

ตอนที่ 6 หัวใจเพลย์บอย / ปฐพี
ตอนที่ 6 หัวใจเพลย์บอย / ปฐพี
หนูนาขับรถกลับบ้านด้วยความเหนื่อยล้า บ้านของหนูนาเป็นบ้านสองชั้น ชั้นบนเป็นห้องนอน ส่วนชั้นล่างเป็นร้านค้า แม่ของหนูนาเปิดร้านขายของมานานมากแล้ว ส่วนด้านหลังบ้านชั้นล่าง ก็จะเป็นส่วนของห้องครัว บ้านของหนูนาอยู่กันแค่สามคน พ่อแม่และก็เธอเพราะเธอเป็นลูกคนเดียว
“กลับมาแล้วเหรอลูก” หนูนาจอดรถแล้วเดินเข้าบ้านด้วยรองเท้าแตะ จะให้ใส่ส้นสูงเหมือนตอนออกจากบ้านไป ก็คงไม่ไหว เพราะตอนนี้หนูนาปวดขามาก
“ค่าแม่” เธอตอบแม่ของเธอด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้าสุดๆ
“ทำงานโรงแรมวันแรกเป็นยังไงบ้างลูก” คนเป็นแม่ตื่นเต้นแทนลูกสาว เอ่ยถามขึ้น
“เหนื่อยมากเลยค่าแม่...”
“ถ้างั้นก็ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวลงมากินข้าวพร้อมกัน” หนูนาเดินขึ้นชั้นบนของบ้านอย่างลำบากเพราะขาที่ปวดหนัก เข้าห้องนอนของตัวเองไปอาบน้ำ แล้วเธอก็นอนเล่นจนเผลอหลับไป จนได้ยินเสียงเคาะประตู แม่ของเธอมาเรียกให้ลงไปกินข้าวนั่นเอง
“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!”
“หนูนา...หนูนากินข้าว”
“อ่อค่า เดี๋ยวหนูนาตามลงไป”
“ตามลงไปเร็วๆนะจะได้กินพร้อมๆกัน”
“ค่า...ค่า...” น้ำเสียงของคนพึ่งตื่นก็จะงัวเงียหน่อยๆหนูนาเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา แล้วก็เดินลงไปชั้นล่าง กินข้าวเย็นกับพ่อกับแม่ของเธอ
“งานที่โรงแรมเป็นยังไงบ้างลูก คุณดินเขาให้ลูกไปทำงานตำแหน่งอะไรล่ะ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกสาวขึ้น เพราะดูจากสีหน้าของหนูนาแล้ว น่าจะเหนื่อยมากจริงๆ
“พนักงานต้อนรับค่ะ”
“อือก็ดีนี่ พ่อคิดว่าคุณดินเขาจะให้ลูกสาวของพ่อไปล้างห้องน้ำซะอีกฮ่าๆๆ” คนเป็นพ่อเห็นลูกสาวเหนื่อยๆ จากการทำงานวันแรกในชีวิต ก็อยากให้ลูกสาวผ่อนคลาย
“พ่อก็... แต่ถ้าล้างห้องน้ำก็น่าจะสบายกว่านี้” เธอคิดแบบนั้น
“อ้าวทำไมล่ะ” ทั้งสามคนพ่อแม่ลูก นั่งทานข้าวกันไปคุยกันไป โดยมีคนเป็นแม่นั่งฟังสองพ่อลูกคุยกัน
“เหนื่อยมากเลยค่ะพ่อ หนูนาพึ่งจะรู้ว่างานบริการมันเหนื่อยมากขนาดนี้” ที่จริงแล้วงานทุกงานก็เหนื่อยเหมือนกันนั่นแหละ แต่สำหรับหนูนา วันนี้คือการทำงานวันแรกในชีวิตของเธอ ซึ่งโดยปกติของร่างกายคนเราแล้ว จะค่อยๆปรับตัวได้เอง แล้ววิชิตก็กำลังจะสอนลูกสาวในเรื่องนี้
“งานทุกอย่างไม่ว่างานอะไรมันก็ต้องเหนื่อยทั้งนั้นนั่นแหละ”
“แล้วงานที่พ่อทำเหนื่อยไหมคะ พ่อเป็นพ่อครัวก็คงต้องยืนทั้งวันเหมือนกัน” หนูนารู้สึกว่างานที่พ่อของเธอทำ ก็คงต้องเหนื่อยมากแน่ๆ พ่อของเธอหาเงินให้เธอใช้ หาเงินให้เธอเรียน
“เหนื่อยสิ เมื่อก่อนที่พ่อเข้าไปทำงานที่ต้องใช้ขายืนทั้งวัน มันก็จะเหนื่อยแบบนี้นั่นแหละ แต่เดี๋ยวร่างกายของเราก็จะปรับตัวได้เอง เดี๋ยวก็ปกติแล้ว...เชื่อพ่อสิ”
“จริงเหรอคะ ร่างกายของเราจะปรับตัวได้จริงๆเหรอ พ่อไม่ได้หลอกหนูนาใช่ไหม วันนี้หนูนาปวดขามากเลยค่ะ ว่าจะแช่น้ำอุ่นสักหน่อยแต่พอดีเผลอหลับไป”
“จริงสิ สักอาทิตย์นึงก็น่าจะเข้าที่แล้ว”
“ห๊ะ!...อาทิตย์นึง หนูนาต้องตายก่อนแน่ๆ”
“ฮ่าๆๆๆ ไม่ตายเหรอ ถ้าตายคนอื่นเขาก็ตายกันหมดแล้วน่ะสิ เห็นไหมเขาก็อยู่กันได้ เชื่อพ่อแค่ลูกสู้” คนเป็นพ่อก็ต้องการที่จะให้กำลังใจลูกด้วย ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ทุกอย่างก็ต้องการการปรับตัวทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ร่างกายของคนเรา
“ค่า...สู้ก็สู้ค่ะ” แล้วหนูนาก็คิดว่า คนอื่นเขายังทำกันได้เลย เธอก็ต้องทำได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเธอจะไม่มีทางยอมแพ้แน่ แต่พรุ่งนี้เธอต้องย้ายไปทำงานที่รีสอร์ทน่ะสิ ไม่รู้ว่าจะได้ไปทำตรงไหน
“ดีมาก ถ้าเหนื่อยก็กินเยอะๆ วันนี้มีแต่ของโปรดของลูกทั้งนั้นเลย” บนโต๊ะมีแต่ของโปรดของหนูนาก็จริง แต่ตอนนี้เธอกินอะไรไม่ค่อยลง อยากนอนมากกว่า แต่เธอก็กินแหละ เดี๋ยวแม่จะเสียใจ อุตส่าห์ตั้งใจทำอาหารให้เธอกิน แล้วทั้งสามคนก็นั่งทานอาหารมื้อเย็นกันอย่างเอร็ดอร่อย ด้วยฝีมือของแม่นั่นเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น
หนูนาตื่นแต่เช้า อาการปวดขาของเธอเมื่อวานนี้ ก็ดีขึ้นมากแล้ว เธอเดินถือปิ่นโต ในนั้นมีอาหารที่พ่อของเธอฝากถือเอามาให้เจ้านายด้วย นั่นก็คือเจ้านายสุดหล่อ ของรีสอร์ทแห่งนี้นั่นเอง
นอกจากพ่อของหนูนาจะเป็นพ่อครัวที่รีสอร์ทนี้แล้ว พ่อของเธอก็ยังรับหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารของเจ้านายหนุ่มอย่างปฐพีด้วย เป็นรายได้พิเศษที่ปฐพีจ่ายให้วิชิตต่างหาก นอกเหนือจากค่าแรงประจำ
“พี่ดิน...พ่อให้เอาข้าวมาให้ค่ะ” พอดีที่เมื่อวานเขาสั่งเธอไว้ว่าวันนี้ให้เธอมาหาเขาก่อน เพราะวันนี้เธอต้องย้ายเข้ามาทำงานที่รีสอร์ทเป็นวันแรก
“อือแกงอะไรล่ะวันนี้” เขาถามขึ้นเมื่อเห็นเธอถือปิ่นโตเดินเข้ามา ตอนนี้ปฐพีไม่ได้ทำอะไร เพราะกำลังรอเธอมาหาเขานั่นแหละ รอแบบใจจดใจจ่อเสียด้วย
“แกงอะไรก็กินไปเถอะค่ะ” หนูนาไม่รู้จริงๆว่าในปิ่นโตที่เธอถือมา พ่อของเธอใส่แกงอะไรไว้ในนั้น แต่คำตอบของเธอ ทำให้คนฟังคิดว่าเธอกวน
“เอ๊...ทำไมวันนี้ชื่อแกงถึงได้แปลกๆนะ” แหม...แค่ได้เห็นหน้าหนูนา เขาก็อารมณ์ดีแล้ว ต่อให้หนูนากวนมากกว่านี้ ปฐพีก็ยังคงอารมณ์ดีได้
“จะกินหรือไม่กินคะ”
“กินสิ แล้วเราล่ะกินมาหรือยังกินด้วยกันกับพี่ไหม”
“หนูนากินมาแล้วค่ะ” ปฐพียืนกอดอกมองเธออยู่ด้านในบ้าน ส่วนหนูนายังคงยืนอยู่หน้าประตูบ้านยังไม่ได้เดินเข้ามา
“เข้ามาสิ” เธอก้าวขาเดินเข้ามาด้านใน เมื่อคนในบ้านเอ่ยอนุญาตแล้ว
แล้วอยู่ๆภาพเมื่อหลายปีก่อนก็เกิดขึ้นมาให้หัวของปฐพี ตอนที่หนูนาทำให้หัวใจเพลย์บอยอย่างเขาเต้นแรงเป็นครั้งแรก โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คล้ายกับตอนนี้...พ่อของหนูนาใช้ให้เธอเอาข้าวมาให้เขา
“ว๊ายยยย!!!!” เธอก้าวขาขึ้นมาบังเอิญไปสะดุดเข้ากับขอบประตูทำให้หนูนาเซ แล้วเหมือนกับว่าเธอกำลังจะล้ม หน้าของเธอก็กำลังจะทิ่มด้วย ในมือก็ถือปิ่นโต เธอกำปิ่นโตที่พ่อของเธอใช้ให้เอามาส่งให้เจ้านาย เธอกำมันไว้แน่น ด้วยความที่กลัวพ่อจะด่า แต่ในขณะที่เธอกำลังจะล้มลงไปนั้น อยู่ๆก็มีแขนแข็งแรงของเขาโอบเอวเธอไว้แน่น แต่ด้วยความที่เธอเกร็งข้อมือที่ถือปิ่นโตเอาไว้ ทำให้ทั้งสองล้มลง
โดยปฐพีล้มลงไปนอนกับพื้นก่อน แล้วหนูนาก็ล้มทับเขา ริมฝีปากของเธอกับเขาประกบกันพอดี หน้าอกนุ่มนิ่มของหนูนาแนบชิดกับหน้าอกแกร่งของเขาพอดี หนูนาตกใจมือกำปิ่นโตไว้แน่นกว่าเดิม โดยที่ปิ่นโตไม่หกเพราะมันถูกวางอยู่บนพื้นห้องพอดี ส่วนชายหนุ่มหัวใจของเขารู้สึกเต้นโครมคราม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะริมฝีปากของเธอกับเขาที่กำลังแตะกันอยู่ หรือจะเป็นเพราะร่างกายของเธอกันแน่ ที่ทำให้ผู้ชายที่ผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วนอย่างเขา ทำให้หัวใจที่ไม่เคยเต้นแรงแบบนี้มาก่อน กลับเต้นแรงมากจนเขารู้สึกได้
“พี่ดินหนูนาขอโทษค่ะ หนูนาซุ่มซ่ามเอง ดีนะคะเนี่ยที่กับข้าวไม่หกไม่งั้นพ่อด่าหนูนายับแน่ๆเลย” หนูนาไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าเขามีความรู้สึกยังไง หนูนารีบลุกขึ้นแล้วสนใจปิ่นโตในมือทันที โดยไม่ทันได้เห็นว่าเขาแอบเอามือกุมหัวใจของตัวเองเอาไว้ เพราะตอนนี้มันเต้นผิดจังหวะ แถมปฐพียังรู้สึกติดใจกับเนินเนื้อนุ่มนิ่มที่แนบชิดกับหน้าอกของเขาอีกต่างหาก หรืออาจจะเป็นเพราะเขาได้กลิ่นกายของเด็กสาวที่กำลังโตสะพรั่งเต็มตัว
“ไม่เป็นไร ทีหลังก็ระวังหน่อยแล้วกัน” เขาค่อยๆลุกขึ้นมายืนให้เป็นปกติ แล้วก็พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“พี่ดิน!...พี่ดินค่ะ” ปฐพีคิดถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นเมื่อหลายปีก่อน ทำให้เขาเหม่อไปหน่อย หนูนาเรียกพี่ดินตั้งหลายครั้งแต่พี่ดินก็ไม่ได้ยิน เธอก็เลยเรียกเสียงดังขึ้นอีก
“จะเรียกทำไมมีอะไรก็พูดมาสิ”
“หนูนาถามพี่ดินตั้งหลายครั้งว่าพี่ดินจะกินเลยไหม เดี๋ยวหนูนาจัดใส่จานให้”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่จัดการเอง ขอบใจมาก”
“ค่ะแล้วเรื่องงานของหนูนา วันนี้หนูนาต้องทำงานตรงไหนคะ”
“งั้นเดี๋ยวพี่ขอทานข้าวก่อน หนูนาไปนั่งรอพี่ที่ห้องนั่งเล่นก่อนก็ได้เดี๋ยวเราค่อยคุยเรื่องงานกัน” จากนั้นปฐพีก็นั่งทานอาหารเช้าเพราะว่าได้เวลาทานอาหารของเขาแล้ว ปฐพีเป็นคนรักสุขภาพเขาจะต้องทานอาหารตรงเวลาทุกมื้อ ส่วนหนูนาก็ไปนั่งรอเขาที่ห้องนั่งเล่น หนูนาแอบคิดว่าวันนี้พี่ดินจะให้เธอทำงานตรงส่วนไหนกันนะ
