บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2【2】

“ไม่เป็นไรแน่หรือ” นางหูเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

“ไม่เป็นไรแน่นอนเจ้าค่ะ” ซูลี่ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจและยิ้มกว้าง

“ได้ เช่นนั้นย่ากับท่านปู่ถงจะไปดูการแสดงที่ตรงโน้น หากพวกเจ้าต้องการสิ่งใดก็ไปตามหาข้าได้ที่นั้น ลี่เอ๋อร์ ดูแลน้องชายให้ดีเล่า” เมื่อนางหูมองไปรอบ ๆ ก็เห็นดังที่เด็ก ๆ ได้กล่าวมา

คนพลุกพล่านเช่นนี้ ทั้งยังมีทหารเดินตรวจตราตลอด หากมีโจรเข้ามาก็คงเป็นโจรที่โง่ที่สุดดังเช่นที่เด็ก ๆ กล่าวมา นางจึงมั่นใจว่าเด็ก ๆ จะไม่เป็นไร

“เจ้าค่ะ” ซุนซูลี่น้อมรับ แต่เมื่อคล้อยหลังท่านปู่ถงและท่านย่าหู นางเองก็หันมาถามน้องชายด้วยความสงสัยเช่นกัน

“หมิงหมิงน้อย เจ้าบอกให้ข้าไล่ท่านย่าหูกับท่านปู่ออกไปเช่นนี้ เจ้ามีแผนจะทำอันใดหรือไม่ รีบบอกข้ามาเร็วเข้า”

จางอี้หมิงยกยิ้ม ก่อนหน้านี้เขาแอบกระซิบซูลี่ให้ทำตามที่เขาบอกด้วย ซึ่งพี่สาวคนสวยก็ทำตามแต่โดยดี เด็กน้อยยิ้มชอบใจและตอบกลับซุนซูลี่ไปว่า

“ก็ต้องเป็นเรื่องที่สนุกน่ะสิขอรับ พี่ซูลี่กับพี่หมิงเย่รีบตามข้ามาเร็วเข้าขอรับ”

จางอี้หมิงตอบคำถามและเดินนำพี่น้องบ้านซุนออกจากงาน พวกเขาเดินตรงไปทางริมแม่น้ำที่อยู่ห่างออกไปจากสถานที่จัดงานประจำปี

“หมิงหมิงน้อย เหตุใดต้องมาในที่มืดเช่นนี้เล่า ข้ากลัวนะ” หมิงเย่เอ่ยถามน้องชายพลางหยุดเดินตามพี่สาวกับน้องชายของตนเองอย่างหวาดระแวง

“ท่านพี่หมิงเย่ อีกไม่ไกลแล้วขอรับ มันอยู่ตรงข้างหน้านี้เอง ท่านพี่เห็นต้นไม้ใหญ่ตรงนั้นหรือไม่ นั่นแหละคือที่ที่เราจะไปกัน ข้าจะพาท่านพี่ไปดูหิ่งห้อยขอรับ มันสวยมากในตอนกลางคืน”

จางอี้หมิงหยุดเดินและหันหน้ามาหาพี่ชาย มือของเขาถือตะเกียงซึ่งเป็นสินค้าที่ได้จากการทำน้ำมันจากลูกหนามไปทางหมิงเย่พลางอธิบายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“เจ้าก็พูดเช่นนี้มาตั้งหลายครั้งแล้ว ข้าว่าพวกเรากลับกันเถอะ ตรงนี้ไม่มีคนเลย ข้ากลัวนะหมิงหมิงน้อย” หมิงเย่ที่เห็นว่าโน้มน้าวน้องชายไม่ได้จึงบอกไปตามตรงถึงความกลัวของตนเอง

จางอี้หมิงเอื้อมมือไปจับมือของหมิงเย่ เขากำลังจะบอกให้พี่ชายสบายใจและคลายความกังวล ทว่าเสียงของซูลี่ก็ดังลั่นขึ้นมาเสียก่อน

“กรี๊ด ปล่อยข้านะ”

ซุนซูลี่ร้องออกมาเมื่อสัมผัสได้ว่ามีคนมาจับตัวนางจากทางด้านหลัง เด็กสาวจึงรีบเอี้ยวตัวหันไปมองแล้วก็ต้องตกใจออกมา ซึ่งเสียงร้องของซุนซูลี่ทำให้สองหนุ่มน้อยหันไปมองทันที

“พี่ใหญ่ พวกเราช่างโชคดีเสียจริง มีสินค้ามาถึงมือโดยไม่ต้องออกแรง ข้านึกว่าพวกเราจะพลาดคืนนี้เสียแล้ว ฮะ ฮะ ฮะ”

ถึงแม้ว่าจางอี้หมิงจะมองเห็นได้ไม่ชัด เพราะแค่แสงจากตะเกียงอันเดียวไม่เพียงพอให้มองเห็นใบหน้าหรือรูปร่างของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน แต่ก็พอจะบอกได้ว่าผู้ที่กำลังพูดอยู่มีโครงร่างสูงใหญ่ล่ำสัน

“ปล่อย ปล่อยข้านะ เจ้าคนชั่ว” ซุนซูลี่ร้องออกมาอีกครั้งด้วยความกลัวและตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

“ปล่อยท่านพี่ของข้านะ” ซุนหมิงเย่ร้องออกมาเช่นกัน

“เจ้าเด็กน้อย เหตุใดข้าต้องปล่อยสินค้าที่งดงามเช่นนี้ด้วย เอาไปเลี้ยงอีกเพียงไม่กี่ขวบปี คาดว่าคงขายได้ราคาดีเป็นแน่ ท่านเห็นด้วยหรือไม่พี่ใหญ่” ชายคนเดิมเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างถูกใจนักหนาและหันหน้าไปถามชายอีกคนที่มีรูปร่างเล็กกว่าคนแรกอยู่หนึ่งส่วน

“ไม่ต้องพูดมาก อย่าเสียเวลา รีบทำเข้าหรือพวกเจ้าจะรอให้ทหารมาเจอเข้าเสียก่อน” ชายร่างเล็กนั่นเอ่ยเสียงเข้ม ทำให้ชายร่างใหญ่เงียบเสียงลงและก้มตัวลงอุ้มซุนซูลี่แบกขึ้นบ่า

“ปล่อย ปล่อยข้า” ซุนซูลี่ร้องไห้ออกมาเสียงดัง นางตัวสั่นระริก น้ำตาก็เริ่มเอ่อคลอเบ้า

หมิงเย่รีบวิ่งเข้าไปใช้มือทุบตรงขาของชายร่างใหญ่ที่แบกพี่สาวตนเองไว้อย่างลืมความกลัวใด ๆ ทั้งสิ้น ส่งผลให้ชายร่างใหญ่นั่นผลักหมิงเย่กระเด็นไปตกตรงพงหญ้าข้างทางเดิน

จางอี้หมิงยังคงตั้งสติได้ เขาเอ่ยเรียกชายสองคนนั้นไว้เสียงดัง

“ช้าก่อนพี่ชาย หากท่านต้องการเงิน พวกข้ามีให้ ขอเพียงปล่อยพี่สาวข้าไปได้หรือไม่”

“หึ เจ้าเด็กน้อย ข้าไม่สนใจเงินของเจ้าหรอกนะ สิ่งที่ข้าสนใจคือสาวน้อยบนบ่าข้านี่ต่างหากเล่า” ชายร่างใหญ่เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“เจ้าโง่จะเสียเวลาโต้ตอบเจ้าเด็กพวกนี้ไปทำไม รีบไปกันเถอะ” ชายร่างเล็กตวาดลูกน้องและเตรียมจะเดินจากไป

จางอี้หมิงใจหวิว เขารู้สึกเสียใจขึ้นมา แต่เขาจะไม่ยอมให้พี่ซูลี่เป็นอันใดเด็ดขาด จางอี้หมิงจึงร้องตะโกนสั่งพี่ชายหมิงเย่ไปอย่างร้อนรน

“พี่หมิงเย่รีบไปตามคนมาช่วยเร็วเข้า”

เมื่อบอกพี่ชายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กน้อยก็กระโดดเข้าไปทุบตีที่ต้นขาของชายร่างใหญ่นั่นอย่างลืมกลัวเช่นกัน

หมิงเย่ได้ยินน้องชายบอกเช่นนั้นก็ตั้งสติได้ เขารีบวิ่งกลับเข้าไปในตัวงานทันที แต่ยังไม่ทันจะพ้นจากบริเวณนี้ ตัวของเขาก็ถูกหิ้วขึ้นมาจากพื้นเสียก่อน ปรากฏว่าเป็นหัวหน้าโจรที่รีบวิ่งมาจับตัวเขาไว้อย่างไม่ยอมให้หนีไปได้

“ปล่อย ปล่อยข้านะ” ซุนหมิงเย่ร้องพลางใช้มือทุบตีป่ายเปะไปทั่ว

“ปล่อยให้เจ้าไปแจ้งทหารให้มาจับพวกข้าเช่นนั้นหรือ ฝันไปเถอะเจ้าเด็กน้อย” ชายหัวหน้าผู้นั้นหิ้วซุนหมิงเย่ด้วยมือเดียวแล้วเดินกลับมาสมทบกับชายร่างใหญ่

“พี่ใหญ่ จะทำเช่นไรกับเด็กพวกนี้ดี”

“จับมัดไว้ใต้ต้นไม้นั่นแหละ ส่วนเด็กหญิงนี่พวกเราก็เอาไปขายให้หอนางโลมเมืองข้างหน้าก็คงได้หลายตำลึง” ชายหัวหน้าเอ่ย

จางอี้หมิงได้ยินเช่นนั้นจึงตัดสินใจก้มลงไปกัดที่แขนของชายร่างใหญ่จนจมเขี้ยว แรงทั้งหมดที่มีจางอี้หมิงใส่ลงไปไม่ยั้ง ส่งผลให้โจรร้ายร้องตะโกนขึ้นด้วยความเจ็บปวด เขาวางซุนซูลี่ลงบนพื้น ก่อนที่จะใช้มือที่ว่างงัดเอาใบหน้าของจางอี้หมิงขึ้นมาแล้วจับร่างของเด็กน้อยทุ่มลงไปบนพื้นสุดแรง

“อุก! อือ ”

จางอี้หมิงรู้สึกจุกและเจ็บไปทั้งตัวคล้ายกระดูกจะแตกสลาย ร่างกายระบมจนไม่มีเสียงเปล่งออกมาถึงแม้ว่าจะรู้สึกเจ็บมากก็ตาม เขาตะเกียดตะกายพยายามจะดันร่างตัวเองให้ลุกขึ้น

จางอี้หมิงดันตัวเองได้นิดหน่อย ก่อนจะเบิกตากว้างและหลับตาลงเตรียมพร้อมรับความเจ็บปวดที่มากขึ้นตามมาเมื่อเขาเห็นชายร่างใหญ่คนนั้นยกเท้าขึ้นสูงหวังเตะซ้ำลงไปบนร่างของตนเอง

ข้าขอโทษพี่ซูลี่ พี่หมิงเย่ ข้าขอโทษ

จางอี้หมิงได้แต่พร่ำขอโทษเด็กบ้านซุนอยู่เงียบ ๆ ในใจเมื่อเห็นว่าความซนของตนเป็นต้นเหตุที่ทำให้พวกเขาทั้งหมดอาจจะถึงแก่ความตายได้ จางอี้หมิงน้ำตานองหน้า เขาเจ็บปวดจากการถูกฝ่าเท้านั่นเตะลงมา

แต่ดูเหมือนจะยังไม่สาแก่ใจเจ้าโจรชั่ว อี้หมิงเห็นว่าชายคนนั้นเตรียมจะเตะเขาอีกครั้ง คงจะเพื่อเป็นการแก้แค้นที่เขาเข้ามาขัดขวางไม่ให้จับตัวซูลี่ไป

เด็กน้อยหลับตาแน่นในหูได้ยินเสียงซุนซูลี่กรีดร้องขอไม่ให้โจรพวกนี้ทำร้ายเขาและเสียงของหมิงเย่ที่ร้องลั่นอย่างหวาดกลัว เขาตัวสั่นเทา นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่มาอยู่ในโลกนี้ที่เขาถูกทำร้ายจนร่างกายบอบช้ำ

จางอี้หมิงพยายามคิดหาทางเอาตัวรอด เขานึกถึงหน้าท่านพ่อและท่านแม่ คิดถึงหน้าท่านย่าและทุกคนที่เขารัก เขายังไม่อยากตาย เขายังอยากอยู่กับผู้คนเหล่านี้ต่อไป อยากอยู่รับฟังคำสอนของจางอี้เทา อยากอยู่ฟังหลี่อ้ายดุเมื่อซุกซน อยากอยู่ออดอ้อนนางหู

ได้โปรด...ใครก็ได้มาช่วยเขาและสองพี่น้องบ้านซุนด้วยเถอะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel