผมมองกระต่ายสองตัวกระโดดไปมา แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เห็นแล้วครับ สงสัยผมคงจะตาลาย” เขาเอ่ยตอบกลับไปอย่างเป็นปกติ