บท
ตั้งค่า

4. อยากรู้

“อัสเซนเขาชอบทำอะไรด้วยตัวเอง เขามีแผนจะเดินทางไปเมืองไทย เพื่อดูการเพาะปลูกข้าวแล้วก็พืชผลทางการเกษตร เป็นการวางแผนเพื่อให้ประเทศของเราได้มีอาหารอย่างไม่ขาดแคลน หลานก็รู้ไม่ใช่หรือว่าประเทศของเรา มีแต่พื้นที่ทะเลทรายเป็นส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะเพาะปลูกอะไรได้ ต้องอาศัยการนำเข้าอาหารจากต่างประเทศทั้งนั้น อัสเซนเขาก็ต้องหาทางที่จะซื้อหรือเช่าที่ดินในประเทศที่สามารถเพาะปลูกเป็นอาหารได้ระยะยาว จึงต้องหาข้อมูลต่าง ๆ”

“ไม่เห็นต้องไปซื้อหรือเช่าที่ดินให้มันวุ่นวายก็ได้ เราแค่สั่งซื้อข้าวปลาอาหารจากต่างประเทศก็ได้นี่เพคะ ประเทศของเรามีรายได้จากการขายน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ มีเงินมากมายมหาศาลพอที่จะซื้ออาหารดี ๆ ได้จากทั่วโลกอยู่แล้ว”

“ถ้าหลานคิดแบบนั้นคงได้ถูกอัสเซนคัดค้านว่าคิดง่ายเกินไป”

พระมเหสีทรงแย้มสรวลอย่างอารมณ์ดี

“แล้วจะคิดให้มันยุ่งยากทำไมล่ะเพคะท่านป้า”

เจ้าหญิงไม่เข้าพระทัยอยู่ดี

“อัสเซนเขามองการณ์ไกล และเป็นคนรอบคอบ เขามองไปถึงอนาคตข้างหน้าหากมีสงครามหรือเกิดปัญหาการขาดแคลนอาหาร จนไม่สามารถจะสั่งซื้อได้หรือเกิดการโก่งราคาแพงไม่ให้เรามีทางเลือก เขาจึงเตรียมการรับกับปัญหาเอาไว้ก่อน อัสเซนมองแบบคนที่เป็นผู้นำของประเทศ”

พระมเหสีทรงกล่าวถึงพระโอรสด้วยความชื่นชมและภูมิใจ

“แต่เจ้าชายเรียนจบด้านวิศวะคอมพิวเตอร์ ไม่ได้มีความรู้เรื่องเกษตรสักหน่อย หลานว่าน่าจะให้คนอื่นเป็นคนไปดำเนินการเรื่องนี้มากกว่า”

เจ้าหญิงยังทรงแสดงความคิดเห็นต่อ

“อัสเซนนั่นแหละที่ควรจะจัดการเอง เพราะอีกหน่อยเขาก็ต้องสืบทอดเป็นเจ้าผู้ครองรัฐต่อจากท่านลุงของหลาน ดังนั้น อัสเซนก็ต้องศึกษารอบรู้ทุกด้านเพื่อความสุขของประชาชน” พระมเหสีตรัสให้เจ้าหญิงได้เข้าพระทัย

“เพื่อนคนไทยของเจ้าชาย เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพคะ”

พอจำนนต่อเหตุผลแล้วเจ้าหญิงก็ทรงถามเรื่องใหม่ต่อ

“ผู้ชายจ๊ะ”

เจ้าหญิงทรงแย้มโอษฐ์ออกมาได้บ้าง เมื่อได้ทราบว่าเพื่อนคนนั้นไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่คิดหวาดหวั่นพระทัย

“นายคนนั้นก็คงจะดีใจจนเนื้อเต้นไปเลยสินะที่ได้พ

กับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์แห่งซีนาเบีย”

เจ้าหญิงคาดเดาด้วยน้ำเสียงออกจะเหยียด ๆ

“อัสเซนไม่ได้เปิดเผยฐานะที่แท้จริงให้เพื่อนคนนี้ทราบหรอก เขาใช้ชื่ออัลเฟรด และใช้ชื่อเล่นว่าแฟรงก์จ๊ะ”

“ต๊าย..จริงหรือเพคะ..เจ้าชายทำยังกะเป็นเรื่องลึกลับไปได้ ต้องปลอมตัวใช้ชื่อปลอมไปเที่ยว”

เจ้าหญิงทรงพระสรวล

“อัสเซนชอบทำตัวสบาย ๆ อยู่แล้ว ตอนที่เขาเรียนอยู่เมืองนอกก็ใช้ชื่ออัลเฟรด กับ แฟรงก์ มาตลอด มันก็ไม่แปลกหรอกนะนูรีน” พระมเหสีตรัส

“แล้วทำไมเจ้าชายต้องพาเพื่อนคนนั้นไปเที่ยวด้วยตัวเองด้วย ความจริงให้ใครพาไปก็ได้ อย่างอัมมานนั่นไงเพคะ อยู่ว่าง ๆ ทำไมไม่ไปทำหน้าที่แทนเจ้าชาย เอ๊ะ..ทำไม

อัมมานถึงไม่ไปด้วยล่ะเพคะ”

เจ้าหญิงทรงทำท่าสงสัยในตอนท้าย

“อัสเซนเป็นคนบอกไม่ให้อัมมานไปด้วยจ๊ะ เขาต้องการความเป็นส่วนตัว อยากไปเที่ยวแบบไม่ให้ใครรู้จักน่ะ”

“ไม่ให้ใครรู้จักได้อย่างไรเพคะท่านป้า เจ้าชายอัสเซนเป็นถึงพระโอรสของท่านชีคซาบาห์เจ้าผู้ครองรัฐแห่งมัสกัสตา ใครไม่รู้จักก็แย่แล้ว”

“อัสเซนแต่งตัวแบบนักท่องเที่ยวปกติ เขาไม่ได้แต่งตัวเป็นเจ้าชายเต็มยศเหมือนตอนที่ไปออกสื่อนี่จ๊ะ”

เจ้าหญิงรับฟังด้วยสีพระพักตร์ที่ไม่สบอารมณ์นัก เพราะรู้ดีว่าเจ้าชายอัสเซนนั้นจะปรากฏตัวต่อสาธารณชนหรือออกสื่อต่าง ๆ ด้วยชุดเสื้อกัลป์บียะสีขาวตัวยาว สวมทับด้วยเสื้อคลุมมิชลาหะสีดำทับข้างนอก และคลุมพระเศียรแบบอาหรับ รัดด้วยอะกาลทองคำ คนทั่วไปจึงเห็นภาพของเจ้าชายในฉลองพระองค์แบบเป็นทางการเสมอ แต่เจ้าหญิงทรงเห็นว่า แม้เจ้าชายจะอยู่ในชุดฉลองพระองค์แบบไหนก็ทรงดูดีไปหมด เจ้าชายอัสเซนทรงสง่างามเสมอ จนเป็นที่ปรารถนาของสาว ๆ ทุกคน ไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่เจ้าหญิงที่เป็นพระญาติในเชื้อพระวงศ์ด้วยกันเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel