บทที่ 2
“กรี๊ด!! นี่แกคิดว่าตัวเองไปเรียนเมืองนาเมืองนามา แล้วจะหยิบยกกฎหมายบ้าบอคอแตกอะไรนั่นมาข่มฉันงั้นหรอ” คนที่เห็นความพ่ายแพ้อยู่รำไรตะโกนขึ้นอย่างไม่ยอมรับความจริง
“ถึงหนูจะหน้าเหมือนอลิน แต่อย่าลืมสิคะว่าหนู… ไม่ใช่อลิน”
น้ำเสียงแข็งกระด้าง กับสายตาจิกทึ้งที่เธอส่งกลับไปให้ผู้เป็นป้า สำหรับคนอื่นๆอาจจะมองว่าเธอเป็นเด็กก้าวร้าว แต่คนอย่างอลิสาไม่เคยแคร์ความคิดเห็นของใครอยู่แล้ว เพราะคนเหล่านั้นไม่ใช่แม่ และพี่สาวฝาแฝดของเธอ…ที่ตายไปแล้ว
“ผมว่าคุณอนงค์เนตรเอาจดหมายให้หนูอลิสไปเถอะครับ ยังไงมันก็เป็นของเธอ ถ้าหากจดหมายเขียนกำกับไว้ชัดเจนว่าผู้เขียนต้องการส่งถึงใคร” ทนายวัยกลางคนพยายามเกลี่ยกล่อมอย่างใจเย็น แต่มีหรือคนที่เอาตัวเองเป็นใหญ่ตลอดเวลาอย่างอนงค์เนตรจะยอมคล้อยตามง่ายๆ
“ไม่! จดหมายนั่นอยู่บ้านฉัน มันก็นับเป็นของฉัน”
“ป้าเนตรกลืนจดหมายลงท้องไปแล้วหรอคะ ถึงได้หวงนักหวงหนา!” อลิสาแหวใส่อย่างสุดกลั้น
ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดไปอีกจนเกือบถึงขั้นบนสุด แต่กลับถูกลูกสาวคนโตของอนงค์เนตรเข้ามาตะครุบและสวมกอดจากทางด้านหลัง
“จะปล่อยไหม ถ้าไม่ปล่อยฉันถีบ!”
ทันทีที่เธอขู่ออกไปอย่างนั้น ลูกพี่ลูกน้องจอมขี้ขลาดก็รีบปล่อยมือออกจากตัวเธอ แล้ววิ่งหนีลงบันไดไปอย่างไม่คิดชีวิต
“แกบุกรุกบ้านฉัน!”
“ไปแจ้งตำรวจซะสิ หนูมีปัญญาจ่ายค่าปรับ!” อลิสาโต้กลับทันควัน
ทว่ายังไม่ทันได้เดินหาห้องของอลินรดา แม่บ้านวัยกลางคนที่เคยเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กก็รีบกวักมือเรียกให้ไปยืน อยู่หน้าประตูไม้บานหนึ่ง พลางยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความดีใจที่ได้เห็นเด็กสาวอีกครั้ง
“ขอบคุณนะคะแม่นิ่ม คิดถึงแม่นิ่มจังค่ะ”
อลิสาโผเข้ากอดคนตรงหน้าด้วยความคิดถึงจับใจ ก่อนที่อีกฝ่ายจะกอดเธอแน่น แล้วรีบดันหลังเธอเข้าไปในห้องนอนของพี่สาวฝาแฝด
“จดหมายของหนูอลินอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงนะคะ แม่นิ่มต้องรีบออกไปก่อน ถ้าคุณเนตรมาเห็นตอนนี้คงไล่ออกแน่ๆ”
“แม่นิ่มไม่ต้องไปหรอกค่ะ ถ้าป้าเนตรไล่แม่นิ่มออก หนูจะพาแม่นิ่มไปอเมริกาด้วยกัน” อลิสาพูดขัดขึ้น ก่อนจะก้าวยาวๆไปหยิบจดหมายที่วางอยู่มาใส่กระเป๋า พร้อมกับกรอบรูปครอบครัวของเธอ ที่เคยถ่ายเอาไว้ขณะที่บิดายังมีชีวิตอยู่
“ไม่ได้หรอกค่ะ แม่นิ่มติดหนี้บุญคุณคุณเนตรเขา ถึงจะร้ายยังไง แกก็เคยช่วยแม่นิ่มไว้มาก” ว่าจบแม่บ้านวัยกลางคนก็รีบเปิดประตูออกไปทันที เพราะไม่อยากถูกอนงค์เนตรจับได้…
“แกไม่มีสิทธิ์เอาอะไรออกไปจากบ้านฉันทั้งนั้น !”
อนงค์เนตรตะโกนตามหลังหลานสาวเสียงดังลั่น ทว่าคู่กรณีกลับไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านใดๆทั้งสิ้น แถมยังเดินกรีดกายออกจากบ้านไปอย่างสง่างามราวกับนางพญา และยังไม่วายหันมาทิ้งประโยคสุดจี๊ดให้เธอเจ็บใจเล่นอีกด้วย
“เจอกันวันที่หนูเซ็นรับมรดกส่วนของอลินนะคะ”
“กรี๊ดด!! นังเด็กบ้า!”
ผู้เป็นป้ายังคงด่าทอตามหลังไม่หยุดปาก แต่เจ้าของร่างเพียวบางกลับก้าวขึ้นรถยนต์ราคาแพงด้วยท่าทีสบายอารมณ์ พร้อมทั้งเปิดกระจกลงมาส่งจูบใส่คนอาวุโสกว่าอย่างปีนเกลียวอีกด้วย
ณ… คอนโดของอลิสา
มือเล็กเปิดซองจดหมายของพี่สาวฝาแฝดออกอ่านทันทีที่มาถึง
เธอเผลอปล่อยให้น้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาที่หน่วยตาจนดวงตาสวยเฉี่ยวพร่ามัว เมื่อเห็นลายมือเป็นระเบียบงดงามของอลินรดา
‘ถึง… อลิส
ถ้าอลิสได้อ่านจดหมายฉบับนี้แปลว่าเราได้จากโลกนี้ไปแล้ว เราขอโทษนะที่ไม่ได้เป็นคนบอกลาอลิสเอง เรารู้ว่าถ้าอลิสรู้เรื่องนี้ อลิสจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดเรา
เราผิดเองที่หลงใหลไปกับคารมณ์ของผู้ชายคนนั้น จนปล่อยให้ตัวเองตั้งท้อง เราใจแข็งไม่พอที่จะฆ่าลูกของตัวเองอย่างที่เขาบอก และนี่ก็เป็นทางออกเดียวที่เราเลือก
ตอนนี้อลิสคงมีคำถามมากมายที่จะถามเราใช่ไหม อลิสคงโกรธที่เราไม่เลือกไปอยู่กับแม่และอลิสที่อเมริกา แต่เราไม่อยากเป็นภาระของใคร อย่างน้อยการที่เราตายไปสักคนก็ไม่มีใครต้องเดือดร้อน ป้าเนตรกับลูกๆของเขาจะได้เลิกเอาเรื่องที่เคยเลี้ยงดูเราไปทวงบุญคุณกับแม่ สักที
เราเหนื่อยเหลือเกินอลิส เหนื่อยเกินกว่าจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว อลิสต้องดูแลตัวเองดีๆนะ เรารู้ว่าอลิสเป็นคนเก่ง พ่อกับแม่ต้องภูมิใจในตัวอลิสมากแน่ๆ ขอบคุณที่อลิสเกิดมาเป็นน้องสาวของเรานะ
รักเสมอ
อลิน’