บทที่ 3
ปาลิตามัวแต่เสียเวลากับการจ่ายค่าแท็กซี่ และช่วยลำเลียงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หลายใบลงจากรถแท็กซี่ พอหันมามองข้างๆ ตัวอีกที ก็ไม่เห็นหลานสาวแล้ว
“เอมมี่ หายไปไหนนะ”
ปาลิตาเอ่ยกับตนเอง เป็นห่วงหลานสาวก็เป็นห่วง แต่ครั้นจะทิ้งกระเป๋าเดินทางที่ยังอยู่ในรถแท็กซี่อีกหลายใบ เพื่อไปตามหาหลานสาวก็ไม่ได้
“ผมเห็นเธอวิ่งเข้าไปในตึกแล้วครับคุณผู้หญิง” แท็กซี่เอ่ยบอก ขณะยกกระเป๋าใบสุดท้ายมาวางไว้ใกล้ๆ กับปาลิตา
“ขอบคุณมากนะคะ”
ปาลิตาหยิบธนบัตรจ่ายค่าแท็กซี่ จากนั้นก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ รปภ. ของตึกแห่งนี้ เพื่อขอให้อีกฝ่ายช่วยดูแลกระเป๋าเดินทางให้ โดยไม่ลืมมอบเงินเล็กๆ น้อยๆ เป็นสินน้ำใจให้กับอีกฝ่ายด้วย
พอเข้ามาในอาคารสูงใหญ่ มีป้ายชื่อสีทองว่า ซี คลาร์ก เด่นหราอยู่หน้าอาคารแล้ว ปาลิตาก็ตรงไปยังชั้น ซึ่งเป็นที่ทำงานของบุคคลที่เธอและเอมมี่ต้องการมาพบในครั้งนี้
เมื่อถามหาหลานสาวกับพนักงานของบริษัทแห่งนี้แล้ว หญิงสาวก็รู้ว่าเอมมี่อยู่ในห้องประชุม ซึ่งพนักงานเหล่านี้ต่างก็ใจดี พาเธอมาส่งถึงหน้าห้องทำงานด้วย
“ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวฉันเข้าไปหาเอมมี่เองค่ะ”
ปาลิตาบอกกับพนักงานชายคนหนึ่ง ที่มีน้ำใจพาเธอมาส่งถึงที่ และเมื่อเปิดประตูห้องประชุมออกกว้าง ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของหลานสาวดังมากระทบโสตประสาทในทันที
“เอมมี่!”
“ป้าไข่”
เอมมี่หันไปตามน้ำเสียง จากนั้นก็วิ่งเข้าไปกอดปาลิตาไว้แน่น ร้องไห้สะอึกสะอื้นบอกผู้เป็นป้า ตามที่มาร์คัสบอกกับตนเองในก่อนหน้านี้
“ป้าไข่คะ...แด๊ดดี้...บอก...บอกว่า ไม่ใช่แด๊ดดี้ของเอมมี่”
ปาลิตากอดร่างเล็กของหลานสาวซึ่งร้องไห้จนตัวสั่นโยนไว้ ใบหน้างามเงยขึ้นจ้องมองเขม็งไปยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะเค้นเสียงด่าอีกฝ่าย
“ผ่านไปเก้าปีแล้ว ไม่นึกเลยว่าผู้ชายที่ชื่อลูร์คัส ยังเห็นแก่ตัวเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน”
มาร์คัสกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง หลังจากตะลึงงันในความงดงามของหญิงสาวผู้นี้ไปนานหลายนาที และชื่อที่หญิงสาวเอ่ยเรียกในก่อนหน้านี้ ทำให้เขาต้องทวนคำ ถามเธอซ้ำอีกครั้ง
“เมื่อสักครู่คุณเรียกผมว่าลูร์คัสยังงั้นหรือ”
“ใช่! ฉันเรียกคุณว่าลูร์คัส เพราะมันเป็นชื่อของผู้ชายที่เห็นแก่ตัว ไข่ทิ้งไว้แล้วไม่รับผิดชอบต่อชีวิตของผู้หญิงสองคน”
มาร์คัสเริ่มหน้าตึง เมื่อถูกด่าซ้ำอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เขาไม่ใช่คนผิดแม้แต่นิดเดียว
“คุณชื่ออะไร ป้าไข่”
คำถามของมาร์คัสสร้างความโกรธเคืองให้กับปาลิตาเป็นอย่างมาก ไม่นึกว่าชายผู้นี้จะเป็นคนที่ลืมอะไรได้ง่ายดายถึงเพียงนี้
“เวลาแค่เก้าปี มันทำให้สมองของคุณฝ่อได้ถึงเพียงนี้เลยหรือคะ” ปาลิตาเหน็บแนมเสียงแข็ง แทนการตอบคำถามของอีกฝ่าย
และผลตอบแทนจากการเหน็บแนม หลอกด่าหลายครั้งด้วยกัน จึงถูกมาร์คัสตอบแทนด้วยการกระชากร่างบางให้ปลิวมาปะทะกับอกกว้างแข็งแกร่ง ก่อนเจ้าของมือใหญ่จะเค้นเสียงตอบอย่างห้วนจัด
“ผมไม่ได้สมองฝ่อ และไม่เคยรู้จักพวกคุณ ได้ยินไหม”
“ไม่รู้จักแม้กระทั่ง ปารุดา คนรักของคุณ ที่คุณเคยควงเธอออกหน้าออกตาอยู่หลายเดือน จนกระทั่งมีเอมมี่เกิดขึ้นมายังงั้นหรือคะ”
ยิ่งถูกคนตรงหน้าเอ่ยถามแกมถากถาง ยิ่งทำให้มาร์คัสโกรธจัดมากกว่าเดิม
“ปารุดาคือใคร ผมไม่รู้จัก”
ปาลิตาถึงกับกัดเม้มริมฝีปากแน่น อยากให้น้องสาวของเธอมาได้ยินคำพูดของผู้ชายที่เคยเทิดทูนบูชาเหลือเกินว่าอีกฝ่ายได้พูดถึงเธออย่างไม่แยแส
“คุณจำผู้หญิงที่คุณพาขึ้นเตียงไม่ได้เลยหรือคะ ลูร์คัส!”
เมื่ออีกฝ่ายย้ำถึงชื่อเดิม ซึ่งไม่ใช่ชื่อของตนเอง มาร์คัสจึงเน้นย้ำชัดๆ ให้หญิงสาวได้ยิน
“ผมชื่อ มาร์คัส คลาร์ก ไม่ใช่ลูร์คัส ได้ยินชัดไหมสาวน้อย”
คราวนี้มาร์คัสโอบแขนไปรอบเอวบางคอดกิ่ว ดึงร่างบางให้แนบชิดกับเรือนกายของตนเองให้มากยิ่งขึ้น และพอได้กลิ่นหอมรวยระรินจากกายสาว จู่ๆ เลือดในกายของเขาก็แล่นพล่านเริ่มอุ่นขึ้นมาในทันที จนแม้กระทั่งตัวเขาเองยังงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น
ปาลิตายกมือเล็กทั้งสองยันอกกว้างไว้ ไม่ให้เรือนกายของตนเองแนบชิดไปแผงอกของอีกฝ่าย ใบหน้างามเต็มไปด้วยความโกรธจัด ที่อีกฝ่ายไม่ยอมรับในการกระทำอันไร้ซึ่งความรับผิดชอบของเขา
“ต่อให้คุณเปลี่ยนชื่อมาเป็นมาร์คัส แต่ความชั่วของคุณก็ยังอยู่เหมือนเดิม คุณลองหันไปมองหน้าเอมมี่สิ ลองดูให้ชัดๆ ว่าเอมมี่เหมือนใคร”
มาร์คัสทำตามคำสั่งของปาลิตาอย่างรวดเร็ว คราวนี้เขาตั้งใจมองใบหน้าเล็กๆ ของหนูน้อยที่จ้องมองเขาเขม็งเช่นเดียวกัน แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเอมมี่
แน่นอน! เอมมี่มีใบหน้าพิมพ์เดียวกับเขา ไม่ว่าจะเป็นสีผม ปาก จมูก เรียกได้ว่าเหมือนกันราวกับโขกออกมาจากพิมพ์เดียวกัน ทว่า...มีสิ่งเดียวที่เอมมี่ไม่เหมือนกับเขาเลย คือสีดวงตา!
“เอมมี่อายุเท่าไร”
มาร์คัสถามเสียงแข็ง ขณะเดียวกันยังคงจับยึดร่างบางของปาลิตาไว้แน่น ชักจะชอบใจกับการซักประวัติของเอมมี่ โดยมีร่างนุ่มๆ หอมละมุนให้ประคองกอดในตลอด
เวลา
“แปดขวบ”
ปาลิตาตอบห้วนๆ พยายามช่วยเหลือตัวเอง เพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนอันแข็งแกร่ง ที่ทำให้เธอร้อนวูบวาบได้ในทุกนาที
“แล้วคุณล่ะป้าไข่ อายุเท่าไรแล้ว”
คราวนี้มาร์คัสแสร้งเรียกชื่อของหญิงสาว ตามที่เอมมี่เรียกในก่อนหน้านี้ พอเห็นอีกฝ่ายขึงตาเขียวปั้ดใส่ ก็กลั้นหัวเราะด้วยความขบขำ
“มายุ่งอะไรกับอายุของฉัน” ปาลิตาตวาดกลับ ก่อนจะออกคำสั่งกับมาร์คัสบ้าง “คุณจะต้องรับผิดชอบเอมมี่ รับเอมมี่เป็นลูกของคุณ”
“จะให้ผมรับผิดชอบง่ายๆ ได้ยังไง ป้าไข่! ผมยังไม่รู้เลยว่าเอมมี่เป็นลูกของผมจริงหรือเปล่า บางที...น้องสาวของคุณอาจจะไปมั่วกับผู้ชายคนอื่นแล้วท้องขึ้นมาก็ได้”