บท
ตั้งค่า

5

“อยู่ที่นี่เองเหรอแม่ตัวดี นอนสบายเลยนะ”

การะเกดปรือตาขึ้นมาอย่างลำบาก เธอแว่วได้ยินเสียงคุ้นเคยของผู้เป็นมารดา อาการไข้ของเธอยังไม่หายดี และยิ่งเหมือนว่าจะเป็นหนักมากขึ้นเสียด้วย หญิงสาวนอนไม่รู้เรื่องรู้ราวเพราะพิษไข้ มาเกือบสองวันแล้วด้วยอาการของไข้หวัดใหญ่

การะเกดพยายามจะยกศีรษะดูเจ้าของเสียงให้แน่ชัด แต่ก็ยากลำบากเหลือเกิน เธอล้มไปกับหมอนอีกรอบ นัยน์ตาหลับพริ้มลงเหมือนเดิมด้วยฤทธิ์ยา ได้ยินทุกอย่างลางเลือนแต่ไม่อาจจะโต้ตอบได้ เพราะความเพลียของพิษไข้ มันจึงเกือบจะเหมือนว่าฝันไป

“เล็กเพียงแค่ไปแจ้งให้คุณป้าทราบ ว่าเก๋อยู่กับเล็ก แต่คุณป้าไม่มีสิทธิ์จะพาเพื่อนเล็กกลับไป เก๋เป็นไข้หวัดใหญ่ คุณหมอเพิ่งจะฉีดยาให้ไป ต้องพักผ่อนมากๆ”

ตรีทิพย์ตรงขวางหน้าแตงทันที หญิงวัยกลางคนท้าวเอวฉับ มองใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักของตรีทิพย์ด้วยสายตาโกรธขึ้ง ลูกสาวตัวดีแทงสามีของนางบาดเจ็บ แค่เรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อยเท่านั้น การะเกดถึงกับแทงสมหมายปางตาย แตงตวาดหญิงสาวตรงหน้าทันที

“ทำไม? ก็นังเก๋มันลูกฉัน มันแทงพี่หมายเค้าเกือบตาย พี่หมายเห็นมันไม่สบายจะเคาะเอายาให้ มันดันแทงเขาเสียได้ ใจดำจริงๆ”

“เหอะ”

ตรีทิพย์ทำปากเบ้ มองกวาดคนตรงหน้าด้วยสายตาบางอย่าง ที่ทำให้แตงไม่พอใจทันที เธอนึกแล้วว่านายสมหมายต้องโกหก เกี่ยวกับเรื่องของการะเกด และแตงก็คงจะเชื่อตามเคย แตงรักและหลงนายสมหมายมาก จนลืมความรักที่มีต่อลูกสาวไปเสียแล้วกระมัง

“คุณป้า คุณป้าเชื่อเรื่องที่ไอ้... สามีคุณป้าพูดด้วยเหรอคะ เขาพยายามจะข่มขืนเก๋ต่างหาก

“ไม่มีทาง พี่หมายเอ็นดูเก๋เหมือนลูก”

แตงเถียงแทนสามี ใบหน้าแดงเรื่อด้วยความโมโห เมื่อได้ยินสาวน้อยรุ่นลูก พูดพาดพิงถึงสามีสุดที่รักด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ตรีทิพย์ถอนใจ แบบนี้คงจะปล่อยให้การะเกดกลับไปไม่ได้เด็ดขาด

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรอให้เก๋หาย แล้วฟังเก๋พูดดู เอาสามีคุณป้ามาพูดกันต่อหน้าไปเลย ว่าใครโกหก ใครพูดจริง”

“เก๋กลับบ้านกับแม่ มารบกวนคนอื่นนานแล้ว”

แตงทำท่าจะฉุดลูกสาวที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงของตรีทิพย์ขึ้นมา แต่ตรีทิพย์ก็ตรงเข้ามาขวาง เธอทรุดลงนั่งบนเตียงนอน พลางท้าวแขนกันการะเกดไว้เสียด้วย

“ไม่ได้หรอกค่ะ ต้องให้เก๋หายดีก่อน”

“มีอะไรกันเหรอน้องเล็ก”

เสียงห้าวทุ้มของตรีศรดังขึ้น เขารออยู่ข้างล่างนานแล้ว เฝ้าแอบฟังเสียงเหตุการณ์ด้านบน ตั้งแต่ที่แตงมาตามหาลูกสาวด้วยท่าทีร้อนรน เขาได้ยินเสียงตรีทิพย์กับแตงเถียงกันเสียงดังเลยรีบขึ้นมาดู

แตงหันไปมองหน้าชายหนุ่ม ก่อนจะพยักพเยิดไปทางน้องสาวคนเล็กของเขา ที่ทำท่าราวกับแม่ไก่หวงลูก เธอกางแขนคร่อมร่างของเพื่อนรักไว้ อย่างจะป้องกันไม่ให้ใครเข้าใกล้การะเกดได้ แม้แต่ปลายเล็บ

“น้องสาวคุณน่ะสิ พิกล ฉันมาตามลูกสาวกลับบ้าน แต่ก็ไม่ยอม”

“เอ่อ...น้องเก๋ยังป่วยอยู่น่ะครับ ให้พักอยู่ที่นี่ก่อนก็ได้ แล้วยังไงผมกับน้องเล็กจะเอาไปส่งให้ เธอเพิ่งจะฉีดยาไปเมื่อครู่ คุณป้าอย่าเพิ่งพาน้องเก๋กลับเลยนะครับ เดี๋ยวอาการจะหนักเสียเปล่าๆ”

“ยังไงก็พามันไปส่งด้วยก็แล้วกัน ขอบคุณนะที่รักษาพยาบาลมันให้ ฉันต้องไปเฝ้าพี่หมายเขาก่อน”

แตงยอมล้มเลิกการพาการะเกดกลับบ้านไว้ก่อน เพราะคำพูดของตรีศร เธอหันมามองลูกสาวบนเตียงของตรีทิพย์อีกรอบ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

เมื่อเห็นดังนั้น ตรีทิพย์ก็รีบลุกขึ้นจากเตีย งแล้วชะโงกมองออกไปยังหน้าต่างทันที ดูให้แน่ใจว่าแตงออกจากบ้านไปแล้ว เธอหันมาเกาะแขนพี่ชายคนรอง พลางแนบแก้มลงไปอย่างประจบ

“พี่รองแน่มากเลย ที่ไล่...”

เธอตะครุบปากตัวเองไว้แทบไม่ทัน ก่อนจะหันมองคนที่นอนอยู่บนเตียง และลดเสียงลงเป็นกระซิบกับหูพี่ชายเบาๆ

“แม่แย่ๆ แบบนั้นไปได้ ใช้ได้ที่ไหน เชื่อสามีตัวเองทุกคำพูดเลย แถมมาว่าเก๋อีกต่างหาก”

“ยังไงเขาก็แม่ลูกกันนะน้องเล็ก ว่าแต่น้องเก๋เป็นอย่างไรบ้าง” ตรีศรมองร่างบางบนเตียงอย่างเป็นห่วง ตรีทิพย์ถอนใจ แล้วยักไหล่

“อาการดีขึ้นแล้วค่ะ หมอบอกว่าอีกสองสามวันก็คงจะทุเลาแล้ว คงจะเครียดแถมเป็นไข้อยู่แล้ว เก๋ไม่ค่อยพักผ่อนทำแต่งาน ถึงแย่ไปได้ขนาดนี้”

“พี่สงสารเพื่อนเราจริงๆ นะ” ตรีศรบ่นพึมพำ

“น้องเล็กก็สงสาร เราจะทำยังไงกันดีคะพี่รอง น้องเล็กอยากให้เก๋ไปอยู่ไกลๆ จากแม่ของเขา เก๋รักแม่มาก ถ้าหายดีแล้ว ไม่รู้ว่าเก๋จะทำยังไงต่อ”

“อืม...ก็ต้องแล้วแต่เพื่อนเราแหละ เราคงจะไปบังคับกะเกณฑ์อะไรเขาไม่ได้หรอกนะน้องเล็ก จริงสิ มัวแต่วุ่นๆ เรื่องน้องเก๋ เกือบจะลืมบอก พ่อกับแม่โทรมาบอกว่าจะกลับมาแล้ว ส่วนพี่ใหญ่ก็จะมาถึงเย็นๆ น่ะ”

“ดีใจจังเลย เก๋อยากเจอพี่ใหญ่ ไม่ได้เจอมาเกือบสองปีแล้ว ตั้งแต่ที่พี่ใหญ่ไปทำไร่ ไม่รู้ว่าจะหล่อเข้มเหมือนเดิมหรือเปล่านะคะ” ตรีทิพย์อุทานอย่างตื่นเต้น

ตรีศรหัวเราะ เมื่อนึกถึงตรีศิลป์พี่ชายคนโตของพวกเขา นายทหารหนุ่มนอกราชการที่ผันตัวเองไปทำไร่อยู่ที่นครราชสีมา ผู้มีนัยน์ตาดำสนิทคมกริบแฝงแววเอาจริงเด็ดเดี่ยว จมูกโด่ง ริมฝีปากหยักลึกที่มักจะไม่ค่อยแย้มยิ้มสักเท่าไหร่ จนพันเอกไสวผู้เป็นพ่อตั้งฉายาให้บุตรชายคนโตว่า ‘ไอ้เสือยิ้มยาก’

ตรีศิลป์นึกเบื่องานที่ทำอยู่ เลยอยากไปอยู่กับธรรมชาติและสายลม เขาพลิกผืนดินเกือบร้อยไร่ให้เป็นไร่องุ่นขนาดใหญ่ และทุ่มเทอยู่กับมันจนไม่ค่อยได้กลับมายังบ้านที่กรุงเทพฯนัก เกือบสองปีแล้วสินะที่เขาไม่ได้เจอตรีศิลป์เลย แม้จะไปเที่ยวที่ไร่ของพี่ชายบ้างก็ตามที

ตรีทิพย์ติดพี่ชายคนโตมากแม้จะเกรงๆ ตรีศิลป์ แต่ไม่ค่อยกล้าเล่นหัวด้วยนักเหมือนที่เธอทำกับพี่ชายคนรอง เพราะตรีทิพย์อายุห่างกับตรีศิลป์เกือบรอบ วัยที่ห่างกันมากและความเงียบขรึมของพี่ชาย ทำให้น้องสาวคนเล็กไม่ค่อยจะกล้าหือด้วยนัก ไม่เหมือนพี่ชายคนรองที่มักจะเอาใจกันอยู่เสมอ

“พี่ว่า ไปหมกอยู่กับไร่แบบนั้น คงจะขาวเข้มกว่าเดิมแน่ๆ หึ หึ คงจะเห็นแต่ลูกตาล่ะพี่ชายใหญ่ของเราน่ะ”

“ใครจะหล่อตลอดกาลเหมือนพี่รองละคะ พี่ใหญ่เขาหนุ่มคาวบอยชาวไร่ ส่วนพี่รองน่ะหนุ่มกรุงนักท่องราตรี เพลย์บอยผู้พิชิตหัวใจสาวๆ”

ตรีทิพย์ว่าก่อนจะเงยมองหน้าพี่ชายคนรอง ตรีศรหัวเราะกับคำเปรียบเปรยของน้องสาว เขามีผิวที่ขาวกว่าตรีศิลป์ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายวาบวับ ริมฝีปากได้รูป คิ้วเข้มของเขาดกจนหัวคิ้วแทบจะชนกัน จมูกโด่งได้รูปสวย ดูรวมๆ แล้วตรีศรดูน่าคบหากว่าตรีศิลป์ผู้เป็นพี่ชาย เพราะเขาขี้เล่นกว่าตรีศิลป์ ที่มักจะเอาจริงและเงียบขรึมกว่ามาก

ตรีศรค่อนข้างจะเจ้าชู้ มีสาวๆ เปลี่ยนหน้ามาเป็นว่าเล่น แต่เขาไม่เคยจริงจังกับใคร จนตรีทิพย์ต้องค่อนพี่ชายทั้งสองบ่อยๆ ว่า กว่าจะได้อุ้มหลานคงต้องรอนาน เพราะพี่ชายทั้งคู่มีแววจะขึ้นคาน คนแรกขึ้นคานเพราะไม่ยอมไปจีบใคร และชอบทำตาดุใส่สาวๆ ส่วนอีกคนขึ้นคานเพราะเลือกมากไป จนไม่ยอมลงเอยกับใครสักที

“แล้วเราล่ะ เป็นอะไร สาวน้อยน่ารักที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นดีไหม แม่น้องเล็ก” พี่ชายคนรองอดโคลงหัวเอาอย่างหมั่นไส้ไม่ได้ ตรีทิพย์ค้อนขวับให้กับพี่ชายทันที

“ก็เพื่อนรักน้องเล็ก จะให้ไม่ช่วยได้ยังไงล่ะค่ะพี่รอง ลงไปข้างล่างกันดีกว่า น้องเล็กได้ยินเสียงรถแล้ว พ่อกับแม่กลับมาแล้วแน่ๆ สงสัยเที่ยวกันสนุกล่ะสิ กลับเลยกำหนดตั้งหลายวันแนะ” เจ้าตัวดึงมือพี่ชายคนรองวิ่งตามกันไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel