บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 เพื่อนเราไม่เก่าเลย

เพื่อนเราไม่เก่าเลย

 

ทินกรนอนค้างอยูที่โรงพยาบาลตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะโดนแม่ยึดทุกอย่างของเขา แม้กระทั้งคีย์การ์ดของคอนโดเอาไว้ด้วย และตั้งแต่วันนั้น ก็ยังไม่กล้าเข้าไปที่บ้าน จึงมาอาศัยอยู่ที่โรงพยาบาลแทน มีห้องพักส่วนตัวไว้สำหรับผู้บริหาร และถือว่าได้เรียนรู้งานของเหล่าบุคลากร และศึกษาเกี่ยวกับที่นี่ไปในตัวพร้อมๆเลย ก่อนที่จะเข้ามาบริหารงานที่นี่อย่างเต็มรูปแบบ

 

“เมื่อไหร่ จะเข้าไปหาแม่เขาที่บ้านสักทีล่ะ ไปขอโทษแม่ส่ะน่ะ นี่ก็ผ่านมาเป็นมาสัปดาห์แล้วน่ะ แล้วต่อไปก็อย่าไปทำอะไรแบบอีก จริงอยู่ที่เมืองนอกทีมใช้ชีวิตในแบบของทีมได้ แต่ที่นี่ไม่เหมือนกันน่ะ รู้จักให้เกียรติคนอื่น แล้วทีมจะเจอคนที่ดี คนที่รักทีมจริงๆเอง” หมอโปรดพูดขึ้นมาก่อนทันที เมื่อเห็นทินกรเปิดประตูเดินเข้ามาภายในทำงานของเขา และพร่ำสอนบอกทินกรออกไปอย่างยาวเหยียด

 

“ถ้าเย็นนี้ว่าง จะแวะไปครับ” ทินกรเอ่ยตอบ แล้วนั่งลงที่โชฟาตัวยาวข้างโต๊ะทำงานของหมอโปรด

 

“แล้วเรื่องที่ จะเข้ามาทำงานที่นี่ล่ะ ตอนนี้พร้อมยัง” หมอโปรดเอ่ยถามเรื่องงานขึ้นมาบ้าง เมื่อเห็นว่าให้เวลากับทินกรมามากพอสมควรแล้ว

“พร้อมครับ พรุ่งนี้เริ่มงานได้เลย” ทินกรเอ่ยตอบออกไปพอแต่ให้มันจบๆ โดยไม่ได้คิดอะไร

 

“ให้มันได้อย่างนี้สิลูกพ่อ” หมอโปรดส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย ในความดื้อของลูกชายให้ทันที เพราะบังคับมากก็ไม่ได้

 

“...” ทินกรได้แต่นั่งอยู่เงียบๆ เมื่อไม่เห็นว่าพ่อจะพูดอะไรออกมายาวกว่านี้

 

“เดือนหน้าจะมีนักศึกษาทุน ที่ทางโรงพยาบาลของเราได้มอบทุนให้ทางภาคอีสาน และจะเข้าฝึกงานที่นี่เป็นเวลา 6 เดือน พ่อจะให้เขามาเป็นผู้ช่วยของทีมน่ะ และจะมอบหมายให้ทีมเป็นคนจัดการเลย” หมอโปรดขึ้นมา เมื่อเห็นว่าทินกรนั่งเงียบ

 

“ทำไมต้องเป็นทีมด้วยครับ” ทินกรหันไปถามทันที เพราะปกติ ถ้ามีพยาบาลฝึกหัดเข้ามา หมอโปรดจะเป็นคนดูแล และจัดการเองทุกอย่าง

 

“ก็ต่อไป ทีมต้องเป็นคนบริหารงานที่นี่แทนพ่อยังไงล่ะ” หมอโปรดบอกออกไปตามตรง เพราะต่อไปเขาจะวางมือ และยกทุกอย่างให้ทินกรเป็นคนดูแลแทน เพราะลูกสาวก็ไม่ได้เอาดีทางด้านนี้

 

“คือตอนนี้ ทีมไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอะไรได้เลยใช่ไหมครับ” ทินกรถามออกไป แต่คำตอบที่ได้ก็ยังเหมือนเดิมอยู่ดี ก็คือไม่มีทางปฏิเสธนั้นแหล่ะ

 

“ใช่ครับ...คุณลูก ถ้าทีมไม่อยากทำ พ่อจะส่งกลับไปเรียนต่ออีก เลือกเอาน่ะ ว่าจะไปเรียนต่อ หรืออยู่สอนพยาบาลฝึกหัดที่นี่ เผื่อดีไม่ดีลูกอาจจะถูกใจ ได้สารสัมพันธ์กันยาวก็ได้น่ะ พ่อได้ข่าวมาว่า พยาบาลคนนี้สวย และเก่งเสียด้วยสิ แถมเป็นนักเรียนทุนมาจากมหาลัยชื่อดังทางตอนเหนืออีก”

 

“ถ้ามาจากมหาลัยดัง แล้วจะเลือกเข้ามาฝึกที่โรงพยาบาลของเราทำไมกันครับ”

 

“น่าจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างแหล่ะ พ่อว่า”

 

“เฮ้อ...ครับคุณศาสตราจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ในย่านนี้” ทินกรถอนหายใจยาว และเอ่ยแซวพ่อออกไป

 

“เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ นายแพทย์ทินกร” หมอโปรดเอ่ยแซวกลับมาบ้างโดยไม่มีใครยอมใครเลยจริงๆ พ่อลูกคู่นี้

 

หากใครที่ไม่เคยรู้ภูมิหลังของทั้งคู่มาก่อน ต่างก็อาจจะคิดว่าทั้งคู่คือสายเลือดกันจริงๆ เพราะทั้งหน้าตา นิสัย แถมรูปลักษณ์ยังถอดแบบกันมาส่ะขนาดนี้ เหมือนกันยังกับร่างสะท้อนอย่างเห็นๆ

 

“หึ...” ทินกรเค้นหัวเราะออกมาทันที พร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ อย่างรู้ทันกัน

 

“แล้วนี้จะไปไหนอีกล่ะ” หมอโปรดถามขึ้น เมื่อเห็นลูกชายลุกขึ้น กำลังจะเดินออกไป

 

“ไปหาเพื่อนครับ...วันนี้ต้องได้ปลดปล่อย เพราะพรุ่งนี้จะต้องทำงานแล้ว คงไม่ได้ออกไปอีกนาน” ทินกรเอ่ยตอบออกไป แล้วเดินออกจากห้องทันที

 

“...” หมอโปรดได้แต่ส่ายหน้าให้แก่ความดื้อรันของทินกรเบาๆ เมื่อชายหนุ่มเดินออกไปแล้ว

 

 

กลางดึก ณ Smile Club

 

ผับหรูใจกลางเมืองกรุง ทินกรตั้งใจ เอาไว้แล้วว่าวันนี้จะต้องได้มาปลดปล่อยอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะเริ่มงานในวันพรุ่งนี้ จึงได้โทรนัดกับเพื่อนเก่า สมัยที่เรียนตั้งแต่มัธยมอย่าง คามิน ที่สนิทกันและยังติดต่อกันตลอดเพียงคนเดียวของเขาที่นี่ เพราะพึ่งจะเข้าเรียนมหาลัยได้ปีสอง หมอโปรดก็สั่งย้ายทินกรไปเรียนเฉพาะทาง ที่ต่างประเทศทันที เมื่อสืบรู้มาว่าลูกชายไปแอบใช้ความเร็วในแข่งรถ

 

“ว่าไงเพื่อนยาก” คามินถามขึ้นมาทันที ที่เดินเข้ามายังห้องวีไอพีของผับ ที่ได้นัดกันไว้ตั้งแต่ก่อน

 

“สบายดี ก็อย่างที่มึงรู้นั้นแหล่ะ” ทินกรตอบกลับไป พร้อมยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นมากระดกทีเดียวหมดแก้ว

 

“ไปเป็นเด็กนอกมาตั้ง 7 ปี กูคิดแต่ว่า มึงจะหิ้วเมียฝรั่งมาฝากกูเสียอีกน่ะ” คามินเอ่ยแซวขึ้นมา เพราะก็แอบรู้มาบ้างว่ามีสาวตาน้ำข้าวแอบมาติดพันธ์เพื่อนของเขาอยู่บ้างไม่น้อย

 

“ก็เหมือนมึงตอนนี้แหล่ะ...เพียงแต่กูไม่เคยไปผูกมัดกับใคร” ทินกรสวนคำพูกลับมาทันที

 

“เออ...กูไม่เถียง ทำไงได้ว่ะ มึงหนีกูไปตั้ง 7 ปี แถมกูก็ไม่มีเพื่อนที่ไหน พอแต่กูมีมันเป็นเพื่อน ใครจะคิดว่ะ ว่าอยู่ๆ จากเพื่อนที่สนิท จะกลายมาเป็นเมียกูอยู่ตอนนี้ แถมแมร่งโคตรเด็ดเลย ไม่น่ะปล่อยผ่านมาตั้งหลายปีเลย” คามินยอมรับออกมาตามตรง

 

เพราะตั้งแต่ที่ทินกรไปเรียนที่ต่างประเทศ เขาก็ไม่มีเพื่อนเลย จนวันหนึ่งมีหญิงสาวลุคห้าวๆคนหนึ่ง ชื่อว่า เหมือนฝัน ที่พึ่งจะย้ายหน่วยกิจเข้ามาเรียนที่คณะเดียวกัน และเป็นจังหวะที่อาจารย์ในคลาสสั่งให้ทำงานคู่ชายหญิงพอดี และทั้งสองก็ต่างไม่มีเพื่อน จึงจับกลุ่มกันเอง และจากนั้นก็สนิท และเรียนด้วยกันมาจนจบ ทั้งคู่ไปดื่มเลี้ยงฉลองกันที่คอนโดของคามิน เพราะต่างคนต่างคิดว่าสนิทกัน และเชื่อใจ เมาจนแทบไม่ได้สนิท จนทั้งคู่เผลอมีความสัมพันธ์กัน และตอนนี้ทั้งก็แต่งงานกันมาและใช้ชีวิตด้วยกันมาจะเข้า 4 ปีแล้ว

 

“ยังมาคุยอวดกูอีกน่ะมึง สงสารคนโสดแบบกูบ้างเถอะ ใครบอกให้มึงเอาผู้หญิงมาเป็นเพื่อนว่ะ ร้อยทั้งร้อยเสร็จมึงทั้งนั้นแหล่ะ แต่แปลกน่ะ ผู้หญิงคนนี้ทำคนแบบมึงเชื่องได้ไง กูชักจะอยากเห็นหน้าแล้วล่ะสิ”

 

“มึงอยากรู้เหรอ ว่าทำไมเธอถึงเอาคนแบบกูอยู่ได้” คามินถามกลับไป

 

“อื้ม กูก็แค่สงสัยไปอย่างนั้นแหล่ะ” ทินกรพยักหน้าเพียงเล็กน้อย แล้วหันมาเลิกคิ้วขึ้นถามอย่างสงสัย

 

“มันเอากูโคตรเก่งเลยเว้ย กูก็ยังงงว่าคนแบบมันไปแอบเรียนเรื่องพวกนี้มาจากไหนกัน ทั้งๆที่ภายนอกไม่มีใครกล้าจีบมันเลย” คามินพูดออกมาแบบไม่อาย

 

“แล้วไม่คิดจะมีลูกกันเหรอ แต่งกันมาก็พอสมควรแล้วนี้” ทินกรถามขึ้นมา

 

“กูรอให้มึงแต่งงานก่อน กูค่อยมี” คามินพูดพร้อมกับยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นบ้าง

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel