CHAPTER 5
เมื่อขวัญจิราตกลงรับข้อเสนอ สิ่งแรกที่ธนาคิดว่าต้องทำคือพาเธอไปเปลี่ยนรูปลักษณ์ อย่างน้อยต้องทำให้ดูเหมือนว่าเธอเป็นสาวนักเรียนนอกให้ได้ก่อนถึงจะทำให้ฝ่ายนั้นไม่สงสัย
“ต่อไปนี้ขวัญต้องเรียกพี่ว่าพี่ และพี่จะเรียกขวัญว่านิดที่เป็นชื่อเล่นของณิชารีย์ เราจะได้สนิทกันไว้”
เขาบอกขณะขับรถไปส่งเธอที่บ้าน เห็นเธอไม่ตอบเขาก็ยังพูดต่อ
“ที่สำคัญขวัญต้องเปลี่ยนการแต่งตัวเสียใหม่ วันหยุดพี่จะมารับไปห้าง ไปซื้อของกัน”
แล้วจะให้เธอตอบอะไรได้นอกจากตกลง หลังจากนั้นก็ไม่มีการพูดคุยอะไรกันอีก ขวัญจิรามองท้องถนนที่มีแสงไฟสาดส่องตลอดทางที่เขาขับรถไปส่งที่บ้าน ส่วนธนาร้องเพลงคลอเบา ๆ ไปตลอดทางราวกับอาการปวดบวมที่แก้มของเขาหายไปเป็นปลิดทิ้ง
หลังจากที่เธอรับข้อเสนอนั้น ธนาให้เธอลาออกจากงานทั้งหมด ชยุตเจ้านายของเธอและเป็นเพื่อนรักของเขาโวยวายที่เธอออกกะทันหันทำให้เขาหาพนักงานคนใหม่มาเพิ่มไม่ทัน แต่สุดท้ายก็เถียงไม่ชนะธนาจึงต้องยอม
การที่ขวัญจิราลาออกจากงานก่อนจะไปที่ไร่แห่งนั้น นับว่าเป็นเรื่องดี เนื่องจากเธอจะมีเวลาอยู่กับแม่ ดูแลแม่ก่อนที่จะต้องเดินทางไปทำงานไกล
ธนาเข้าไปทำความรู้จักกับแม่ของขวัญจิราอีกครั้งในฐานะเจ้านายคนใหม่ เขาบอกว่าเขามองเห็นความสามารถ ความดีและความกตัญญูในตัวเธอ จึงรับเธอเข้าทำงานในบริษัทของเขา ตำแหน่งเด็กฝึกงานฝ่ายการตลาดซึ่งตรงกับสาขาที่เธอเรียนมา และจะส่งเธอไปทำงานที่สาขาเชียงใหม่สักพัก
เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ค่อนข้างจะหางานได้ยาก และเมื่อแม่เห็นว่าเธอสามารถหางานได้ในบริษัทใหญ่ค่าตอบแทนสูง แม้จะต้องไปทำงานในสาขาเชียงใหม่สักพักแต่นางก็รู้สึกยินดีมาก อิ่มอุ่นเตือนลูกแต่เพียงว่าให้ตั้งใจทำงาน และดูแลตัวเองให้ดี
เมื่อธนากลับไป จึงเป็นช่วงเวลาที่สองแม่ลูกได้อยู่ด้วยกัน
“อีกสักพักแหละจ้ะแม่ กว่าขวัญจะได้ไป แต่ก็ดีเหมือนกัน ช่วงนี้ขวัญจะได้มีเวลาอยู่กับแม่ให้เต็มที่”
คนเป็นลูกพูดพร้อมกับโน้มตัวกอดแม่ที่นั่งอยู่บนเสื่อ อิ่มอุ่นโอบกอดลูกสาวคนเดียวไว้ แม้จะยินดีกับอนาคตของลูก แต่ก็อดใจหายไม่ได้ คนเป็นแม่กลั้นน้ำตาไว้ขณะลูบผมลูกสาวด้วยความรักและเอ็นดู
“โชคดีเหลือเกินที่แม่มีขวัญเป็นลูก ขอให้หนูสำเร็จสมหวังทุกอย่างที่ตั้งใจนะลูก”
ขวัญจิรากอดแม่แน่น ขณะเบียดตัวเข้าหาไออุ่นจากคนเป็นแม่
“ขวัญสัญญาว่าพอเสร็จงานนี้ได้เงินก้อนหนึ่ง ขวัญจะกลับมาอยู่กับแม่ หลังจากนั้นก็จะกลับไปเรียนให้จบ เราสองคนแม่ลูกจะได้สบายกันเสียที”
เธอพูดเสียงเครือเพราะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว
“คุณธนาใจดีกับหนูมาก หนูต้องตั้งใจทำงานให้มาก อย่าทำให้เธอผิดหวัง เข้าใจไหม”
แม่ของเธอบอก ขณะใช้มือเหี่ยวย่นเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าหวานของลูกสาวให้
“รู้แล้วจ้ะแม่ เราไปนอนกันเถอะ บ่นเยอะเดี๋ยวเหนื่อยนะ”
ตั้งแต่ขวัญจิราทำงานกลางคืน ก็กลับดึกทุกวัน อิ่มอุ่นต้องรอลูกสาวกลับ จึงจะเข้านอนได้ ไม่อย่างนั้นก็นอนไม่หลับ นี่เป็นครั้งแรกที่สองแม่ลูกได้เข้านอนด้วยกันแต่หัววัน
เมื่อถึงวันที่เธอนัดกับธนาอีกครั้ง สิ่งแรกในตัวเธอซึ่งเป็นรายการที่ต้องปรับเปลี่ยนคือทรงผมใหม่ ธนาพาหญิงสาวไปที่ร้านทำผมชื่อดัง เปลี่ยนผมตรงยาวสีดำของขวัญจิราให้เป็นลอนสีน้ำตาลทองซึ่งรับกับใบหน้าของเธอและทำให้เธอสวยเปล่งประกายมากขึ้น
ถัดมาคือชุด ธนาพาขวัญจิราไปที่ห้องเสื้อที่เธอไม่เคยจินตนาการเลยสักครั้งว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสก้าวย่างเข้ามา หญิงสาวกวาดตามองเสื้อผ้าที่แขวนละลานตา แต่สุดท้ายก็ไม่รู้จะเลือกตัวไหน จึงเป็นธนาที่เป็นธุระเลือกให้
ชุดแรกที่ธนาเลือกให้เธอเป็นเดรสสั้นสีชมพู แขนตุ๊กตา ทำจากผ้าเนื้อนุ่มและน้ำหนักเบา กระโปรงพลิ้ว
“ใส่ชุดธรรมดากว่านี้หน่อยดูแลคนป่วยไม่ได้เหรอคะ จะได้เคลื่อนไหวได้ง่าย”
เธอบ่นขณะเดินออกมาจากห้องลองชุด ทำให้ธนาที่กำลังเลือกชุดอื่น ๆ ให้เธอ หันมองตามเสียง
“สวยจัง ขวัญ” เขาพึมพำบอกราวกับละเมอ อดไม่ได้ที่จะชื่นชมรสนิยมของตัวเอง เพราะเห็นว่าเดรสที่เขาเลือกให้เมื่ออยู่บนตัวเธอทำให้เธอดูสวย น่ารัก ไม่ต่างจากที่เขาจินตนาการไว้
ขวัญจิราเหลือบมองป้ายราคาแล้วรู้สึกใจหาย มันมากกว่าเงินเดือนทั้งเดือนของเธอเสียอีก แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร ธนาก็พูดขึ้น
“ขอชุดสไตล์นี้ทุกสีสำหรับผู้หญิงคนนี้อีกยี่สิบชุด” เขาหันไปพูดกับพนักงานโดยไม่ขอความเห็นจากเธอ
ขวัญจิราอ้าปากค้างเมื่อได้ยิน อีกยี่สิบชุด? “พี่ธนาไม่ต้องซื้อเยอะขนาดนั้นก็ได้ ขวัญใส่ซ้ำได้”
“จะใส่ซ้ำได้ยังไง อีกอย่างขวัญใส่สวย ซื้อให้เยอะพี่ก็ไม่เสียดายเงิน” เขาพูดกับเธออย่างอารมณ์ดี
หลังออกจากห้องเสื้อ ชายหนุ่มก็พาเธอไปเรียนแต่งหน้ากับเพื่อนที่ชื่อป๋อมแป๋ม ซึ่งมีร้านเสริมสวยในห้าง
“แป๋ม นี่ขวัญ” เขาแนะนำขวัญจิราให้เพื่อนรู้จักด้วยถ้อยคำสั้น ๆ โดยไม่ได้บอกสถานะของเธอ
“ขวัญ เพื่อนพี่ชื่อป๋อมแป๋ม”