โมโหหึง
“กูเป็นคนมาชวนน้องสาวกูเองแหละ เพราะเห็นว่ามึงมันไม่อยู่....”
“เหอะ! คงจะทำกันเป็นขบวนการสินะ พี่ชายก็เห็นดีเห็นงามให้น้องสาวตัวเองมีชู้ ความจริงถ้าชมพูอยากจะไปเที่ยวเธอก็น่าจะบอกผม เพราะผมเป็นผัวเธอ ไม่เห็นจะต้องบอกคุณเลยนะคุณชนกันต์” ประโยคสุดท้ายเขาพูดเค้นเสียงเน้นย้ำอย่างเหน็บแนม
“แล้ววันๆ ผัวอย่างมึงมันอยู่ไหมล่ะ ไม่ใช่ว่ามัวแต่ไปคั่วอยู่กับผู้หญิงในสังกัดอยู่รึไง!”
“ใช่ว่าผมจะไม่ชวนเธอหนิ ผมชวนชมพูแล้วแต่เธอไม่ไปแล้วจะให้ผมทำยังไง!!”
“มึงก็รู้ว่าน้องสาวกูไม่ชอบเที่ยวสถานที่แบบที่มึงไป...แล้วมึงจะให้ชมพูไปทำไมล่ะ หรือจะให้น้องสาวกูไปดูพฤติกรรมมั่วๆ ของมึงกับบรรดาผู้หญิงพวกนั้น!”
ชนกันต์กล่าวออกมาอย่างไม่เกรงใจเจ้าของบ้านที่เป็นถึงน้องเขยเลยสักนิด นั่นเป็นเพราะว่าเขาเก็บกักเรื่องราวต่างๆ เอาไว้ในอกมานานแล้วนั่นเอง อีกอย่างตัวเขาเองก็เป็นพี่ชายของชมพูนุชจึงสามารถพูดออกมาแบบนี้ได้ ผิดกับพีระวิทย์ที่อาการหนักกว่า แต่ไม่สามารถระบายออกมาได้เลยสักนิด เพราะตัวเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ
“และที่สำคัญคุณแม่ก็ไปกับพวกเราด้วย...คุณแม่ยังถามอยู่เลยว่าลูกเขยที่แสนดีอย่างมึงมันหายหัวไปไหน!!”
ชนกันต์หาข้ออ้างขึ้นมาอีก เพื่อจะได้ให้น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น และมันก็ได้ผลเมื่ออีกฝ่ายอารมณ์อ่อนลง
“ว่างๆ เข้าไปที่บ้านหน่อยก็ดีนะ เพราะกูขี้เกียจตอบคำถามคุณแม่...กลับกันเถอะไอ้พี...”
ประโยคหลังเขาหันมาพยักหน้ากับเพื่อน แล้วหันไปบอกน้องสาวตนเองว่าจะโทรหา จากนั้นทั้งคู่ก็พากันเดินไปที่รถของตนซึ่งจอดอยู่
“จะไปไหนทำไมไม่บอก!!”
ร่างสูงของผู้เป็นสามีก้าวเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าผู้เป็นภรรยากำลังจะเดินเข้าบ้าน พร้อมทั้งกระชากต้นแขนเธอเอาไว้แน่น
“…..”
“ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง!”
เสียงเข้มขึ้นเมื่อคนที่ตัวเองกำลังตะคอกถามนั้นไม่ยอมตอบ
“เบอร์คุณมีเยอะแยะ เวลาฉันโทรหาก็ปิดเครื่องทุกครั้ง แล้วแบบนี้จะให้โทรหาเพื่ออะไรกันคะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเบอร์ที่คุณใช้ประจำคือเบอร์ไหนกันแน่”
นิ้วแข็งแกร่งค่อยๆ คลายออกเมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวเอ่ย เพราะมันก็ใช่จริงๆ นั่นแหละ เขามีโทรศัพท์ห้าเครื่อง มีเบอร์ทั้งหมดสิบกว่าเบอร์สลับใช้กัน ดังนั้นจึงไม่รู้เลยว่าเวลานั้นเขาใช้เบอร์ไหน และที่สำคัญเวลาอยู่ข้างนอกกับผู้หญิงคนอื่นเขาก็มักจะปิดเครื่องตลอด
“ทีหลังก็หัดเช็คเบอร์ผัวตัวเองซะบ้างสิ ไม่ใช่ว่าทำเป็นไม่สนใจแบบนี้”
“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะคะ ในเมื่อคุณเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเรื่องส่วนตัวของคุณอย่าไปยุ่ง”
เมื่อถูกย้อนแบบนี้ทัชชกรเองยิ่งอารมณ์เดือดเข้าไปใหญ่ ดวงตาคมจ้องมองอีกฝ่ายตาเขียวปั๊ด แต่เธอกลับไม่สนใจเดินหนีเข้าไปในบ้านทันที เจ้าของร่างสูงโปร่งเดินสาวเท้ายาวๆ ก้าวตามเข้าไป แล้วคว้าต้นแขนของเธออีกครั้งอย่างนึกโมโห
“พูดกันให้รู้เรื่องก่อน จะหนีไปไหน”
“ฉันน่ะรู้เรื่องแล้ว มีแต่คุณเท่านั้นแหละที่ไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว” เธอเอ่ยขึ้นมาเสียงแข็ง
“หมายความว่าไง ที่บอกว่าฉันไม่รู้เรื่อง!!”
เขาดึงร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แน่น ตาคมดุจ้องใบหน้านวลนิ่งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“…..”
“ปกติจะไม่ค่อยพูดนี่…หรือว่าพอเจอไอ้พีมันบ่อยขึ้นจึงอยากหาเรื่องฉัน” เขาพูดเหน็บแนม
“อย่าเอาคนอื่นเขาเข้ามาเกี่ยวได้ไหมคะ”
“ทำไม!! ฉันคงจะพูดแทงใจดำสินะ แตะผัวเก่าแค่นิดเดียวทำเป็นพาลใส่ผัวตัวเอง” เขาตะคอกขึ้นมาเสียงดัง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อนแม้แต่กับพีระวิทย์เอง และเขาก็เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ
“หยุดหาเรื่องฉันสักที ถ้าคุณว่างนักก็ไปหาอะไรทำที่มันเป็นประโยชน์กว่านี้ดีกว่าไหมคะ หรือไม่…ก็เอาเวลาอันมีค่าของคุณไปหาผู้หญิงในสังกัดคุณจะดีกว่า!!”
ชมพูนุชพยายามดันตัวเองออกสุดแรง แต่ดูเหมือนว่าคนที่โอบกอดรัดตัวเธออยู่จะไม่ยอมท่าเดียว
“ปล่อยฉันนะคะ!!”
“ทำไมต้องปล่อย อย่าลืมว่าฉันเป็นผัวเธอ...ฉันมีสิทธิ์กอดเธอ แล้วก็มีสิทธ์ทำอะไรที่มันมากกว่านี้ก็ยังได้”
สายตาคมเริ่มกร้าวขึ้นมา ก่อนจะตัดสินใจอุ้มร่างที่แสนเบาหวิวอย่างกับปุยนุ่นเข้าไปในห้องนอน โดยไม่สนใจแม้แต่นิดว่าเจ้าตัวจะดิ้นรนขัดขืนมากเพียงไดก็ตาม
พรึ่บ!!!
“ว้ายยยย!! คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ!!”
“หึ!”
เขาแค่นหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเดินโทงๆ อุ้มร่างเธอเข้าไปในห้อง ทัชชกรโยนร่างเธอลงไปยังเตียงนอนหนานุ่ม แล้วตามลงมาทาบทับบนตัวเธออย่างรวดเร็วไม่ยอมให้เธอดิ้นหนีไปได้ แม้ว่าเขาและเธอจะแต่งงานกันมากว่าหนึ่งปีแล้วก็จริง แต่เขากับเธอก็มีสัมพันธ์กันน้อยมาก หากไม่บังคับเธอก็ไม่มีวันเข้าใกล้เขาเป็นอันขาด ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับครั้งก่อนๆ เธอทั้งจิกทั้งข่วนปัดป้องให้เขาออกไปจากตัวเธอ แต่สุดท้ายผู้หญิงตัวเล็กๆ เช่นเธอมีหรือจะสู้แรงของผู้ชายที่ตัวโตกว่าได้
เสื้อผ้าของชมพูนุชถูกกระชากออกมาด้วยฤทธิ์อารมณ์ที่กำลังรุนแรงของอีกฝ่าย จนกระทั่งมันขาดแคว่กติดมือออกมา อาภรณ์นั้นถูกเขาเหวี่ยงออกไปอย่างไม่ไยดี หน้าอกอวบอิ่มได้ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา ดวงตาคมจ้องมองร่างอรชรงดงามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ผิวพรรณน่าลูบไล้อย่างไม่มีที่ติ เขากดข้อมือทั้งสองข้างของเธอลงแนบกับที่นอนหนานุ่มเมื่อหญิงสาวพยายามยกขึ้นมาปัดป้องตนเองอีกรอบ ก่อนริมฝีปากร้อนผ่าวจะก้มลงมาขบเม้มยอดปทุมที่ชูชันอยู่ตรงหน้า คนดิ้นก็ดิ้นไป แต่คนทำก็ไม่สนใจ เขายังคงขบเม้มริมฝีปากเข้าหายอดบัวงามสลับกันไปมาจนอีกฝ่ายเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง
“บอกมา! ว่าเธอกับมันแอบทำอะไรลับหลังฉันมาบ้าง”
“คุณเป็นบ้าไปแล้วรึไงถึงพูดไม่รู้เรื่อง! ฉันกับพี่พีเราไม่ได้ทำอะไรกันทั้งนั้น ปล่อยนะคะคุณเสือ ฉันเจ็บ!!”
“อย่าคิดที่จะมาสวมเขาให้ฉัน เธอเองมันก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงทั่วๆไปที่ฉันซื้อกินอยู่บ่อยๆ ร่าน สำส่อน เล่นชู้สวมเขาให้ผัว!!”
มือใหญ่ที่จับข้อมือเธอตรึงไว้เหนือศีรษะออกแรงบีบกำมันอย่างแรง จนคนที่อยู่ใต้ร่างใบหน้าเหยเกเพราะความเจ็บ
“ปล่อยนะคะคุณเสือ ฉันเจ็บ!!”
“เธอเจ็บไม่เท่าฉันหรอกชมพูนุช!!” เขาเอ่ยตะคอกใส่หน้าเธอ มิหนำซ้ำยังกำข้อมือของเธอแรงขึ้นอีก ราวกับจะให้กระดูกแหลกสลายคามือของเขา
“ฉันบอกคุณไปแล้วไง ว่าฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น!! โอ๊ย ปล่อยนะ ฉันเจ็บ!!”
“หึ! เจ็บก็ต้องทนให้ไหว เพราะหลังจากนี้ฉันจะเอาเธอให้แหกจนลืมคนอย่างไอ้พีระวิทย์ไปเลย!!”
คนที่หน้ามืดตามัวไปกับแรงโทสะไม่รอช้า เขายืดตัวขึ้นถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกบ้างอย่างรวดเร็ว ทันทีที่กางเกงราคาแพงถูดถอดออก ท่อนเอ็นอันแข็งแกร่งก็ดีดเด้งออกมาผงาดชี้โด่อยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนเขาจะโน้มตัวลงทาบทับร่างบางซึ่งพยายามตะเกียกตะกายออกจากคนตัวโตที่กดทับตัวเธออยู่ด้านบน แต่มันก็ไม่เป็นผล เขากอดจูบลูบไล้ทุกส่วนของร่างกายนุ่มสะเปะสะปะไปมาราวกับหิวกระหาย ทว่าอีกฝ่ายนั้นกลับไม่มีอารมณ์ร่วมเลยสักนิด ใบหน้าหวานหันไปอีกทางโดยไม่ยอมมองคนใจร้ายที่ทาบทับร่างเธออยู่ราวกับว่ารังเกียจ และนั่นก็ยิ่งทำให้คนที่อารมณ์เดือดพล่านเป็นทุนเดิมอยู่แล้วโมโหเข้าไปอีก เขาเอื้อมมือหนาไปบีบคางเรียวเล็กของเมียสาวเพื่อให้เธอหันหน้ากลับมาหาเขา ก่อนจะประกบริมฝีปากอิ่มนุ่มอย่างเร่าร้อนรุนแรงจนรับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวเลือดสดๆ จากการกระทำอันป่าเถื่อน
“อื้อออ อ่อย นะ อื้อออ!!”
เสียงร้องอึกอักในลำคอดังเล็ดออกมาเป็นระยะ เพื่อหมายจะให้เขานั้นหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนรุนแรงแบบนี้กับเธอ แต่คนใจร้ายราวกับสัตว์ป่าอย่างเขามีหรือจะเห็นใจ เขายังคงยังคับจูบเธออยู่แบบนั้น อีกทั้งยังพยายามสอดแทรกเรียวลิ้นอันร้ายกาจเข้าไปตักตวงกวาดต้อนความหวานจากโพรงปากนุ่มของเธออย่างกระหายไม่หยุด
“คุณเสือ อื้อ...เป็นบ้าไปแล้วรึไงคะ ปะ ปล่อยฉันนะคะคุณเสือ อื้อ!!”
พอปากเป็นอิสระเธอก็ต่อว่าเขาทันที แต่ความโกรธทำให้อีกคนหูอื้อตาลาย เขาไม่แม้แต่จะสนใจเสียงร้องปรามของเธอเลยสักนิด เขาไม่ต้องการไถ่ถามอะไรเธอต่อทั้งนั้น ต่อให้เธอกับไอ้พีระวิทย์นั่นจะพากันไปถึงสวรรค์ชั้นไหนกันมาบ้างก็ตาม แต่เขาจะเป็นคนฉุดเธอลงนรกเอง