3
เสียงโทรศัพท์ทำให้ตรีทิพย์งัวเงีย ลุกขึ้นมาจากหมอนใบนุ่มที่หนุนนอนอยู่ ก่อนจะซบลงไปใหม่และหลับตาพริ้ม แต่เสียงที่ดังไม่หยุด ทำให้ตรีทิพย์ต้องเอื้อมมือออกมาควานหาโทรศัพท์ เพราะทนนอนต่อไปไม่ไหว แล้วกรอกเสียงลงไปอย่างง่วงๆ
“คะ?”
“เล็ก ช่วยเราด้วย ...เราแทงน้าหมาย...เราจะทำยังไงดี”
เสียงปลายสายทำให้ตรีทิพย์ตื่นเต็มตาขึ้นมาทันที พลางทรงตัวลุกขึ้นนั่ง เบิกตาโตอย่างตกใจ
“อะไรนะเก๋? เกิดอะไรขึ้น ค่อยๆ เล่านะเก๋ใจเย็นๆ”
“เขาเข้ามาจะปล้ำเรา เราเลยแทงเขา เล็ก ช่วยเราด้วย”
การะเกดร้องไห้โฮ การที่ได้ยินเสียงเพื่อนรักที่หวังเป็นที่พึ่งดังขึ้น ทำให้หญิงสาวรู้สึกดีขึ้นมาก ตรีทิพย์รีบสปริงตัวลุกขึ้นจากเตียงนอน แล้วเปิดไฟเพื่อหากุญแจรถอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เพื่อนรักพูด ทำให้หญิงสาวว้าวุ่นมากด้วยความเป็นห่วง
“ใจเย็นๆ เธออยู่ที่ไหนเก๋”
“เราไม่รู้” การะเกดส่ายหน้า แล้วมองไปรอบๆ เธอวิ่งเตลิดออกมาจากบ้าน วิ่งออกมาจากซอยบ้านอย่างไม่รู้ทิศทาง
“แต่คงไม่ไกลจากบ้านเรามาก เล็กช่วยเราด้วย”
“ดูไปรอบๆ นะ ใจเย็นๆ“
ตรีทิพย์พูดปลอบเพื่อนสนิท ก่อนจะเดินแกมวิ่งออกจากห้องตัวเอง เมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว ไปเคาะห้องของพี่ชายคนรอง ถ้าคืนนี้ตรีศรออกไปเที่ยว เธอจะทำยังไงกันดีนะ ตรีทิพย์คิดในใจ ขณะที่เคาะประตูห้องพี่ชายไปด้วย คุยปลอบการะเกดไปด้วย
“คิดดีๆ เก๋ ว่าเธออยู่ที่ไหน เราจะรีบไปรับ ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวเราจะไปช่วย พี่รองเปิดประตูเสียทีสิ” ประโยคหลังบ่นพี่ชายที่ไม่ยอมเปิดประตูห้องเสียงที
การะเกดมองไปรอบๆ อย่างตั้งใจและมีสติดีกว่าเดิม ตรีทิพย์กำลังจะมารับ เธอต้องรู้ให้ได้ ว่าที่นี่ที่ไหน สายตาของหญิงสาวสะดุดที่ป้ายบอกชื่อซอย ที่อยู่ด้านหน้าปากซอย เธอจึงรีบออกมาจากตู้โทรศัพท์เขม้นมองให้แน่ใจอีกครั้ง ก่อนจะกรอกเสียงบอกเพื่อนรักลงไปอย่างรวดเร็ว
“เราเห็นป้ายซอยแล้ว ซอย...”
“อยู่ตรงนั้นนะเก๋ เดี๋ยวเราจะรีบไปรับเลย อย่ากลัวนะเพื่อนรัก”
ตรีทิพย์ว่า ประตูที่ถูกเคาะแรงๆ หลายทีเปิดออก พร้อมกับใบหน้าคมสันของพี่ชายคนรองที่โผล่ออกมา เขาสวมแต่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเพราะเพิ่งกลับมาจากคลับ เมื่อเห็นว่าเป็นน้องสาวคนเล็กกำลังทำหน้าหน้ายุ่งอยู่ในชุดนอนลายลูกกวาดมาเคาะห้อง ตรีศรก็ย่นคิ้ว
“อะไรกันน้องเล็ก ดึกแล้วนะ”
“โอย! ดีใจจังที่พี่รองอยู่บ้าน พี่รองไปส่งน้องเล็กหน่อย เร็วๆ หน่อยค่ะ เรื่องด่วนมาก”
ตรีทิพย์ตรงไปฉุดไม้ฉุดมือพี่ชายทันที ทำเอาตรีศรขืนตัวไว้แทบไม่ทัน ก่อนจะรีบร้องห้ามน้องสาว เพราะตัวเขาเองอยู่ในสภาพเกือบเปลือย
“เดี๋ยวๆ ก่อนน้องเล็ก พี่เพิ่งอาบน้ำเสร็จขอเปลี่ยนเสื้อก่อน”
ตรีทิพย์มองพี่ชายที่อยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย ยืนโชว์หุ่นล่ำอยู่ก็เม้มปาก แล้วรุนหลังพี่ชายกลับเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว พลางปิดประตูให้อีกต่างหาก ก่อนจะตะโกนสั่งผู้เป็นพี่ชายน้ำเสียงร้อนรน
“น้องเล็กให้เวลาพี่รองสามนาที เร็วๆ นะคะ เราต้องรีบไปช่วยคน”
“อะไรของเขากันนะ”
ตรีศรยักไหล่ พลางเดินก้าวยาว ๆ ไปยังตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อและกางเกงมาสวมแบบไม่ต้องเลือก เพราะน้องสาวดูทีท่าว่าจะใจร้อนราวกับไฟมากทีเดียว และทันทีที่ตรีศรสวมกางเกงเสร็จ น้องสาวคนเล็กก็เปิดประตูผัวะเข้ามาอีกรอบ อย่างคนใจร้อน แล้วตรงเข้ามาดึงมือพี่ชายเหมือนไม่ทันใจ ตรีศรถามผู้เป็นน้องสาวขณะที่เดินลงบันไดมาด้วยกัน ตรีทิพย์ฉุดเขาให้วิ่งจนแทบตกบันไดอยู่แล้ว
“อะไรกันน่ะน้องเล็ก มีเรื่องอะไร?”
“เรื่องใหญ่มากค่ะพี่รอง ใหญ่มากจริงๆ” ตรีทิพย์เม้มปาก ก่อนจะเผลอพึมพำออกมา
“ดีที่น้องเล็กเอามีดพี่ใหญ่ไปให้เก๋ สมน้ำหน้ามัน”
“เฮ้ย! เรื่องอะไรกันนี่ ?”
คราวนี้พี่ชายอุทานเพราะตกใจกับประโยคที่น้องสาวพูด ตรีทิพย์หันมาเร่งพี่ชายอีกรอบ ไม่สนใจกับความตกอกตกใจของตรีศรเลย ตอนนี้คิดอย่างเดียว ต้องรีบไปรับการะเกดให้เร็วที่สุด ไม่รู้ว่าป่านนี้เพื่อนรักจะเป็นอย่างไรบ้าง
“เดี๋ยวน้องเล็กเล่าให้ฟังแน่นอนค่ะพี่รอง เราต้องรีบไป เก๋อยู่ในอันตรายค่ะ”
“เก๋? เพื่อนรักเราน่ะเหรอ”
“พี่รองอย่ามัวมาถามอะไรมากได้ไหม เร็วๆ สิคะ เรื่องความเป็นความตายเลยนะคราวนี้น่ะ สงสัยอยู่ได้”
ตรีทิพย์เหลืออดแล้วกับความช่างซักของพี่ชาย แถมจิตใจก็ว้าวุ่น ตรีศรอดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ เมื่อเห็นท่าทางโมโหเดือดของน้องสาว เมื่อเผลอหัวเราะออกมา ก็โดนตรีทิพย์ที่เอากุญแจรถยัดใส่มือหยิกเอาอีกที ก่อนจะตวาดซ้ำอีกรอบ
“พี่รอง! นี่มันเวลามาหัวเราะไหมคนบ้า ขับรถไปเลยด่วน”
“อ้าว... หัวเราะก็ไม่ได้แหะ”
ตรีศรบ่นอุบอิบ ก่อนจะเปิดประตูรถ และออกตัวค่อนข้างเร็ว ให้สมกับความใจร้อนของคนที่นั่งข้างตัว ที่กำลังบงการเขาอยู่นี่ นี่มันเรื่องอะไรกันนะ ตรีศรคิดในใจอย่างงงๆ ไม่ได้ เมื่อมองใบหน้าว้าวุ่นของน้องสาวที่นั่งข้างๆ ตรีทิพย์ถึงดูเดือดร้อน และวุ่นวายมากมายขนาดนี้ ต้องเรื่องใหญ่แน่ๆ