8 มากเกินไปไหม
“จันทร์ทำอะไรอยู่” เสียงของน้าพิกุลถามในเวลาเช้าหลังจากที่เธอไปทำกับข้าวให้คนงานและกลับมาไม่เห็นลูกเลี้ยง
“จันทร์ฉันกำลังจัดห้องอยู่ค่ะ น้าพิกุลน้ามีอะไรจะให้จันทร์ทำหรือเปล่าคะ” หญิงสาวตะโกนออกมาจากห้องนอน
“น้าเอากับข้าวมาให้น่ะ” ปกติแล้วเวลาอยู่คนเดียวพิกุลก็จะทานข้าวที่สวนยางกับคนงาน แต่วันนี้มีชมจันทร์มาอยู่ด้วยเธอก็เลยขอแบ่งกับข้าวมาทานที่บ้านเพราะยังไงกับข้าวก็เหลือทุกวันอยู่แล้ว
“น้าพิกุลกินมาหรือยังคะ” ชมจันทร์เปิดเปิดประตูออกมาถาม
“ยังเลย น้าว่าจะมากินด้วยกันนี่แหละ จันทร์หุงข้าวแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ จันทร์หุงข้าวแล้วกำลังว่าจะทำไข่เจียวอยู่เลย เห็นมีแกงไตปลาเหลืออยู่”
“ไม่ต้องเจียวไข่หรอก อุ่นแค่แกงไตปลาก็พอน้าเอาคั่วกลิ้งกับแกงเทโพมาจากสวนยางแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ น้าพิกุลรอแป๊บหนึ่งนะคะจันทร์ขอจัดตรงนี้อีกนิด”
“เร็วหน่อยนะเดี๋ยวมีอย่างอื่นต้องไปทำต่อ”
เมื่อน้าพิกุลบอกว่ามีธุระชมจันทร์ก็รีบออกมาจากห้องและจัดการอุ่นแกงไตปลา ระหว่างนั้นก็แกะถุงคั่วกลิ้งกับแกงเทโพ และตักข้าวใส่จานไว้รอ พอแกงร้อนก็ตักใส่ชาม ไม่นานทั้งสองก็ทานอาหารเสร็จ
“สายๆ น้าว่าจะพาจันทร์เข้าไปในเมืองสักหน่อย”
“หมายถึงตัวอำเภอใช่ไหมคะ” คำว่าในเมืองของคนที่นี่มีได้สองอย่างคือตัวอำเภอกับตัวจังหวัดซึ่งถ้าเป็นตัวจังหวัดก็ต้องใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง
“ตัวอำเภอจ้ะ เดี๋ยวเราไปขึ้นรถสองแถวแล้วไปด้วยกัน”
“น้าพิกุลจะไปซื้อของใช้เหรอคะ”
“เปล่าหรอกน้าจะไปซื้อของให้เรานั่นแหละ”
“ของอะไรคะ”
“ของที่ต้องเตรียมไว้เวลาไปอยู่บ้านนายหัว”
“ไม่เห็นต้องเตรียมอะไรเลยจันทร์เอาของที่กลับมาจากหอก็ได้ค่ะ”
“ต้องเตรียมสิอย่าลืมนะว่าเราไปครั้งนี้เราไม่ใช่ไปทำงานเอกสารอย่างเดียว” พิกุลย้ำให้เด็กสาวเข้าใจถึงภารกิจที่ตัวเองจะต้องทำอีกครั้ง
ชมจันทร์ไม่ชอบการกระทำแบบนี้เลยแต่หญิงสาวก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเธอกลัวอิทธิพลของนายหัวชาวีอีกครั้งก็ยังอยากรู้เรื่องมารดาของตนมากจนต้องยอมทำตามที่น้าพิกุลบอกทุกอย่าง
ทั้งสองคนนั่งรถสองแถวประมาณ 45 นาทีก็มาถึงตัวอำเภอซึ่งมีห้างสรรพสินค้าสาขาเล็กๆ มาเปิดอยู่
“น้าพิกุลจะซื้ออะไรบ้างคะ”
“ของใช้เดี๋ยวเราค่อยซื้อก่อนกลับก็ได้จะได้ไม่ต้องถือให้หนักน้าว่าเราไปซื้อเสื้อผ้ากันก่อนดีไหม”
ชมจันทร์ขี้เกียจจะถามว่าทำไมจะต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่เธอก็เลยเดินตามน้าพิกุลไปยังร้านขายชุดชั้นในและชุดนอน
“โอ้โห แบบนี้มันเซ็กซี่เกินไปหรือเปล่าใครจะกล้าใส่กันคะ”
“กล้าไม่กล้าเราก็ต้องใส่นะจันทร์”
“แบบนี้วัยรุ่นเขาฮิตใส่กันค่ะ”
“แต่มันโป๊ะมากเลย”
“ชุดชั้นในมันอยู่ข้างในไม่มีใครเห็นหรอกค่ะ” น้องพนักงานรีบอธิบายเมื่อเห็นสีหน้าชมจันทร์ว่าไม่ค่อยชอบชุดเท่าไหร่
“มันก็จริงนะคะ ชุดมันอยู่ข้างในแล้วทำไมเราจะต้องใส่แบบเซ็กซี่ด้วยเหรอคะชมจันทร์หันมาถามน้าพิกุล”
“จันทร์คิดว่าถ้าแต่งตัวกะโปโล ใส่ชุดชั้นในเก่าๆ แล้วนายหัวเขาจะชอบหรือไง อย่าลืมนะเรามีเวลาแค่สามเดือนเอง จากนั้นจันทร์ก็ต้องกลับไปเรียนแล้ว จะเอาตังค์ที่ไหนเรียนล่ะถ้าไม่ได้นายหัว” พิกุลกระซิบให้พอได้กันแค่สองคน
“แต่มันเซ็กซี่เกินไปนี่คะ”
“ใส่ไปเถอะอีกสักพักก็ชิน”
“แล้วน้าพิกุลเอาเงินที่ไหนมาซื้อคะ”
“น้าเบิกเงินเดือนล่วงหน้ามาจากนายหัวนะ” พิกุลโกหกลูกเลี้ยงทั้งที่จริงแล้วเธอได้เงินมาจากไหนหัวก้อนแรกหนึ่งแสนบาทและนายหัวจะให้เธออีกก้อนในวันที่เธอไปจากที่นี่
พิกุลเลือกชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินแบบกระโปรงเหนือเข่าให้กับชมจันทร์สามชุดและชุดนอนกางเกงขาสั้นกับเสื้อสายเดี่ยวอีกสองชุดไว้ใส่สลับกัน
ส่วนชุดชั้นในที่เธอเลือกให้ก็เป็นจีสตริงลายลูกไม้มีทั้งสีขาวสีแดงสีดำรวมๆ แล้วก็ 10 กว่าชุด บราเซียร์ก็มีทั้งแบบเกาะอกแบบถอดสายได้ทุกอย่างรวมๆ แล้วไม่ต่ำกว่าอย่างละ 10 ชิ้น
“แค่นี้ใช่ไหมคะที่เราต้องซื้อ” ชมจันทร์มองถุงในมือด้วยความเสียดายเงินเพราะจ่ายไปไม่น้อยเลย
“จันทร์ต้องเลือกเสื้อผ้าที่ใส่อยู่บ้านด้วย”
“ใส่แบบเดิมไม่ได้เหรอคะจันทร์ฉันเสียดายตังค์”
“ต้องเสียดายตังค์หรอกนะเราจะทำงานใหญ่มันก็ต้องลงทุนกันหน่อย” น้าพิกุลพาชมจันทร์ไปเลือกเสื้อผ้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสื้อแขนกุดกางเกงขาสั้นหรือไม่ก็เดรสแขนกุดเหนือเข่าเผื่อเวลานายหัวจะพาออกไปข้างนอก
ชมจันทร์ขอเลือกเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขายาวอีกสองสามตัวโดยให้เหตุผลว่าเผื่อจะตามนายหัวออกไปทำงานข้างนอกบ้านซึ่งน้าพิกุลก็ตามใจและยังแถมชุดสำหรับใส่เที่ยวกลางคืนให้อีกสองชุดเพราะรู้ว่านายหัวชอบเข้าไปเที่ยวกลางคืนในเมือง
“เราต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ”
“ต้องทำให้ถึงสิเพราะนายหัวเจอผู้หญิงมามากน้ากลัวว่าเราจะเอาเขาไม่อยู่”
หลังจากได้เสื้อผ้าแล้วน้าพิกุลก็ชวนเธอไปซื้อรองเท้าแต่ชมจันทร์ปฏิเสธเพราะเธอมีรองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ที่เพิ่งซื้อมากับรองเท้าสวมแบบสานที่ไม่ได้เก่ามาก
“งั้นก็ตามใจนะเดี๋ยวเราไปซื้อพวกครีมบำรุงผิวกันต่อ”
“ครีมบำรุงผิวจันทร์มีแล้วค่ะ พี่ชายของเพื่อนเพิ่งเอามาฝากยี่ห้อดีเหมือนกัน”
“ถ้างั้นก็ไปซื้อลิปสติกกับน้ำหอม”
“พวกเครื่องสำอางกับครีมทาผิวพวกนี้นะพิกุลไม่ต้องซื้อให้จันทร์หรอกค่ะ จันทร์มีของที่ใช้ประจำอยู่แล้ว”
“แล้วน้ำหอมล่ะจันทร์ใช้น้ำหอมหรือเปล่า” เพราะอยากให้ชมจันทร์ประทับใจนายหัวเธอเลยเตรียมทุกอย่างให้เต็มที่
“จันทร์ใช้น้ำหอมตามตลาดนัดค่ะ”
“แบบนั้นกลิ่นมันจะติดทนได้ยังไง น้าจะพาไป ซื้อเอาที่มันดีๆหน่อยแต่”
“มันแพงนะคะน้าขวดหนึ่งตั้งเป็นพันเลย”
“ไม่แพงหรอกมันมีหลายขนาด น้าได้ยินพวกสาวๆ ในสวนยางคุยกันว่าร้านไหนขายของถูกตามน้ามาทางนี้”
ชมจันทร์อยากจะปฏิเสธแต่เห็นท่าทางตั้งใจของน้าพิกุลแล้วก็เลยเดินตามไปที่ร้านขายน้ำหอมพนักงานเอาน้ำหอมแต่ละกลิ่นมาให้หญิงสาวเลือก ชมจันทร์เลือกกลิ่นที่ไม่ฉุนเท่าไหร่แต่น้าพิกุลบอกว่ากินนั้นมันดูเด็กไปจึงเสนออีกกลิ่นหนึ่งที่คนขายแนะนำว่าเป็นกลิ่นที่กระตุ้นอารมณ์ของผู้ชายได้เป็นอย่างดี
“มันจะน่าเกลียดเกินไปหรือเปล่าคะ” ชมจันทร์ไม่อยากใช้น้ำหอมกลิ่นที่พนักงานเสนอเลย
“ไม่น่าเกลียดหรอกน่าเราใช้นิดเดียวก็พอ”
“จริงค่ะ กลิ่นนี้ดีมากเขาเรียกน้ำหอมจอมยั่วค่ะ”
“จำไว้นะจันทร์เราต้องแต่งตัวให้ดูดีเสมอเสื้อผ้าหน้าผมต้องพร้อมตื่นเช้ามาก็ต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวให้สะอาดสะอ้านอย่าปล่อยให้ตัวเองมีกลิ่นอับเด็ดขาด”
“แหมน้าก็พูดเกินไป ปกติจันทร์ก็อาบน้ำเช้าเย็นอยู่แล้ว”
“น้ารู้ว่าเราอาบน้ำเช้าเย็นแต่ก็ควรจะรักษาจุดซ่อนเร้นด้วยให้มันสะอาดที่สุด”
“เดี๋ยวน้าจะพาไปซื้อสเปรย์ฉีดจุดซ่อนเร้นด้วยนะ ฉีดแล้วจะช่วยดับกลิ่นอับได้แถมยังมีรสชาติด้วย”
“ไม่เอาหรอกค่ะแบบนั้นมันอันตราย”
“อันตรายที่ไหนล่ะน้าได้ยินมาว่ายี่ห้อนี้หมอเขาเป็นคนแนะนำด้วยนะ” พิกุลรู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยคุยกับเจ๊อ้วนเจ้าของผับที่มีสาวๆ มาคอยบริการหนุ่มๆ เขาเล่าให้ฟังว่าสเปรย์พวกเวลาฉีดจุดซ่อนเร้นแล้วจะทำให้กลิ่นหอมอีกทั้งยังมีรสชาติที่หวานทำให้ผู้ชายได้กลิ่นก็จะหลงใหลอีกด้วย
“ก็ได้ค่ะ” ชมจันทร์ไม่ปฏิเสธแต่เธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่ใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้อย่างเด็ดขาดเพราะมันจงใจจนเกินไปอีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่ามันอาจจะอันตรายหรือเปล่าแค่ใช้น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นมันก็น่าจะพอแล้ว หญิงสาวได้แต่คิดในใจเพราะรู้ว่าปฏิเสธไปน้าพิกุลก็ไม่ยอมอยู่ดี