บทย่อ
ลัลลามีนและยอเรที่เติบโตจากบ้านเด็กกำพร้า จะทำอย่างไร เมื่อจู่ๆชีวิตของเขาสองคนต้องเข้าไปพัวพันกับตระกูลบุหลัน และเมื่อได้รู้ความจริงบางอย่างเข้า ชีวิตของพวกเขาทั้งสองกลับต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
บทนำ
บทนำ
บ้านสีขาวหลังใหญ่ราวกับคฤหาสน์ ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางพื้นที่ขนาดใหญ่ ชายฉกรรจ์ในชุดสูทสีดำสนิทต่างเดินกันตรวจตราดูความเรียบร้อยไม่มีหยุดพัก รถยนต์คันหรูหลายสิบคันจอดสนิทเรียงรายอยู่ภายในลานจอดรถขนาดใหญ่ ตัวอักษรบรรจงเขียนอยู่หน้าบ้านตัวขนาดใหญ่ “บุหลันขาว” ในแวดวงนักธุรกิจและมาเฟีย ไม่มีใครไม่รู้จักตระกูลนี้ ชื่อเสียงทั้งด้านดีและด้านชั่วต่างถูกกล่าวขานกันมานาน
“นี่พ่อยังไม่เลิกตามหาบุหลันมรกตอีกหรอครับ” เซตัล ลูกชายคนโตของตระกูล ผู้เป็นเจ้าของส่วนสูงร้อยแปดสิบห้า ใบหน้าค่อนไปทางตะวันตกตามแบบฉบับผู้เป็นแม่ แต่นิสัยของเขานิ่งและดุดันเหมือนกับผู้เป็นพ่อไม่มีผิด ชายหนุ่มเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงยังฝั่งตรงข้าม
“นั่นสิครับ ผมเห็นพ่อตามหามันมาตั้งแต่ผมเกิดเลยล่ะมั้ง” ซีโตนลูกชายคนกลางเอ่ยขึ้นบ้าง เขามีส่วนคล้ายคลึงกับพี่ชาย ต่างกันเพียงใบหน้าของเขาค่อนไปทางเอเชียเสียมากกว่า
“ก็มันของสำคัญนี่นา พวกบุหลันดำก็ตามหาของสิ่งนี้อยู่เหมือนกัน” ไททศ ชายวัยกลางคนว่าต่อ เมื่อเห็นลูกๆ ดูเบื่อหน่ายกับการตามหาบุหลันมรกตของเขาเหลือเกิน
“บุหลันมรกตหน้าตาเป็นยังไงครับ ถ้ามันมีอยู่จริงๆ ทำไมมันถึงได้หายากมากขนาดนี้” ไซคิล ลูกชายคนสุดท้อง ความฉลาดของเขาไม่เป็นรองพี่ชายทั้งสองเลยสักนิด ไซคิลเป็นเสมือนเสือผู้หญิง ความรวย ความเก่ง และฐานะที่ไม่ธรรมดา ใครๆ ก็อยากจะได้เขาทั้งนั้น
“ฉันเคยเห็นมันอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อนานมากแล้ว”
“...”
“เมื่อก่อนตระกูลบุหลัน เป็นตระกูลของกลุ่มเพื่อนสนิท ที่ร่วมกันก่อตั้งขึ้นมา แต่มีการหักหลังกันเกิดขึ้น ทำให้แยกออกเป็นสามตระกูล คือบุหลันขาว บุหลันดำ และก็บุหลันมรกต”
“...”
“ทุกตระกูลจะมีทับทิมเป็นของตัวเอง พวกแกต่างก็รู้ดี ว่าการปกป้องทับทิมของตระกูล คือสิ่งสำคัญที่สุด”
“แล้วตระกูลบุหลันมรกตหายไปไหนล่ะครับ ตอนนี้เห็นแต่พวกบุหลันดำ” ซีโตนเอ่ยถึงคู่ตระกูลที่แทบจะเป็นศัตรูกันอยู่ตลอดเวลาอย่างตระกูลบุหลันดำ ใครๆ ก็รู้ว่าตระกูลของเขากับบุหลันดำนั้นไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่
“ที่ตระกูลเราแยกออกจากกัน เพราะมีข่าวเรื่องการหักหลัง ตั้งแต่ที่แบ่งออกเป็นสามตระกูล ก็ไม่เคยมีใครพบเจอพวกบุหลันมรกตอีกเลย”
“...”
“บุหลันขาว เป็นทับทิมขาวที่ถูกแกะเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ส่วนบุหลันดำ เป็นทับทิมสีดำที่ถูกแกะเป็นพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเหมือนกัน”
“แบบนี้บุหลันมรกต ก็คงเป็นทับทิมสีมรกตที่ถูกแกะเป็นพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวสินะครับ” ไซคิลถามกลับ ในเมื่อทับทิมสีขาวกับสีดำถูกแกะเป็นรูปเดียวกัน ทับทิมมรกตก็คงไม่ต่างกัน
“ไม่ใช่” คำตอบของผู้เป็นพ่อทำเอาลูกชายทั้งสามต่างประหลาดใจ
“พ่อหมายความว่ายังไงครับ” เซตัลที่เงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้นบ้าง
“ต้นตระกูลของบุหลันขาวและบุหลันดำ มีทั้งความดี ความชั่ว ความโลภ ตอนที่สร้างบุหลันประจำตระกูลขึ้นมา ไม่ว่าจะพยายามทำให้เป็นพระจันทร์เต็มดวงยังไง ก็ทำไม่เคยสำเร็จ จนสุดท้ายก็เลยต้องทำเป็นแค่พระจันทร์ครึ่งเสี้ยว แต่ของบุหลันมรกต กลับเป็นพระจันทร์เต็มดวง”
“แสดงว่าต้นตระกูลของบุหลันมรกต เป็นคนดีอย่างนั้นหรอครับ” ซีโตนว่าพลางหัวเราะออกมา ใครต่างก็มีความดี ความชั่ว ความโลภกันทั้งนั้น
“จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ผิด แต่พวกแกดูนี่ก่อน” ไททศยื่นรูปถ่ายใบเก่าๆ ให้แก่ลูกชายทั้งสาม
“นี่มัน...” ไซคิลทำหน้าฉงนเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ในรูป
“บุหลันมรกตมีสร้อยที่เป็นจี้พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวสีมรกต เรื่องนี้ไม่มีใครรู้มาก่อน”
“แบบนี้เราก็อาจจะตามหาได้ง่ายขึ้นสินะครับ” ซีโตนมองดูรูปพลางถามกลับ
“ที่ตระกูลบุหลันมรกตหายไปก็เพราะว่าไม่อยากช่วงชิงอำนาจใดๆ กับกลุ่มเพื่อนอีกต่อไป ฉันใช้เวลาตามหามาตลอดยี่สิบปี ก็ยังไม่พบ”
“นี่ต้นตระกูลของเรา มาจากกลุ่มเพื่อนที่เคยรักและไว้ใจกัน จากนั้นก็หักหลังกันอย่างนั้นหรอครับเนี่ย” ไซคิลว่าพลางทำหน้าครุ่นคิด เขาไม่ค่อยสนใจประวัติความเป็นมาของตระกูลสักเท่าไหร่ เพราะตระกูลเขาเก่าแก่เป็นร้อยปี เรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาก็อาจจะผิดเพี้ยนไปบ้าง
“เอาเถอะ ตอนนี้พวกแกก็โตกันหมดแล้ว ฉันว่าฉันควรวางมือจากเรื่องนี้สักที”
“หมายความว่าพ่อจะเลิกตามหาบุหลันมรกตนี่แล้วใช่ไหมครับ”
“ป่าว พวกแกสามคนต่างหาก ที่ต้องเป็นคนไปหาบุหลันมรกตนี่แทนฉัน” ลูกชายทั้งสามคนต่างถอนหายใจออกมา ตั้งแต่พวกเขาเกิดมา ก็เห็นว่าผู้เป็นพ่อพยายามตามหาของสิ่งนี้มาตลอด แบบนี้มันโยนงานให้กันชัดๆ
“พ่อจะอยากได้บุหลันมรกตมาทำไมกัน” เซตัลถามออกมาด้วยความสงสัย ชื่อเสียงเงินทองพวกเขาก็มีกันล้นพ้น พ่อเขาจะอยากได้บุหลันมรกตมาอีกทำไมกัน
“บุหลันมรกตเป็นเครื่องหมายของความเมตตา พวกบุหลันดำก็ตามหามันมาตลอดเหมือนกัน ฉันไม่อยากให้มันตกไปอยู่ในมือพวกชั่วแบบนั้น พวกบุหลันมรกตเป็นคนดีเกินไป ฉันเกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี”
“ถ้าบุหลันมรกตตกไปอยู่กับพวกบุหลันดำ จะเกิดอะไรขึ้นครับ”
“ถ้าบุหลันมรกต ตกไปอยู่ในมือของพวกบุหลันดำ นั่นหมายความว่า คนของตระกูลบุหลันมรกตได้ตายกันหมดแล้ว” บุหลันขาวเป็นตระกูลที่ถือเอาผลประโยชน์เป็นใหญ่ ใครดีมาพวกเขาก็ดีกลับ แต่หากใครร้ายมาพวกเขาก็พร้อมที่จะร้ายกลับเช่นกัน แต่ตระกูลบุหลันดำ ถือเอาตนเองเป็นใหญ่ ไม่สนหน้าไหนทั้งสิ้น พวกมันต้องการครอบครองทับทิมทั้งสามตระกูล เพื่อที่จะได้ขึ้นเป็นใหญ่ของประเทศนี้
“นึกว่าเรื่องเล่นๆ ซะอีก” ไซคิลพึมพำ
“เอาเป็นว่าฉันฝากเรื่องนี้ด้วยละกัน มีอะไรก็ไปทำกันเถอะ” ลูกชายทั้งสามต่างลุกขึ้นยืน ก่อนจะก้มหัวแสดงความเคารพต่อผู้เป็นพ่อ ก่อนจะแยกย้ายกันออกไป ไททศมองตามลูกชายทั้งสามที่เดินออกไปจนสุดสายตา
เซตัล ลูกชายคนโต เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง เขาเป็นเจ้าของโรงแรมและบ่อนคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โรงแรมของเขามีมากกว่าร้อยสาขาทั่วโลก หญิงสาวรอบตัวเขาต่างก็อยากได้เขามาครอบครองทั้งนั้น อารมณ์ของเขาดุร้ายยิ่งกว่าเจ้าป่า ใครก็ตามที่หักหลังหรือคิดทรยศ เขามักจะกำจัดมันด้วยความโหดร้ายและป่าเถื่อนเสมอ ความคิดความอ่านของเขาฉลาดเป็นกรด ยากจะตามทันนัก
ซีโตน ลูกชายคนกลาง เป็นนักแข่งรถฝีมือฉกาจ เขาเป็นนักแข่งรถอันดับหนึ่งสามปีซ้อน และยังไม่มีใครล้มเขาได้ เขาเป็นเจ้าของสนามรถแข่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซ้ำยังมีคารมที่ชาญฉลาด เขาจัดการปัญหาด้วยความคิด แม้อารมณ์ของเขาจะไม่ดุร้ายเท่าผู้เป็นพี่ แต่เขาก็เลือดเย็น จนไม่มีใครอยากต่อกรด้วย
ไซคิล ลูกชายคนเล็ก ถึงแม้จะเป็นน้องเล็กสุด แต่เขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพี่ชายทั้งสองเลย ไซคิลเป็นคนที่เข้าใจยากที่สุด เขามีทั้งความเมตตาและความโหดร้ายอยู่ในตัว ไม่ชอบตกเป็นรองใคร ความเจ้าชู้และความเป็นน้องคนสุดท้อง ทำให้เขาชอบทำอะไรตามใจอยู่เสมอ ไซคิลเปิดไนต์คลับที่ใจกลางเมือง เขาดูแลและบริหารมันด้วยตัวเอง
เมื่อพูดถึงลูกชายทั้งสามคน ไททศก็อดที่จะหนักใจไม่ได้ เขาไม่ได้ห่วงเรื่องการบริหารอะไรทั้งนั้น แต่ยิ่งลูกๆ ของเขามีชื่อเสียง หรือเก่งกันมากเท่าไหร่ ความอันตรายก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น แบบนี้จะให้เขาไม่ห่วงได้อย่างไร หากพลาดขึ้นมากันแค่เพียงเสี้ยววินาที นั่นก็อาจจะหมายถึงความตายได้เลยล่ะ ตระกูลของเขาไม่ใช่ตระกูลกระจอก คนในตระกูลก็ต่างมีหน้ามีตา เป็นที่ยำเกรง ชีวิตของเขาและลูกๆ ต่างมั่นคงทางฐานะ แต่ชีวิตกลับแขวนอยู่บนเส้นด้าย ที่เขาพยายามตามหาบุหลันมรกตให้พบ ก็เพราะไม่อยากให้ของที่มีค่ามหาศาลแบบนั้น ไปตกอยู่ในมือของใครทั้งนั้น!!!