บท
ตั้งค่า

ตกหลุมรัก

ณ ผับดัง…

นัยน์ตาคมกริบดุจเหยี่ยวใต้ความมืดสลัวๆ กำลังจ้องมองไปยังหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่กำลังนั่งหัวเราะร่ากับกลุ่มเพื่อนสาวท่ามกลางแสงไฟกะพริบ และเสียงเพลงที่ดังกระหื่มไปทั่วทั้งผับ ทั้งที่เธอเพียงยิ้มเล่นพูดคุยกับเพื่อนตัวเอง แต่หัวใจแกร่งของเขากลับเต้นระส่ำรัวแรงราวกับจะทะลุออกมานอกอก แค่เห็นรอยยิ้มหวานเย้ายวนนี้ก็สามารถทำให้คนหัวใจหินอย่างเขาใจสั่นระรัวขึ้นมาเอาเสียดื้อๆ

“เครื่องตรวจจับหาเหยื่ออันโอชะของมึงกำลังกลับมาเริ่มทำงานอีกแล้วสินะไอ้เสือยิ้มยาก” ฌอนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ พลางหมุนควงแก้วแอลกอฮอล์สีอำพันอย่างแรงในมือไปมา เมื่อเริ่มสังเกตได้ว่าเรดาร์ตรวจจับเหยื่อสาวรายใหม่ของเพื่อนกำลังทำงาน

“อะไรในตัวกูที่ทำให้มึงคิดอย่างนั้น” ทัชชกรตั้งคำถามกลับไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่แววตาคมคู่นั้นยังคงจับจ้องไปยังเจ้าของใบหน้าหวาน ที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน แข่งกับเสียงดนตรีที่บรรเลงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ดูท่าแล้วกลุ่มพวกเธอน่าจะมาปาร์ตี้งานวันเกิดของคนใดคนหนึ่งในกลุ่ม

“กูใครวะ? กูนี่ฌอนชยางกูรเพื่อนมึงเชียวนะโว้ย แค่มึงอ้าปากกูก็เห็นลิ้นไก่มึงแล้ว” ฌอนเอ่ยตอบพลางหัวเราะเสียงดังชอบใจ

“คงเป็นน้องคนสวยหน้าหวานชุดสีดำสินะที่มึงกำลังจ้องเขมือบอยู่ กูทายถูกไหม?” คราวนี้ชายหนุ่มหน้าตี๋ราวกับพระเอกหนังเกาหลีที่มีนามว่าโฬมเอ่ยขึ้นบ้าง

“หึ รู้ดี…แสนรู้ทุกเรื่องจริงนะพวกมึง” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาเบาๆ แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร แขนแกร่งข้างหนึ่งวางพาดพนักพิงโซฟาราคาแพงเอนหลังพิงในท่วงท่าที่ดูสบาย ส่วนมือหนาอีกข้างหมุนควงแก้วเหล้าในมือไปมา ท่าทางที่ดูสบายๆ นั้นแต่กลับทำให้สาวๆ น้อยใหญ่นักท่องราตรีหลายคนมองมาที่เขากันเป็นขบวน พร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มเชื้อเชิญอย่างสุดฤทธิ์

“กูเป็นเพื่อนมึงมาจนจะแก่หงำเหงือกตายแล้วนะโว้ยทำไมจะไม่รู้ แล้วนี่ไอ้พวกเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ เด็ดๆ จนเข็ดฟันมันไม่น่าค้นหาสำหรับมึงแล้วว่างั้น? หรือว่ารสนิยมมึงตอนนี้กำลังเปลี่ยนไป?”

“คนเรามันก็ต้องลองเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ บ้างสิวะ จะได้รู้ว่าจริงๆ แล้วชอบแบบไหน และอะไรที่อร่อยถูกปากมากกว่ากัน”

เขาตอบเสียงเรียบนิ่งภายใต้ใบหน้าที่ยังดูเรียบเฉยจนออกไปในทางที่ดูเย็นชา

“เป็นเสือต้องออกล่า ไม่ใช่รอเวลาให้เหยื่ออ่อยนะเว้ย จ้องเขาจนแทบจะเขมือบเข้าไปทั้งตัวอยู่แล้วก็ลุยเลยสิวะ…จะรออะไร! ขี้คร้านพอเจอผู้ชายหล่อรวย แถมยังกระบวยใหญ่แบบมึง มีแต่จะวิ่งแจ้นเข้าหาถวายตัวให้” ฌอนกล่าวพลางยกแก้วเหล้าในมือขึ้นมากระดกลงคอไปอึกหนึ่ง

“เหอะ! แล้วที่กำลังติดใจแม่สาวน้อยหน้าหวานคนนี้ ปรึกษาว่าที่เมียที่แม่มึงกำลังจะให้แต่งงานแล้วรึยังไม่ทราบ ฮ่าฮ่าฮ่า” ฌอนเอ่ยขึ้นพลางหัวเราะชอบใจ จนโฬมเองก็พลอยหัวเราะไปกับเพื่อนด้วยเช่นกัน

“เหอะ! ทำไมต้องปรึกษาวะ กูไม่ได้อยากจะได้ยัยนั่นมาเป็นเมียซะหน่อย ถ้าอยากได้กูเป็นผัวนักกูก็จะเป็นให้ แต่เป็นแค่ในนามก็เท่านั้นแหละ!” เขาแค่นหัวเราะเยาะในลำคอ แค่ผู้ชายอย่างเขายอมลดตัวแต่งงานด้วยก็บุญเท่าไหร่แล้ว คนที่หวงความโสดอย่างเขาเสียสละได้ขนาดนี้ก็นับว่าหาไม่ได้บ่อยครั้งนัก อีกอย่างหน้าตานิสัยใจคอก็ยังไม่เคยเห็น และเขาเองก็แทบจะไม่รู้จักตัวตนของอีกฝ่ายเลยเสียด้วยซ้ำ

“หึ แล้วน้องลิลลี่ขยี้ใจของมึงคงไม่เด็ดแล้วสินะถึงได้หมดวาระเร็วขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าแม่นั่นจะยอมให้มึงสละโสดคราวนี้ได้ แม่งเห็นเกาะติดหนึบเป็นตุ๊กแก ยังไม่ถึงสามเดือนเลยด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอวะ โดนเขี่ยตกกระป๋องซะแล้ว!!” โฬมเอ่ยพลางกระดกเหล้าในมือไปอึกใหญ่

“กูไม่ชอบคนที่ไม่ค่อยเชื่อฟัง ในเมื่อไม่เป็นอย่างที่ตกลงกันไว้ก็แค่ฉีกสัญญาทิ้ง ไม่ได้มีแค่ผู้หญิงคนนี้นี่หว่าที่อยากจะผูกปิ่นโตกับกู” ก็แค่พวกผู้หญิงที่ชอบทำตัวล้ำเส้น เจ้ากี้เจ้าการ และยังคอยทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ผู้หญิงประเภทนี้เป็นอะไรที่ผู้ชายอย่างทัชชกรไม่อยากเล่นด้วยเป็นที่สุด เพราะมันช่างน่ารำคาญ คอยแต่จะหาเรื่องปวดหัวมาให้

“หึ พ่อเสือไม่เคยสิ้นลาย…แล้วนี่ถ้ามึงจะมองเขาขนาดนี้ก็ลุยเลยเถอะ เดี๋ยวสุนัขก็คาบแม่น้องคนสวยนั่นไปรับประทานเอาซะก่อนหรอก” ฌอนกล่าวในขณะที่สังเกตได้ว่าทัชชกรเพื่อนชายไม่ยอมละสายตาคมคู่นั้นไปจากสาวสวยที่ตนเองนั้นหมายตาเอาไว้เลยสักนิด ท่าทางผู้หญิงคนนี้เพื่อนของเขาน่าจะสนใจมากจริงๆ ถึงได้จ้องมองไม่วางตาขนาดนี้

“กูว่าเธอน่าสนใจดีนะ ดูสิ! นี่ขนาดมึงจ้องขนาดนี้เธอยังไม่คิดจะชายตาหันมาแลผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์สเปกสาวอย่างมึงเลยว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า!!” ฌอนหัวเราะเยาะเพื่อนอย่างสะใจ หากเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ถูกผู้ชายอย่างทัชชกรมองขนาดนี้คงรู้ตัว และรีบปรี่เข้ามาหาเขาไปนานแล้ว แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้เธอกลับไม่มีแม้แต่จะชายตามามองเสียด้วยซ้ำ

“หึ แบบนี้แหละ กูชอบ!” มุมปากยกยิ้มอย่างพึงพอใจเหมือนได้รับการท้าทายอย่างหนึ่ง ซึ่งอะไรที่มันได้มายากๆ ผู้ชายอย่างเขาก็ดันชอบซะด้วยสิ แต่ก็คิดได้เพียงเท่านั้น…เมื่อจู่ๆ ก็มีผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้ามายังโต๊ะที่มีเธอนั่งอยู่ ผู้ชายคนนั้นเข้ามาพูดคุยทักทายสาวสวยหน้าหวานคนที่เขาสนใจด้วยท่าทางที่ดูสนิทสนมมากเป็นพิเศษ จนคนที่กำลังจ้องมองอยู่บนโซนวีไอพีชั้นบนนั้นถึงกับหัวคิ้วหนากระตุก ใบหน้าหล่อเหลาก่อนหน้านี้แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงขึ้นมาอย่างไม่พอใจทันที

“เฮ้ย!! นั่นมันไอ้พีระวิทย์หนิ! มันรู้จักน้องคนสวยนั่นได้ไงวะ กูว่า…งานนี้มึงคงจะได้กินแห้วแล้วล่ะว่ะไอ้เสือ ท่าทางสนิทสนมแนบแน่นขนาดนั้น ไอ้พีระวิทย์คงจะเป็นผัวน้องคนสวยนั่นชัวร์!!”

ฌอนกล่าวขึ้นขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปยังชายหนุ่มหญิงสาวสองคนที่ท่าทางดูสนิทสนมกระหนุงกระหนิงราวกับเป็นคนรัก และพีระวิทย์เองก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เขาดันเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย อีกทั้งยังเป็นคู่แข่งของทัชชกรในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องกีฬา และกิจกรรมต่างๆ ทัชชกรไม่มีอะไรสู้พีระวิทย์ได้และเป็นรองตลอด พีระวิทย์เป็นคนที่เรียนดี ส่วนทัชชกรจะค่อนข้างไปในทางที่เกเร มีสิ่งเดียวที่เขาพอจะชนะพีระวิทย์ได้ก็คือเรื่องหน้าตาและฐานะ เพราะสภาพทางบ้านของพีระวิทย์เองไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เข้าขั้นไปในทางฐานะยากจนเสียด้วยซ้ำ

“หึ ไม่เจอซะนาน…แต่มันก็ยังเสือกมาชอบผู้หญิงที่กูหมายตาเอาไว้ เหอะ! มันนี่แม่งเป็นเจ้ากรรมนายเวรกูรึไงวะ”

เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูเย็นชายากเกินจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนจะยกแก้วเหล้าเพียวๆ ลงคงไปอีกกรึบราวกับว่ามันเป็นแค่น้ำเปล่า ไม่คิดเลยว่าคู่แข่งในทุกๆ เรื่องตั้งแต่สมัยเรียนจะดันมาสนิทสนมกับผู้หญิงที่ตนเองนั้นหมายตาไว้ ช่างบังเอิญอะไรขนาดนี้ แต่เขาในทุกวันนี้ไม่ใช่ทัชชกรคนเดิมที่เคยขี้แพ้เรื่องเรียน และเรื่องกิจกรรมเหมือนเมื่อก่อนหรอกนะ เพราะทุกวันนี้เขาได้กลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ประสบความเร็จ และยังเป็นที่หมายปองของสาวๆ มากหน้าหลายตา

ทัชชกร ปรีดาศิริกุล หรือ เสือ ชายหนุ่มหล่อคาสโนวาตัวพ่อในวัย 30ปี นิสัยปากจัด ปากไม่ตรงกับใจ ชอบเอาชนะ บ้าอำนาจ เอาแต่ใจ แต่อ่อนไหวเรื่องความรัก ตอนนี้ทัชชกรขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัทTKกรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าของห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุด ด้วยรูปแบบร้านค้าที่หลากหลาย และเป็นธุรกิจระดับแนวหน้าในเอเชียอาคเนย์ ปัจจุบันนี้เขาขึ้นมานั่งแท่นเป็นผู้บริหารบริษัทแทนผู้เป็นพ่ออย่างเต็มตัวแล้ว อีกทั้งยังต้องดูแลธุรกิจสีเทาอีกหลายอย่าง รวมทั้งลูกน้องอีกนับร้อยชีวิตที่อยู่ในความดูแลของเขา แม้ผู้ชายอย่างทัชชกรจะต้องรับภาระอันหนักอึ้งมากมาย แต่มาเฟียในคราบนักธุรกิจหนุ่มเช่นเขาก็ฝ่าฟันอุปสรรคมากมายหลายอย่างมาได้ จนปัจจุบันนี้เขาได้ขึ้นแท่นมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่หลายๆ คนต่างจับตามอง และก็ต่างยอมรับในความสามารถของเขากันอย่างล้นหลาม

“แล้วมึงจะเอาไงต่อวะ จะเดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้?” ฌอนเอ่ยถาม

“ทำไมกูต้องลดตัวไปเกลือกกลั้วกับคนอย่างไอ้พีมันด้วยวะ ผู้หญิงมีออกเยอะแยะที่พร้อมจะขึ้นเตียงกับกู!” น้ำเสียงห้วนๆ เอ่ยตอบ

“เออ นั่นสินะ! กูก็ลืมไปว่าผู้หญิงสาวๆ สวยๆ ที่พร้อมจะวิ่งแจ้นเข้าหาคนอย่างมึงมีเป็นฝูงๆ” ฌอนกล่าว

“อย่าสนใจเลยว่ะ มา!! ชนแก้วกันดีกว่า ดวลกันหน่อยก่อนมึงจะสละโสด!” โฬมเอ่ยขึ้นพร้อมกับเทเหล้าเพียวๆ ให้เพื่อน ก่อนทั้งหมดจะยกแก้วเหล้าสีอำพันขึ้นมากระทบกันเบาๆ เพื่อดื่มด่ำไปพร้อมกับบรรยากาศอึมครึมของเจ้าของใบหน้าคมสันที่ตอนนี้ถมึงทึงราวกับไปกินรังแตนมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel