บทย่อ
“เก็บแหวนวงนี้ไว้ขอสาวแต่งงานนะ บลู” “ครับ ท่านชีค” เมื่อยี่สิบปีก่อน ‘ภูมินิท’ ได้รับแหวนวงหนึ่งจากท่านชีคดาจิม และเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินก็ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด เขาใช้แหวนวงนี้หมั้นกับเจ้าหญิงตัวน้อยๆ ที่เป็นธิดาของท่านชีคดาจิมนั่นเอง!
บทนำ
ตึกสูงระฟ้าซึ่งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ในย่านธุรกิจ เป็นที่ตั้งของบริษัทในเครือเอิร์สคามอนกรุ๊ปสาขาประเทศไทย ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา
บริษัทเอิร์สคามอนกรุ๊ป มีธุรกิจในเครือมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจน้ำมัน การบริหารงานทั้ง
หมดอยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของ ‘โดมินิท เอิร์สคามอน’ หนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกัน
ทว่า...ในตอนนี้โดมินิทได้วางมือจากการบริหารงานและปล่อยให้ลูกชายเพียงคนเดียวได้ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารงาน ดูแลธุรกิจทั้งหมดของตระกูลเอิร์สคามอน‘ภูมินิท เอิร์สคามอน’ นักธุรกิจหนุ่มเลือดใหม่ไฟแรง จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากเข้าไปเรียน ทว่า...ใช่ว่าจะเข้าไปเรียนได้ง่ายๆ ถ้าหากไม่เก่งจริง
ทันทีที่จบการศึกษาเดินทางกลับประเทศไทย ภูมินิทก็เข้ากุมบังเหียนบริหารงานในบริษัททันที เพื่อให้บิดาและมารดาได้พักผ่อนด้วยการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกตามที่ท่านทั้งสองต้องการ ในเช้าของวันนี้ ภูมินิทกำลังเคร่งเครียดอยู่กับการอ่านข้อเสนอของลูกค้าชาวรัสเซีย ที่เสนอตัวของทำธุรกิจร่วมกับบริษัทในเครือของเขา จนกระทั่งไม่ได้สนใจเหลือบสายตาขึ้นมองไปยังประตูห้องทำงาน ซึ่งถูกเปิดออกโดยใครคนหนึ่ง ก่อนจะก้าวเท้ายาวๆ เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา การ์ดแต่งงานหรูหราราคาแพง ถูกยื่นมาตรงหน้า และนั่นเรียกร้องความสนใจให้ภูมินิทได้เหลือบสายตามอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยื่นการ์ดแต่งงานมาให้เขา และก็ต้องเบิกตาโตเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่กำลังตีสีหน้าติดบึ้งตึงให้กับเขาอยู่
“แม่หมู!”
ภูมินิทเรียกเสียงดังด้วยความดีใจ ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไปก็ยังเรียกมารดาด้วยคำนี้เช่นเดิม ดั่งที่เคยเรียกสมัยเด็กๆ จากนั้นก็ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินอ้อมโต๊ะทำงานมาสวมกอดร่างเล็กของมารดาไว้แน่น โดยไม่ลืมเอ่ยถามท่านด้วย
“แม่หมูกลับมาจากทัวร์ทวีปแอฟริกาตั้งแต่เมื่อไรครับ”
ปรีชยาพรกอดตอบลูกชายให้หายคิดถึง ก่อนจะเอ่ยตอบคำถามของลูกชาย
“พ่อกับแม่กลับมาถึงประเทศไทยเมื่อเช้า ลงจากเครื่องบินแล้วก็ตรงดิ่งมาหาบลูเลย”
ภูมินิท หรือที่มารดาเรียกด้วยชื่อเล่นว่า ‘บลู’ เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความแปลกใจ มีเรื่องด่วนอะไร ถึงทำให้บิดามารดาของเขาต้องยกเลิกการท่องโลกอย่างกะทันหัน
“ทำไมแม่หมูกับพ่อบลูถึงได้กลับมาก่อนกำหนดละครับ แล้วพ่อบลูอยู่ไหนครับ”
“พ่อบลูกำลังคุยกับผู้จัดการ เดี๋ยวก็ตามมาจ้ะ”
“แล้วมีเรื่องด่วนอะไรหรือครับ แม่หมูถึงได้กลับบ้านด่วน แถมยังตรงดิ่งมาหาบลูก่อนด้วย” ภูมินิทถามซ้ำอีกครั้ง เมื่อยังไม่ได้รับคำตอบให้คลายความสงสัย
และผู้เป็นมารดาก็ยื่นการ์ดแต่งงานสวยหรูให้ลูกชายได้หลุบสายตาลงมอง
“นี่ยังไงละ สาเหตุสำคัญที่ทำให้แม่หมูกับพ่อบลูต้องยกเลิกทริปท่องโลก แล้วกลับบ้านเป็นการด่วน”
“การ์ดแต่งงาน” ภูมินิทพูดลอยๆ ก่อนจะเอ่ยแซวมารดาติดกลั้วเสียงหัวเราะ
“ถ้าไม่ใช่เจ้าบ่าว ก็ต้องเป็นเจ้าสาวแน่ๆ ที่เป็นคนสำคัญมากๆ จนทำให้แม่หมูกับพ่อบลูต้องยกเลิกการท่องรอบโลกในครั้งนี้”
“ได้เห็นชื่อเจ้าสาวแล้วจะหัวเราะไม่ลงแน่ เจ้าบลู!”
คราวนี้เป็นเสียงของบิดาที่เอ่ยเยาะเย้ยก่อนจะเดินมาถึงตัวลูกชาย โดมินิท เอิร์สคามอน หรือที่ใครๆ ก็เรียกว่าพ่อบลู เดินมาถึงหน้าห้องทำงานและได้ยินคำพูดของลูกชายสุดหล่อเข้าพอดี จึงได้เยาะเย้ยลูกชายเช่นนั้น
ก็ไม่ใช่เพราะการ์ดแต่งงานใบนี้ใบเดียวหรอกหรือ ที่ทำให้เขากับภรรยาคู่ชีวิตต้องยกเลิกทริปและกลับประเทศไทยเป็นการด่วน
ภูมินิทยังไม่เอะใจกับคำเยาะของบิดา เพราะมัวแต่ดีใจที่เห็นท่าน และเข้าไปทักทายด้วยการกำหมัดชนกัน ก่อนจะสวมกอดบิดาไว้แน่น พอผละออกจากบิดาแล้ว ก็เอ่ยถามท่านด้วยความสงสัยว่า
“ใครแต่งงานหรือครับ ทำไมแลดูสำคัญมากๆ จนทำให้พ่อบลูและแม่หมูถึงกับนั่งไม่ติดเลยทีเดียว”
โดมินิทในวัยหกสิบปี ยังคงความหล่อเหลาคมเข้มไม่มีเปลี่ยน ได้พยักพเยิดให้ลูกชายหยิบการ์ดจากมือของมารดาไปดู
“ดูชื่อเจ้าสาวเอาเองเถอะ เจ้าบลู” เอ่ยบอกลูกชายไปแล้ว โดมินิทก็หันไปพูดกับภรรยาสุดที่รักบ้าง
“น้องหมูไปนั่งเถอะครับ เดี๋ยวเรารอดูราชสีห์แหกปากตะโกนลั่น”
“ค่ะ พี่บลู หมูก็คิดว่าต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ”
แม้อายุจะล่วงเข้าวัยชราด้วยกันทั้งคู่แล้ว แต่สามีภรรยาคู่นี้ก็ยังทอดมองกันและกันด้วยแววแห่งรักไม่มีเปลี่ยน
เมื่อบิดามารดาไม่ยอมบอกว่าใครจะแต่งงาน ภูมินิทก็หยิบการ์ดหรูออกมาจากซองสีทอง ค่อยๆ เปิดดูชื่อของเจ้าบ่าว-เจ้าสาว
และทันทีที่ดวงตาสีน้ำเงินมองปะทะกับชื่อของเจ้าสาว ซึ่งพิมพ์ด้วยตัวอักษรสีทองหรูหราสมกับฐานะ ก็เบิกตาโตด้วยความตกใจ
“เจ้าหญิงอลิยา ราชิต”
ภูมินิทอ่านชื่อของเจ้าสาวที่พิมพ์อยู่บนการ์ด จากนั้นก็ร้องเสียงดังเหมือนที่บิดามารดาคาดเดาไว้ไม่มีผิด
“เจ้าหญิงอลิยาจะแต่งงาน!”
ต้องใช้เวลาเกือบนาที ภูมินิทจึงเรียกสติกลับคืนมาได้ ร่างสูงใหญ่เดินตรงดิ่งไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับบิดามารดา พลางเอ่ยถามเสียงร้อนรนว่า
“พ่อบลู แม่หมูล้อผมเล่นหรือเปล่าครับ”
“ล้อเล่นเรื่องอะไร เจ้าบลู”
โดมินิทเอ่ยถามกลับคืน จ้องมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยความหมั่นไส้
“ก็เรื่องที่เจ้าหญิงอลิยาจะแต่งงานยังไงละครับ”
“ใครเขาล้อเล่นกัน”
ปรีชยาพรต่อว่าลูกบ้าง พลางตอกย้ำว่าทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง
“เจ้าหญิงอลิยาจะแต่งงานจริงๆ จ้ะ”
“ใครเอาการ์ดแต่งงานไปให้หรือครับ แล้วทำไมผมถึงไม่รู้เรื่องนี้เลย”
“ก็จะใครซะอีก ถ้าไม่ใช่องครักษ์คนสนิทของชีคดาจิม”
ผู้เป็นพ่อหมายถึง ชีคดาจิม ราชิต ท่านชีคผู้ปกครองแคว้นคานาร์ในดินแดนทะเลทราย ซึ่งเป็นเพื่อนรักของท่านเอง
ภูมินิทยังไม่คลายความสงสัย ขมวดคิ้วเข้าหากัน เกิดคำถามวิ่งวนอยู่ทั่วหัว
“พ่อบลูหมายถึงท่านชีคดาจิม ให้องครักษ์นำการ์ดแต่งงานมาให้พ่อบลูในทันทีที่บินมาถึงประเทศไทยหรือครับ”
“เปล่าจ๊ะ”
ผู้เป็นมารดาปฏิเสธแทน อมยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยตอบให้ลูกชายต้องอ้าปากค้าง