บท
ตั้งค่า

7.แผนล้มเหลว

EP7.แผนล้มเหลว

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

ภายหลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเสร็จ คริสเตียนก็เดินขึ้นมาส่งมารีน่าเอาไว้บนห้องนอนของเขา ที่เขาไม่เคยยอมให้ใครหน้าไหนเข้ามาได้ง่ายๆ พร้อมกับกำชับแกมขู่เธอเอาไว้ว่าให้ทำตัวดีๆ หากเธอคิดจะทำอะไรแผลงๆอีกรอบ เขาจะรีบกลับมาจัดการเธอแน่

แต่มีหรือว่าคนอย่างมารีน่าจะฟังเขา คนที่ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆแบบเธอนั้นคิดหาทางออกอยู่ตลอดเวลาว่าเธอควรจะทำยังไงต่อไป เธอจะไม่ยอมอยู่เป็นนางบำเรอของเขาไปตลอดหรอกนะ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะยอมปล่อยเธอไป ดังนั้นทุกครั้งที่มีโอกาส มารีน่าจะไม่ยอมอยู่เฉยๆเด็ดขาด ถึงจะลองทำแล้วไม่สำเร็จ มันก็ดีกว่าเธอไม่ยอมทำอะไรเลย

ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

มารีน่าเคาะประตูออกไปจากด้านในห้อง หวังให้คนที่เฝ้าเธออยู่ด้านนอกได้ยินเสียง ก็เขาเป็นคนบอกเธอเองว่าถ้าอยากได้อะไรให้เคาะเรียกลูกน้องของเขาได้เลย และตอนนี้มารีน่าก็คิดออกแล้ว ว่าเธอจะหนีออกไปจากที่นี่ได้ยังไง

“อยากได้อะไรครับคุณมารีน่า”

ชาลีเปิดประตูเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะ วันนี้เขาไม่ได้ตามเจ้านายออกไปด้วย เพราะได้รับคำสั่งให้อยู่เฝ้าเธอที่นี่

“ช่วยไปตามทีน่าให้หน่อยสิ”

นี่แหละหนทางเดียวที่มารีน่าพอจะมองเห็น เธอรู้ว่านางบำเรอของคริสเตียนไม่ชอบขี้หน้าเธออย่างแรง มันก็พอจะเข้าใจอยู่หรอก เพราะเขาเล่นไม่สนใจทีน่าเลย หันมาสนใจแต่เธอคนเดียว หากยัยนั่นชอบเธอก็คงจะแปลกเกินคน

ทำไมมารีน่าจะได้ไม่รู้ว่าทีน่ากำลังคิดอะไร เธอเห็นช่องทางนี้ก็เลยคิดจะใช้มันให้เกิดประโยชน์ ด้วยความที่มารีน่าเป็นคนฉลาด เธอจึงต้องการให้ศัตรูที่เกลียดขี้หน้าเธอมาช่วยเธอหนีออกไปจากที่นี่ เพราะทีน่าเองก็คงจะดีใจไม่น้อยถ้าได้กำจัดเธอออกไปสมใจ

“ให้ผมตามทีน่ามาทำไม?”

ชาลีขมวดคิ้ว เขาเห็นว่ายายนั่นไม่ชอบมารีน่าเลยสักนิด แล้วมารีน่าจะอยากพบกับคนที่ไม่ชอบตัวเองไปทำไมกัน

“เอ่อ คือ…ฉันมีเรื่องของผู้หญิ้งผู้หญิงจะถามทีน่าอะ ถ้าฉันคุยกับนายคงไม่รู้เรื่องเท่าคุยกับผู้หญิงด้วยกันหรอก ว่ามั้ยล่ะ”

มารีน่าเล่นละครได้ดีมากจนชาลีไม่สามารถจับพิรุธใดๆได้เลย

สิบนาทีต่อมา

“เรียกฉันมาทำไมไม่ทราบ?”

เมื่อเข้ามาถึงในห้องที่ตัวเองแทบจะไม่เคยเข้ามา เลย ทีน่าก็จีบปากจีบคอพูดพร้อมกับกอดอกยกหน้าเชิดขึ้นตามสไตล์ของเธอ

มารีน่ามองภาพนั้นแล้วแอบหมั่นไส้อยู่ไม่น้อย ถ้าหากไม่มีธุระจำเป็น คิดว่าเธออยากจะคุยนางหรือยังไงกัน คนอะไรหยิ่งเป็นบ้า!

“ฉันมีเรื่องอยากขอให้เธอช่วย”

หญิงสาวไม่คิดจะรีรอ เธอมีเวลาไม่มากนัก เพราะไม่รู้คริสเตียนจะกลับมาตอนไหนและที่สำคัญเธอคิดว่าคงจะทนเห็นหน้าแม่นางคนนี้ได้ไม่นานเท่าไหร่ เพราะมารีน่าเองก็ไม่ได้ชอบขี้หน้าของทีน่าเหมือนกัน!

“เรื่องอะไรของหล่อน”

ทีน่ามองมารีน่าด้วยสายตาไม่เข้าใจและไม่เป็นมิตรเอามากๆ

“เธออยากกำจัดฉันให้ออกไปจากที่นี่ใช่มั้ย งั้นเธอก็ช่วยฉันสิ”

ทีน่านิ่งงัน เธอหรี่ตาลงเพื่อครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ในเมื่อมารีน่าเสนอมาแบบนี้มีหรือเธอจะไม่ช่วย ในเมื่อเธอเองก็อยากนอนกอดคริสเตียนจะแย่อยู่แล้ว ถ้าไม่มีมารีน่าอยู่ที่นี่สักคน หน้าที่นั้นคงตกเป็นของเธอ

“แล้วจะให้ฉันช่วยยังไง?”

นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ทีน่ายอมพูดดีๆกับคนตรงหน้า

“ขอยืมโทรศัพท์เธอหน่อยสิ ฉันจะอีเมลไปหาพี่ชายให้มาช่วยฉันที่นี่”

ถึงแม้จะไม่อยากให้ครอบครัวรับรู้แต่มารีน่าก็มองไม่เห็นทางออกที่มันดีกว่านี้แล้ว เธอตัดสินใจจะเขียนอีเมลไปหาพี่ชายคนโตนั่นก็คือ’มาติเนส มัส’ มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลในประเทศไทย เพราะอยู่กันคนละประเทศ การติดต่อสื่อสารจึงดูเป็นเรื่องยาก ยิ่งเธอโดนเขายึดโทรศัพท์ ยิ่งทำอะไรยากไปอีก ซึ่งมารีน่าก็พอจะจำชื่ออีเมลของพี่ชายได้บ้าง วิธีนี้คงเป็นวิธีที่เร็วที่สุดแล้ว

“ก็ได้ หวังว่าพี่ชายเธอจะมาช่วยเธอออกไปได้นะ!”

ถึงจะยอมยื่นโทรศัพท์ที่เคยโดนขโมยไปให้มารีน่าแต่โดยดี แต่ทีน่าก็ไม่ลืมที่จะแยกเขี้ยวใส่หล่อนก่อน

“ขอบใจนะ”

มารีน่าเอ่ยออกไปก่อนจะรีบส่งอีเมลไปหามาติเนส ด้วยความหวังของเธอ เธอหวังว่าพี่ชายจะรับรู้และตามมาช่วยเธอออกไปจากเกาะนรกนี่ให้ไวที่สุด!

พระเจ้าได้โปรดเมตตาเธอด้วย….

เพียงไม่นานหลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อย มารีน่าก็เดินออกมาส่งทีน่าที่ประตูห้อง เพื่อต้องการไม่ให้ชาลีสงสัยในสิ่งที่เธอกำลังทำ และทำให้ดูเหมือนว่าเธอสองคนคุยกันในเรื่องของผู้หญิงๆจริงๆ

“ขอบใจมากนะทีน่า ฉันดีขึ้นมากแล้วล่ะ”

มารีน่าแสร้งเอ่ยขึ้นไปงั้นแหละ

“ไม่เป็นไร เธอก็นอนพักผ่อนได้แล้ว”

ชาลีรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่เห็นว่าทั้งสองสาวพูดจากันดีๆราวกับว่าไม่เคยเกลียดกันมาก่อน แถมทีน่านั้นดูเหมือนจะอารมณ์ดีเอามากๆอีกด้วยหลังจากที่เดินออกมา

“ฉันว่าเธอดูแปลกไปนะ?”

“ทำไม? แค่ฉันยิ้มก็ดูแปลกแล้วงั้นหรอ นายนี่มันประสาทจริงๆ”

ทีน่าหุบยิ้มก่อนจะหันไปตวาดชาลีแล้วก็ยกหน้าเชิดเดินลงบันไดไปเลย

“ใครกันแน่ที่ประสาท! ยัยบ้าเอ้ย!”

เขาว่าเธอออกไปตามหลังก่อนจะนั่งลงเฝ้ามารีน่าบริเวณหน้าห้องตามเดิม

อีกด้านของคนที่อยู่ในเมือง

คริสเตียนนั่งรอบุคคลสำคัญที่เขานัดมาเจรจาเรื่องธุรกิจอยู่ภายในร้านอาหารชื่อดังห้องVVVIPด้วยสีหน้าเรียบนิ่งตามสไตล์ของเขา อาชีพของคริสเตียนคือคนกลางในการค้าขายอาวุธให้แก่มาเฟียทั่วโลก หากใครที่ต้องการอาวุธชั้นดีและราคาดีงามคุ้มค่า เขาก็พร้อมที่จะส่งออกอาวุธพวกนั้นไปให้ทุกคน และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่เขาที่ทำอาชีพเช่นนี้ มีมาเฟียอีกหลายตระกูลที่ทำ แต่เนื่องจากเมื่อวานโกดังของเขาถูกลอบวางระเบิด คริสเตียนจึงจำเป็นต้องหาสินค้าล็อตใหม่เข้ามาแทนที่ล็อตเก่าที่เสียหาย

ซึ่งคู่ค้าคนใหม่ที่เขานัดมาเจรจาวันนี้คือ’จิมมี่ มาแชล’ มาเฟียฝั่งประเทศไทยที่มีข้อมูลน่าสนใจ ทำให้เขาอยากตกลงซื้อขายด้วย จึงเป็นที่มาของการนัดคุยงานในวันนี้

“สวัสดีครับคุณคริสเตียน”

เพียงไม่นานจิมมี่ก็เปิดประตูเข้ามา เนื่องจากเขาบินมาจากออสเตรเลียโดยตรง วันนี้จึงเดินทางมานี่นี้เลทสักหน่อย

“สวัสดีครับคุณจิมมี่ เชิญนั่งก่อน”

“ขอบคุณครับ”

จิมมี่ยิ้มตอบก่อนจะนั่งลงพร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบตามมารยาท

“ผมอยากได้ของเเบบเร็วที่สุด พวกคุณมีของมากแค่ไหน”

คริสเตียนไม่ปล่อยเวลาให้เสียอยู่นาน เพราะเขาเอาแต่นั่งคิดถึงร่างกายนุ่มนิ่มของมารีน่าที่เขานอนกกกอดมาทั้งคืน และอีกอย่างเขาไม่ไว้ใจจะปล่อยให้เธออยู่คนเดียวนานๆ เพราะความแสบของมารีน่ามีมากกว่าที่เขาคิด

“ผมเกรงว่าจากจำนวนของที่คุณต้องการพวกผมน่าจะมีไม่พอ แต่ถ้าคุณคริสอยากได้จริงๆผมจะหาเพิ่มให้ เพราะพวกผมก็พอจะรู้จักมาเฟียอีกตระกูล แต่เขาค่อนข้างหาตัวจับยาก แต่ก็คงไม่เกินความสามารถของเพื่อนผมหรอกครับ”

จิมมี่หมายถึงมาเฟียตระกูลมัส ที่ค่อนข้างจะโด่งดังมากๆไม่แพ้พวกเขา แต่รายนั้นหัวหน้าแก๊งค์อย่างมาติเนสค่อนข้างหาตัวจับยาก แต่รับรองว่าสินค้าของฝั่งนั้นก็ดีมากๆไม่แพ้ของพวกเขาเลย

“ถ้าคุณหามาให้ผมได้ ผมจะให้ราคาอย่างงาม”

“ผมรับประกันคุณจะได้ของดีแน่นอนครับ”

ชายทั้งสองนั่งคุยกันต่ออีกพอประมาณ หลังจากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับ ทันทีที่ขึ้นมาบนรถคันหรู คริสเตียนก็รีบสั่งให้ลูกน้องพาเขากลับเกาะส่วนตัวทันที

ในระหว่างทางขึ้นรถ

เสียงโทรศัพท์ของมารีน่าที่คริสเตียนหยิบออกมาจากคฤหาสน์ด้วยดังขึ้นมาเพราะมีสายเข้า ชายหนุ่มจึงหยิบมันขึ้นมาดูแล้วเขาก็พบว่ามีใครบางคนโทรเข้ามาหาเธอจริงๆ ‘My first bro’ คริสเตียนอ่านชื่อนั้นด้วยความแปลกใจ ‘พี่ชายคนแรก?’ งั้นหรอ เมื่อนึกขึ้นได้เขาเองก็ยังไม่ได้รับประวัติของมารีน่าที่สั่งให้ชาลีไปตามสืบเลย ไม่รู้ว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เอาไว้ค่อยถามทีหลังก็แล้วกัน

ชายหนุ่มปล่อยให้เสียงโทรศัพท์ของเธอดับลง เขาเลือกที่จะไม่รับสาย แต่ทว่าเสียงข้อความที่ดังขึ้นอีกครั้งทำให้มาเฟียหนุ่มจำต้องหยิบมันขึ้นมาเปิดดู

มาติเนส:‘รีน่าน้องเป็นยังไงบ้าง สบายดีใช่ไหม? พี่ได้รับอีเมลแปลกๆ จากใครก็ไม่รู้บอกว่าน้องโดนลักพาตัวไปที่เกาะ ถ้าน้องไม่ตอบกลับผ่านข้อความนี้พี่จะรีบตามไปช่วย แต่หากน้องสบายดีช่วยบอกให้พี่สบายใจหน่อยนะ ว่าน้องไม่เป็นอะไร’

คริสเตียนรู้สึกตะหงิดใจขึ้นมาทันที เมื่ออ่านข้อความที่ส่งเข้ามาจนจบ ชายหนุ่มรีบกดโทรศัพท์โทรออกหาลูกน้องคนสนิททันที

‘ฮัลโหลครับนาย’

“มารีน่าเป็นยังไงบ้าง วันนี้เธอได้ทำอะไรแปลกๆบ้างหรือเปล่า?”

ที่เขาต้องถามแบบนี้เพราะเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ามารีน่าจะสามารถทำอะไรได้อีก เขาอุส่าห์ขังเธอเอาไว้ขนาดนั้นแล้วเธอยังจะหาหนทางบอกพี่ชายตัวเองได้อีกงั้นหรอ หรือไอ้ชาร์ลเป็นคนบอก?แต่ถ้าไอ้นั่นบอกจริงชายของเธอคงจะไม่ทักมาถามหรอกจริงมั้ย คงพากันบุกไปที่เกาะของเขาตั้งแต่แรกแล้ว

“ก็ปกตินะครับ เอ่อ แต่มีแปลกอยู่เรื่องนึง”

ชาลีเว้นวรรคเอาไว้เพราะกำลังครุ่นคิด ก็การที่มารีน่าเรียกทีน่าให้ขึ้นมาพบ มันก็นับมาเป็นเรื่องแปลกสำหรับเขาอยู่ไม่น้อย

“อะไร”

“คุณมารีน่าขอให้คุณทีน่าขึ้นมาพบครับ บอกว่ามีเรื่องของผู้หญิ้งผู้หญิงจะคุยกัน”

คริสเตียนเข้าใจได้ในทันทีว่าสมองน้อยๆของมารีน่ากำลังคิดจะทำอะไร หรือบางทีเธออาจจะทำไปแล้วด้วย กลับถึงบ้านเมื่อไหร่เจอลงโทษแน่ยัยตัวดี!

“เฝ้าไว้ ห้ามให้มารีน่าคุยกับใครอีกเด็ดขาด ฉันกำลังกลับ”

“ครับนาย”

เมื่อวางสายเสร็จคริสเตียนจึงหยิบโทรศัพท์ของมารีน่าขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะกดตอบกลับข้อความที่พี่ชายของเธอส่งมาถาม เพื่อแกล้งเป็นเธอ เขาบอกทางนั้นไปว่าเธอสบายดี เรื่องโดนลักพาตัวคือเรื่องเข้าใจผิด ชายหนุ่มยิ้มกริ่มออกมาอย่างพึงพอใจ เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังถือไพ่เหนือกว่าแม่ลูกนกอ่อนหัดอย่างเธอ กลับไปเขาจะจับเธอกดให้หายอยากเลย คอยดูสิ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel