บทที่ 5
ก่อนจะคิดในใจว่าพี่น้องฝาแฝดคู่นี้ช่างต่างกันลิบลับ อลินรดาเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน หัวอ่อนและขี้น้อยใจ ในขณะที่อลิสาดูเป็นผู้หญิงโมโหร้าย อารมณ์รุนแรงและเปรี้ยวเข็ดฟัน
“ถ้าอย่างนั้นเราฝากวินดูความเรียบของงานแทนเราที เดี๋ยวเราขอไปธุระที่บ้านแปปนึง”
“อะ เอ่อ… ได้” อัศวินอึกอักเล็กน้อย แต่ก็ยอมทำตามที่เธอบอก
“ขอบคุณนะ” ว่าจบอลิสาก็พุ่งไปยังลานจอดรถอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขับรถหรูราคาสิบล้านบาทของเธอออกไปจากบริเวณวัดทันที
ติ๊งต๊อง! ติ๊งต๊อง! ติ๊งต๊อง!
ร่างบางระหงพาตัวเองมาอยู่หน้าบ้านของผู้เป็นป้า ก่อนจะลงมือกดออดรัวๆ เพื่อเรียกให้คนในบ้านออกมาเปิดประตู
“โอ๊ย! มาแล้วๆ จะกดอะไรกันนักกันหนาล่ะคะคุณ” เสียงคนรับใช้บ่นกระปอดกระแปดมาแต่ไกลดังขึ้น ทำให้ผู้มาเยือนต้องแสดงตัว และออกคำสั่งให้เปิดประตูเสียงเย็น
“รีบมาเปิดประตูเร็วเข้าสิ!”
“ค่ะๆ” สาวใช้รีบรับคำ แล้ววิ่งเข้ามาเปิดประตูให้เธอ
“พี่เกวอยู่บ้านหรือเปล่า !?”
“อยู่ค่ะ คุณเกวอยู่ที่ห้องรับแขกค่ะ ตอนนี้กำลังทานของว่างอยู่คู่…”
สาวใช้คนเดิมตั้งใจจะบอกว่าเกวลินกำลังอยู่กับคู่หมั้น ทว่าอีกฝ่ายกลับหุนหันพันแล่นก้าวฉับๆเข้าไปในตัวบ้านอย่างรวดเร็ว แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆทั้งสิ้น
“มันเป็นใคร !?” อลิสาตะเบ็งเสียงถามลูกพี่ลูกน้องของเธอเสียงดังลั่น จนคนที่กำลังออดอ้อนออเซาะแฟนหนุ่มอยู่ถึงกับสะดุ้งสุดตัว
“กะ กะ แกหมายถึงใคร แล้วมาทำอะไรที่นี่” เกวลินถามอย่างหวาดหวั่น เพราะเวลานี้มารดาของเธอไม่อยู่บ้าน และเธอเองก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะมีปัญหากับอลิสา ที่นับได้ว่าเป็นมือตบประจำไฮสคูล
“ไอ้ผู้ชายเฮงซวยมันคือใคร !?” ผู้มาเยือนกระชากเสียงถามซ้ำอีกครั้ง พลางถลึงตาใส่คู่สนทนาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ผู้ชายคนไหน ถามบ้าอะไรของแก !”
“คนที่มันทำให้อลินท้อง… มันเป็นใคร !?”
“ฉะ ฉัน ฉันจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะ ฉันไม่ใช่นังอลินซะหน่อย”
คนพูดดวงตาแดงก่ำราวกับกำลังจะร้องไห้ออกมา จนผู้ชายข้างตัวต้องกอดปลอบเธอเอาไว้
“ก็แค่ผู้ชายที่เจอกันในผับ ฉันไม่ได้สนใจนี่”
“แต่พี่เกวเป็นคนพาอลินไป พี่เกวต้องเคยเห็นหน้ามันสิ!”
“ฉันเคยเห็นแค่สองสามครั้ง” เกวลินพูดขึ้นอย่างยอมจำนน เพราะเธอเองก็รู้สึกผิดต่อญาติผู้น้อง ที่เป็นฝ่ายชักนำให้คนหัวอ่อนอย่างอลินรดาไปยังสถานที่อโคจรแบบนั้น
“มันเป็นใคร !?” อลิสากระชากเสียงถามอีกหน แต่คู่สนทนากลับส่ายหน้ารัวๆ แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมา
“ฉันไม่รู้จริงๆ เขาเป็นลูกค้าวีไอพีของผับ ท่าทางแบดบอย แล้วก็ดูมีอันจะกิน เอ่อ…สูงประมาณร้อยแปดสิบได้ล่ะมั้ง ฉันจำชื่อเขาไม่ได้หรอก เคยได้ยินอลินเรียกแค่ไม่กี่ครั้งเอง เหมือนจะยังเรียนอยู่ด้วยนะ แต่คงเป็นรุ่นพี่ เพราะยัยอลินเรียกเขาว่าพี่” คนพูดพยายามนึกถึงชื่อของผู้ชายคนนั้น แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก
“ผับนั่นอยู่ที่ไหน ไปเขียนแผนที่มาเดี๋ยวนี้!” คนที่กำลังโดนโทสะเข้าครอบงำออกคำสั่งเสียงดัง จนคนฟังลนลานตัวสั่นงันงก
“ปะ ไปค้นเองสิยะ ชื่อ PG Pub น่ะ อยู่ไม่ไกลจากมหาลัยของอลินเท่าไหร่หรอก”
เกวลินบอกปัด เพราะเธอทำอะไรไม่ถูกแล้วในเวลานี้ แถมแฟนหนุ่มของเธอที่หวังใช้เขาเป็นที่พึ่งยังนั่งเงียบกริบหัวหด ราวกับกลัวว่าจะถูกลูกพี่ลูกน้องของเธอพ่นไฟใส่หน้ายังไงอย่างนั้น
“แล้วทำไมพี่เกวต้องพาอลินไปที่นั่น !?”
“ก็… ฉันเห็นยัยนั่นเครียดๆ ก็เลยชวนไปปลดปล่อย”
“แล้วอลินก็ไปเลยหรอ” อลิสาถามอย่างไม่เชื่อหู เพราะอลินรดาไม่ได้นิสัยก๋ากั่นเช่นเธอ
“ตอนแรกก็ไม่ยอมไป ตะ ตะ แต่ว่าฉันเป็นคน บะ บังคับให้ไป”
“ว่าไงนะ !?” อลิสาตะคอกถามเสียงดังอีกหน ก่อนจะกระโจนเข้ามาบีบคอเธออย่างรวดเร็ว
“กรี๊ด! แค่กๆ ปะ ปล่อย”
“ผมว่าคุณปล่อยเกวเถอะครับ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นหรอก” แฟนหนุ่มของเกวลินพูดขึ้น และทำท่าจะเข้ามาห้าม
“หุบปาก!” อลิสาตะคอกใส่เขาด้วยอีกคน ก่อนจะเหวี่ยงเกวลินใส่โซฟาแรงๆด้วยอารมณ์โทสะ แล้วเดินออกจากบ้านไป...