บทย่อ
โปรย : บ่วงสวาทหากถลำ... ยากจะหักห้าม เช่นที่เขากำลังพลาดพลั้งโหยหาเธอ เช่นเดียวกับเธอที่มีแต่เขาทุกลมหายใจ รักซ้อนร้อนเร่าคราวนี้จะจบลงที่ตรงไหน... Ex : “ อาภีมขา ไหนว่าจะไม่ทำไงคะ ” เธอถามเสียงสั่น ทั้งที่อีกใจก็อยากให้เขาเข้ามาในตัวเหลือเกิน อยากรู้อยากลอง... “ ไม่... ไม่เอาเข้าค่ะ ” เขาตอบเสียงขาด ๆ หาย ๆ “ แต่ของอาภีมอยู่ตรงนั้น ” เธอทักท้วงเสียงกระเส่า “ อาจะอยู่แค่ตรงนี้ สัญญาจะไม่เอาเข้านะคะ ” ตอบพลางบดสะโพกให้ลำรักรุ่มร้อนเบื้องหน้าเบียดบดเนินนาง กดลงให้ถูไถแหวกเซาะกลีบเนื้อสองพูให้เปิดสู่เกสรน้อยด้านใน ถูขึ้น ถูลง ช้า ๆ แต่หนักแน่น... สาวน้อยจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างเพื่อระบายความกระสันเสียวเจียนใจขาดในทุกครั้งที่เส้นสายปูดโปนบนท่อนเนื้อครูดสีกับเกสรสาว ไม่ไหวแล้ว ใจจะขาด...
เสียงสมสู่
รถยนต์สีขาวนำเข้าจากยุโรปคันโตเลี้ยวเข้ามาในประตูรั้วของ ‘ บ้านรัตกาลสกุล ’ ในเวลาบ่ายคล้อย ก่อนจะจอดลงที่หน้าบันไดทางขึ้นสู่เรือนใหญ่
คนขับรถรีบลงจากฝั่งตัวเองแล้ววิ่งมาเปิดประตูให้ร่างสูงโปร่งของ คุณภูมิ ชายวัยห้าสิบห้าผู้เป็นประมุขของบ้านสาวเท้าลงมา ตามมาด้วย เภา แม่บ้านวัยเกือบสี่สิบปลายที่อยู่รับใช้บ้านรัตกาลสกุลมาเนิ่นนาน
คนสุดท้ายคือ ใบข้าว หญิงสาวหน้าหวานวัยสิบเก้า ผิวขาวผุดผาดอมชมพูระเรื่อด้วยมีสายเลือดทางเหนือ รูปร่างอวบอัดสะพรั่งแห่งวัยสาวแรกแย้มอยู่ในชุดผ้าถุงสำเร็จสีเหลืองอ่อนและเสื้อสีขาวแขนตุ๊กตา ผมยาวดำขลับดกดำสลวยราวเส้นไหมถึงบั้นเอวถูกปล่อยให้ยาวสยายอวดความงามน่าลูบไล้ดูว่าจะนุ่มนวลสักเพียงใด
เธอคือผู้มีตำแหน่งเป็น ‘ ว่าที่ลูกสะใภ้ ’ ของบ้าน
“ เอาล่ะ แยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะนะ ส่วนฉันก็จะขอจิบน้ำชายามบ่ายสักถ้วยแล้วงีบหลับเช่นกัน ขอบคุณมากนะหนูใบข้าว ที่เป็นธุระจัดการเรื่องอาหารการกินไปเลี้ยงเพลพระในวันนี้ ” คุณภูมิพูดพลางยิ้มให้เด็กสาวอย่างใจดี เธอส่งยิ้มกลับให้เช่นกัน
“ ด้วยความยินดีค่ะ ไม่เหนือบ่ากว่าแรงอะไรหนูเลยแม้แต่นิด สิ่งที่คุณลุงกรุณากับหนูมันมากมายกว่านี้มากนัก ”
ชายกลางคนส่ายศีรษะ
“ ไม่จริงหรอก หนูไม่รู้หรอกว่าถ้าไม่มีพ่อของหนูกระโดดเข้ามาขวางลูกปืนวันนั้น ลุงก็คงไม่มีวันนี้ ต่อให้ลุงมอบชีวิตกลับไปให้ก็ไม่เท่ากับน้ำใจของเจ้าคม ไปเถอะไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัย เภา เดี๋ยวให้ใครเอาชามะลิขึ้นไปให้ฉันบนห้องหนังสือด้วยนะ ”
“ ค่ะคุณท่าน ” แม่บ้านรับคำ ก่อนที่ต่างคนจะต่างเดินจากไปพักผ่อนและทำหน้าที่ของตน
ส่วนใบข้าวนั้นเธออาสาถือตะกร้าแล้วเดินตรงไปหมายจะเก็บที่ครัว ภายในนั้นบรรจุขนมข้าวทิพย์ที่ทางวัดกวนและแจกจ่ายให้กับผู้คนที่ไปทำบุญ แต่ยังไม่ทันจะถึงครัว หูของเธอก็แว่วเสียงบางสิ่งผิดแปลก
“ อาาา ”
“ อูยยยย ” มันเป็นเสียงครางกระเส่าผสานหอบคำรามครางสองเสียงมาจากที่ไหนสักแห่ง ใบข้าวเองก็เป็นสาวสะพรั่งและโตพอที่จะรู้ว่าเสียงพวกนี้มันหมายถึงอะไร
มันคือเสียงสมสู่ทางเพศ !
แต่เหตุใดมันดังชัดเจนราวกับว่าอยู่ใกล้เหลือเกิน หญิงสาวสอดส่ายสายตาไปทางต้นเสียงก็พบว่ามีบางอย่างขยับอยู่ในสวนครัวที่คนสวนปลูกผักแต่ก็จัดตกแต่งไว้สวยงาม
หัวใจของหล่อนเต้นแรง นึกหวาดหวั่นว่าหนึ่งในผู้ประกอบกิจกรรมนั้นจะเป็น พี่ต้น ว่าสามีของเธอหรือเปล่า ถึงแม้ว่าหนึ่งเดือนกว่าที่เธอได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เขาจะทำตัวดีกับเธอสักเพียงใด แต่หลายสิ่งหลายอย่างก็ทำให้เด็กสาวยังมีข้อสงสัยประสาผู้หญิง
สองเท้าสาวเข้าไปอย่างเงียบเชียบ เร้นกายหลบหลัง ต้นโมกที่ถูกตัดแต่งไว้เป็นพุ่มอย่างสวยงามและใหญ่พอที่จะเป็นที่กำบังให้เธอได้ โผล่ออกไปเป็นอิสระจากพุ่มสีเขียวเพียงส่วนศีรษะถึงดวงตาทั้งคู่เท่านั้น ก่อนที่มันจะเบิกกว้างด้วยความตกใจกับภาพที่ปรากฏให้เห็นเบื้องหน้า
ที่โคนต้นหางนกยูงที่กำลังออกดอกสีแดงสะพรั่งมีร่างเปลือยเปล่าของชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะกันกลางแจ้งอย่างไม่สนสี่สนแปด
หนึ่งในนั้นใบข้าวรู้จัก เธอคือพี่นวลนาง หญิงสาวร่างอวบ ผิวคล้ำ วัยยี่สิบสาม หลานสาวของป้าเภาที่เข้ามาอยู่ก่อนใบข้าวได้สักสองเดือน เธอมีลูกติดเป็นเด็กน้อยวัยห้าขวบที่ไม่มีพ่อและทิ้งไว้ให้แม่ของเธอเลี้ยงที่บ้านนอก และขอเข้ามาพึ่งใบบุญคุณท่านเพราะถูกสามีคนล่าสุดทุบตี เรื่องเล่าของเธอเป็นเช่นนั้น แต่จะจริงไม่จริงก็ไม่ทราบได้
แต่ผู้ชายคนนั้น คนที่ใบหน้าคมเข้มที่มีไรเคราล้อมกรอบ ตัวสูงใหญ่ เหงื่อท่วมกาย กล้ามเนื้อทั้งตัวบิดเกร็งเขม็งทุกคราวที่ขยับกระทั้นบั้นเอวเข้าหาหญิงสาวเบื้องล่างอย่างดุดันนั่นเป็นใครกันนะ ถึงได้กล้ากระทำการอุกอาจเพียงนี้