บทที่ 1
เสียงรถยนต์ขับเคลื่อนบนท้องถนนและเสียงแตรที่ดังขึ้นเพื่อเตือนรถจักรยานยนต์ที่เพิ่งขับปาดหน้า เรียกสติสาวสวยในชุดเพื่อนเจ้าสาวสีครีมให้แจ่มชัดขึ้นมาในที่สุด เธอพ่นลมหายใจยาว ไม่แน่ใจว่าตนตัดสินใจถูกหรือผิดที่หนีออกมาจากงานมงคล
‘ผมรักคุณนะ คุณมาหาผมได้ไหม…’
คำว่ารักที่ปลายสายกล่าว หลังจากหายตัวนานหลายสัปดาห์ทำให้เธอหัวใจเต้นระรัว ลงมือทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ นั่นคือการหนีออกจากงานแต่งงานของตัวเอง
รสรินทร์ โชติกิตติกร นึกย้อนกลับไปราวยี่สิบนาทีก่อน เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่น้องสาวต่างมารดากลับนำอาหารรองท้องเข้ามาให้ พร้อมถามดูเผื่อว่ามีอะไรให้ช่วย แน่นอนว่านอกจากจะไม่ได้ช่วยอะไรแล้ว ยังขัดขวางไม่ให้เธอหนีออกจากงานอีก
เมื่อไร้ทางเลือกรสรินทร์จึงจำต้องใช้กำลัง สุดท้ายก็ขู่ว่าจะทำร้ายตัวเอง ซึ่งมันก็ได้ผล เธอบังคับเอาชุดของน้องสาวผู้โชคร้ายมาสวม ปิดปากมัดมือเท้าและขังไว้ในห้องน้ำ ก่อนออกจากบ้านไปในชุดเพื่อนเจ้าสาว โดยที่แขกในงานไม่ทันสังเกตเห็น
เธอนึกว่าเขาจะมารับด้วยตนเอง แต่กลับมีเพียงรถหรูจอดรออยู่ไม่ห่างจากบ้านมากนัก พร้อมกับคนขับที่บอกว่ารับคำสั่งให้พาตัวเธอไปยังบ้านของเจ้านาย
ผู้ชายที่เธอรักคงรออยู่ที่นั่น…
“คุณปราชญ์คะ?”
รสรินทร์เรียกอย่างไม่มั่นใจเมื่อก้าวเข้าไปในตัวบ้าน เขาเคยพูดว่ามีบ้านหลังเล็กอยู่ชานเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นของบิดา แต่เลือกพักในคอนโดมิเนียมย่านทองหล่อเวลามาทำธุระที่ประเทศไทย เพราะอยู่ใกล้ย่านธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยว นี่คือครั้งแรกที่เธอได้มาบ้านของเขาและพบว่ามันไม่ได้เล็กอย่างที่เข้าใจ
“รินทร์ คุณมาแล้วเหรอ”
เสียงแหบพร่าดังมาจากโซฟาตัวยาว รสรินทร์มองเจ้าของร่างสูงที่ค่อยๆ หยัดตัวขึ้นนั่ง ตอนรับสายน้ำเสียงของเขาฟังดูไม่ดี แต่พอเจอตัวจริงค่อยเห็นชัดว่าอาการหนักกว่าที่คิด
เขาไม่สบาย…
“คุณปราชญ์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“เป็น…” เขานั่งเอนหลังพิงโซฟา มองเธอด้วยสายตาที่ทำให้รู้สึกร้อนรุ่ม… ในทางที่แย่
“ปวดหัวหรือตัวร้อนคะ ให้รินทร์ช่วยไหม” เธอรีบเดินไปใกล้ๆ อยากรู้ว่าต้องกินยาหรือว่าเช็ดตัวด้วยอาการของเขาจึงจะดีขึ้น นึกไม่ถึงว่าจะถูกปัดมือแรงๆ ก่อนได้ฟังประโยคที่ทำให้เจ็บไปทั้งหัวใจ
“ไม่ต้องช่วย ไอ้อาการปวดหัวที่ผมเป็นอยู่ก็เพราะคุณหนีไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ทั้งๆ ที่ในท้องมีลูกของผมยังไงล่ะรินทร์”
“คุณปราชญ์...”
ปราชญ์ ทิวานันท์ มองหญิงสาวที่เขาเคยผูกสัมพันธ์ด้วยนานสิบเดือน ในช่วงที่แวะมาดูแลโปรเจกต์ในประเทศไทย สายตาบอกชัดว่ากำลังอารมณ์เสียอย่างไม่ปิดบัง
ใครจะรู้ว่าเผลอไผลแค่คืนเดียวเมื่อเดือนก่อนจะทำให้เขาถูกผูกมัด กลายเป็นคุณพ่อโดยไม่ทันตั้งตัว เพิ่งทราบเรื่องจากเพื่อนสนิทก็เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเสร็จธุระที่ยุโรป เขาจึงรีบบินกลับไทยเพื่อแก้ไขปัญหาทันที
“ผมรู้หมดแล้วว่าคุณวางแผนจับนายเอื้อทั้งๆ ที่ท้องกับผม คุณรินทร์ ผมรู้นะว่าคุณไม่เหมือนเดิมแล้ว แต่ร้ายถึงขั้นมอมเหล้าคนอื่นให้มารับผิดชอบลูกในท้องเนี่ย ผมคาดไม่ถึงจริงๆ”
“รินทร์ไม่เข้าใจ เมื่อกี้คุณปราชญ์ โทร.หารินทร์ บอกว่ารักรินทร์…” รสรินทร์ไม่เข้าใจ ชั่วโมงก่อนเขายังออดอ้อนขอให้เธอทิ้งงานแต่งมาหา แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้…
“ที่ผมพูดออกไปแบบนั้นก็เพราะต้องการให้คุณหนีงานแต่ง ไม่อย่างงั้นนายเอื้อต้องเทโปรเจกต์ที่วางแผนทำร่วมกันแน่ๆ รินทร์ คุณก็รู้ว่าเรื่องระหว่างเรามันแทบเป็นไปไม่ได้ ผมบอกคุณตั้งแต่แรกแล้วว่าผมต้องการแค่ ฮอลิเดย์ เกิร์ลเฟรนด์ แต่ตอนนี้...”
“คุณปราชญ์!” รสรินทร์ฟาดมือลงบนแก้มของผู้ชายที่เธอรักดังเผียะอย่างไม่ลังเล ทั้งยังไม่รู้สึกผิดเหมือนเมื่อครั้งที่ทำกับน้องสาวต่างมารดาเลยสักนิด
เขากล้าดีอย่างไรมาเรียกเธอด้วยคำคำนั้น ถึงในอดีตมันจะเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันจบไปแล้ว ต่อให้เกิดเรื่องเมื่อเดือนก่อน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม มันไม่มีเศษซากแห่งความสุขหลงเหลืออยู่ในนั้นอีกแล้ว
“อยากตบผมก็ตบเถอะ แต่คุณลองคิดให้ดีนะว่าถ้าคุณไม่ด่วนตัดสินใจเอง รอให้ผมกลับมา ผมก็คงไม่ต้อง… พูดออกไปแบบนั้น”
“แล้วรินทร์จะรู้ไหมล่ะคะว่าคุณจะกลับมา! คราวก่อนคุณหายไปตั้งปีกว่า ข้อความก็ไม่ตอบ ปล่อยให้รินทร์รอแบบไร้ความหวัง คุณกลับมารินทร์ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันหมายความว่ายังไง แต่ตอนนี้รินทร์รู้แค่ว่าอยากให้ลูกมีพ่อ รินทร์ทำผิดมากเหรอคะ!”
