บท
ตั้งค่า

CHAPTER 7

หนึ่งเดือนถัดจากนั้น วันที่ขวัญจิราต้องเดินทางก็มาถึง ใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าทั้งคู่จะเดินทางถึงเชียงใหม่ด้วยรถยนต์ส่วนตัวของธนา ไร่ที่อยู่ตรงหน้ามีป้ายติดไว้ตรงทางเข้าว่า ไร่สายลมเหนือ

ธนาจอดรถหน้าป้ายบอกชื่อไร่ขนาดใหญ่ ก่อนจะหันไปถามเธอ

“ขวัญกังวลหรือเปล่า” ธนาถามเพราะสังเกตเห็นความลังเลในแววตาของคนที่นั่งข้าง ๆ แต่เขาก็ไม่โทษเธอหากหญิงสาวจะรู้สึกแบบนั้น เพราะแม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าเตรียมการทุกอย่างมาอย่างดี แต่เขาก็สลัดความกังวลเล็ก ๆ ที่ผุดขึ้นมาในใจออกไปไม่ได้เช่นกัน

แต่มาถึงขั้นนี้แล้วพวกเขาจะถอยหลังไม่ได้

“ขวัญจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดค่ะ” เธอพูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของเขา

“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้โทรมาทันที ถ้าโดนจับได้พี่จะเป็นคนรับผิดชอบเอง” เขากำชับเธออีกครั้ง และให้ความมั่นใจกับเธอว่า หากโชคร้ายถูกคนในไร่จับได้ เขาก็จะไม่ปล่อยเธอทิ้งไว้คนเดียว

เมื่อทั้งสองคนต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกันอย่างคนที่ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ธนาก็ขับรถเข้าไปในไร่สายลมเหนือ

เจ้าของไร่คือพ่อเลี้ยงบุญถิ่น และแม่เลี้ยงทิพย์อัปสร ซึ่งตั้งชื่อไร่ตามชื่อของลูกชายเพียงคนเดียว เหนือ หรือสายลม วรเวชกุล ทายาทเพียงคนเดียวของทั้งคู่

“ยินดีต้อนรับจ้ะธนา” แม่เลี้ยงทิพย์อัปสรทักทายเมื่อชายหนุ่มยกมือไว้ ในใจอดชื่นชมหนุ่มหล่อตรงหน้าไม่ได้ ธนาอายุเท่าลูกชายของเธอ แต่เขากลับดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบมากกว่าคนวัยเดียวกัน ทำให้เธอนึกเอ็นดูลูกชายของเพื่อนคนนี้เป็นพิเศษ ก่อนจะหันไปมองสาวสวยซึ่งยืนอยู่ด้านหลังเขา

“นี่คงจะเป็นหนูนิดสินะ”

“ใช่ครับ นี่คือ นิด ณิชารีย์ น้องสาวของผมเอง” ธนาแนะนำเธอให้พ่อเลี้ยงบุญถิ่นและแม่เลี้ยงทิพย์อัปสรรู้จัก ซึ่งหญิงสาวก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองทันทีที่ได้รับการแนะนำ

แม่เลี้ยงทิพย์อัปสรเห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย มีท่าทีอ่อนช้อยงดงามก็อดนึกชื่นชมไม่ได้

“หนูนิดโตขึ้นมาทั้งสวยและน่ารักจริงเชียว โชคดีของลูกชายป้าที่มีคู่หมั้นแบบนี้”

ขณะพูด มือเหี่ยวย่นก็จับมือของหญิงสาวไว้ นึกว่าคนสวยจะมีมือนุ่มนิ่ม แต่เปล่าเลย ฝ่ามือของหญิงสาวตรงหน้ากลับหยาบกระด้างอย่างคนทำงานหนัก ทำให้แม่เลี้ยงทิพย์อัปสรซึ่งมักสังเกตคนอื่นอยู่เสมอนิ่วหน้า

ขวัญจิราพยายามจะดึงมือออกด้วยความอัดอึด แต่อีกฝ่ายกลับรวบมือทั้งสองข้างของเธอไว้แน่น ดวงตาสีดำลึกล้ำของธนาสว่างวาบด้วยความไม่พอใจ เพิ่งจะเจอกันแค่วันเดียวขวัญจิราก็ถูกแม่เลี้ยงคุกคามถึงเพียงนี้ ยังไม่ทันจะได้เจอหน้าสายลมเหนือด้วยซ้ำ ก็ยัดเยียดตำแหน่งคู่หมั้นให้ราวกับกลัวว่าเธอจะลืม

แต่ขวัญจิรากลับมีไหวพริบและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี เมื่อเห็นใบหน้าสงสัยของแม่เลี้ยง ดวงตาของเธอคลอไปด้วยหยดน้ำราวกับกำลังกลั้นสะอื้นขณะพูด

“ตั้งแต่พ่อกับแม่เสียไป นิดไปเรียนต่อต่างประเทศ” เธอพูดตามข้อมูลที่ท่องมา พยายามดึงเรื่องราวของณิชารีย์มาเชื่อมโยงกับอาการมือด้านของตัวเอง “ช่วงนั้นนิดทำงานไปด้วยเพราะไม่อยากรบกวนเงินจากพี่ธนาเกินไป”

“ตายจริง” แม่เลี้ยงทิพย์อัปสรปล่อยมือหญิงสาวแล้วยกมือขึ้นทาบอก ช่วงนั้นเธอติดต่อกับธนาตลอด พยายามถามเขาว่ามีอะไรที่เธอและครอบครัวพอจะช่วยเหลือได้บ้าง เธอนึกว่าตัวเองได้ช่วยดูแลลูก ๆ ของเพื่อนอย่างดีที่สุดแล้ว ไม่นึกว่าเด็กสาวที่แสนน่ารักคนหนึ่งจะลำบากถึงเพียงนี้

แม่เลี้ยงทิพย์อัปสรปรายตามองธนาผู้เป็นพี่ชายด้วยความไม่พอใจที่เขาไม่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง หลังจากนั้นจึงหันกลับมาจับมือหญิงสาวที่เธอเข้าใจว่าเป็นณิชารีย์อีกครั้ง

“เราอย่ามัวแต่ยืนคุยกันตรงนี้เลย เข้าไปในบ้านกันก่อนดีกว่าจ้ะ”

ทิพย์อัปสรดึงมือหญิงสาวให้เดินเคียงข้างเข้าไปในบ้านด้วยท่าทีรักใคร่เอ็นดู ทิ้งให้สามีอย่างพ่อเลี้ยงบุณถิ่นและธนาเดินตามหลังไปเงียบ ๆ แม้ธนาจะถูกโยนความผิดมาให้ แต่ชายหนุ่มก็ยังแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อพบว่าขวัญจิราฉลาดและเอาตัวรอดได้ดี อย่างน้อยเธอคงใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้โดยไม่ลำบาก

ขวัญจิราถูกแม่เลี้ยงทิพย์อัปสรดึงมือพาเดินเข้าไปในห้องอาหาร

คนที่ออกมาต้อนรับชื่อป้าอ่อน ซึ่งแม่เลี้ยงแนะนำว่าเป็นแม่บ้านเก่าแก่ของที่นี่และเป็นคนที่เลี้ยงดูสายลมเหนือมาตั้งแต่เด็ก ป้าอ่อนมีหลานชายชื่อเปี๊ยกเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบแปดปี นอกจากนี้ในห้องอาหารยังมีเด็กสาวหน้าตาน่ารักชื่อแพรว แม่เลี้ยงแนะนำว่า แพรวเป็นเด็กกำพร้าที่แม่เลี้ยงและพ่อเลี้ยงพามาเลี้ยงดูในไร่ เธอเติบโตและทำงานในไร่แห่งนี้มาพร้อมกับเปี๊ยก

“ตาเหนืออยู่ในห้องจ้ะหนูนิด กินข้าวไม่ลงมาหลายวัน ทั้งซูบผอมทั้งโทรม หนูนิดไปเห็นอย่าเพิ่งตกใจล่ะ ปกติคู่หมั้นของหนูเป็นหนุ่มหล่อในฝันของสาวๆ เลยแหละ”

แม่เลี้ยงพูดหลังจากคนทั้งหมดนั่งบนโต๊ะอาหาร โดยแม่เลี้ยงทิพย์อัปสรดึงให้หญิงสาวนั่งลงข้างกัน พ่อเลี้ยงบุญถิ่นและธนาจึงนั่งฝั่งตรงข้าม

ธนาอดเหลือบตามองด้วยความไม่พอใจไม่ได้ เขาและขวัญจิรายังไม่ทันจะได้ยกน้ำขึ้นจิบเลย แม่เลี้ยงก็เริ่มพูดถึงลูกชายตัวเองทันที

แต่แม่เลี้ยงทิพย์อัปสรคิดว่าเธอไม่ได้โฆษณาเกินจริง เหนือ คือชื่อเล่นของสายลมเหนือ ลูกชายของเธอ ก่อนที่เขาจะประสบอุบัติเหตุเขาเคยเป็นหนุ่มเนื้อหอม มีสาวๆ แวะเวียนมาขายขนมจีบหัวกระไดไม่เคยแห้ง แต่ลูกชายของเธอก็ไม่สนใจ สิ่งที่อยู่ในความสนใจของเขามีแค่งานไร่และการแข่งรถ เขาเป็นคนรักอิสระ แม่เลี้ยงคิดว่า โชคดีจริง ๆ ที่เธอได้หมั้นหมายกับลูกสาวเพื่อนรักไว้ให้ลูกชายตั้งแต่เด็ก ไม่อย่างนั้นชาตินี้เธออาจจะไม่มีวันได้มีลูกสะใภ้ก็ได้ ก็ไม่เคยเห็นลูกชายตัวดีของเธอจะไปถูกใจสาว ๆ ที่ไหนเลย

หลังจากนั้นป้าอ่อนและแพรวก็เริ่มเสิร์ฟอาหาร การสนทนาส่วนใหญ่ถูกผูกขาดโดยแม่เลี้ยงทิพย์อัปสร ขวัญจิราและธนาเพียงรับคำสั้น ๆ เท่านั้นเมื่อถูกถาม ส่วนพ่อเลี้ยงบุญถิ่นเป็นคนพูดน้อย ท่านเพียงนั่งฟังเงียบ ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ

“หนูนิดเข้าไปดูตาเหนือดีไหมจ๊ะ เดี๋ยวให้แพรวพาไป” แม่เลี้ยงพูดทันทีหลังจากเห็นหญิงสาวรวบช้อนซ้อม

เป็นอีกครั้งที่ธนารู้สึกขัดใจแม่เลี้ยงเมืองเหนือ เมื่อเห็นว่าแม่เลี้ยงก็ช่างใจร้อนอยากให้หญิงสาวเข้าไปเจอลูกชายตัวเองเหลือเกิน

แต่ขวัญจิราอยากจะเห็นเหมือนกันว่าคนที่ตัวเองต้องมาดูแลนั้นเป็นคนแบบไหนกันแน่ ใครต่อใครที่มาดูแลถึงได้หนีหายหมด และในเมื่อเธอมาที่นี่เพื่อดูแลชายหนุ่มคนนั้น จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หากเธอจะคิดถึงแต่เป้าหมายที่พาให้เธอมาที่นี่ หญิงสาวจึงยินดีเดินตามแพรวเพื่อไปทำความรู้จักกับลูกเจ้าของไร่อย่างไม่ลังเล

“ดีเหมือนกันค่ะแม่เลี้ยง นิดไม่ได้เจอพี่เหนือหลายปี ไม่มั่นใจว่าเขาจะยังจำนิดได้หรือเปล่า”

แม่เลี้ยงทิพย์อัปสรยิ้มกริ่มเมื่อได้ยิน ส่วนธนากะพริบตาปริบ ๆ มองคนพูดอย่างคาดไม่ถึง เขานึกว่าเธอเป็นคนใส ๆ ซื่อ ๆ ใจยังนึกห่วงว่าผู้หญิงคนนี้จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า แต่เธอกลับปรับตัวได้ไวเหลือเกิน

ขวัญจิราไม่สนใจสายตาของคนที่มองมา เธอหันหลังเดินตามแพรวไปตามที่แม่เลี้ยงบอก ธนาเห็นดังนั้นก็ลุกจากเก้าอี้นึกอยากเดินตามไป แต่ถูกแม่เลี้ยงทิพย์อัปสรเรียกไว้เสียก่อน

“แม่ไม่ได้เจอธนาตั้งนาน อยู่คุยกับแม่ก่อนเถอะนะ”

เมื่อเจ้าของบ้านพูดแบบนั้น แม้อยากจะเดินตามไปแต่ธนาก็ไม่สามารถจะทำได้ จึงต้องปล่อยให้ขวัญจิราไปทำความรู้จักกับคู่หมั้นกำมะลอด้วยตัวเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel